สัมผัสความแรงสไตล์ BMW i ประหยัด รักษ์โลก

BMW
คอลัมน์ : เทสต์คาร์
ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง

ถือเป็นค่ายรถยนต์ที่มีความชัดเจน ในฐานะผู้นำเสนอทางเลือกรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เบอร์ต้น ๆ ในบ้านเรา

สำหรับ ค่ายบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ที่มีความพยายามนำรถยนต์อีวี เข้ามาเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้า

เรียกครบครอบคลุมกลุ่มลูกค้า

และทำให้พอร์ตรถอีวีของตนเองมีความหลากหลาย อย่างต่อเนื่อง

วันก่อน บีเอ็มดับเบิลยู ลงทุนปิดแทร็ก “ปทุมธานี สปีดเวย์” เพื่อให้สื่อมวลชน และลูกค้า ได้มีโอกาสสัมผัสกับ

รถยนต์ไฟฟ้า 100% ของบีเอ็มฯ กันชนิดที่เรียกว่า ครบ

และเพื่อให้รับรู้สมรรถนะอันจัดจ้าน และพลังขับเคลื่อนที่รักษ์โลก ด้วยการเซตรูปแบบการขับขี่ในแทร็กมา 3 สถานี

ไม่รอช้า ออกสตาร์ตกันที่สถานีแรก กับรถซีดานไฟฟ้ารุ่นใหญ่ นั่งสบาย อย่าง บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport

ที่ทีมงานตั้งใจออกแบบรูปแบบการทดสอบ มาให้เราสัมผัสถึงความเร็ว ตั้งแต่ช่วงออกตัว ระยะเบรก ที่แม้ว่ารถคันนี้จะเป็นซีดานขนาดใหญ่ แต่การควบคุมนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด พละกำลังจากมอเตอร์ทำได้สูงถึง 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 745 นิวตัน-เมตร

จากจุดสตาร์ต กดคันเร่ง จุ่มลงไปให้เต็มเท้า

รถพุ่งทะยาน ความเร็วจาก 0-100 กม.ต่อ ชม. ที่ทำไว้ได้อยู่ที่ 5 วินาทีกว่า

ถือว่าทำได้ใกล้กับที่ บีเอ็มดับเบิลยู เขาเคลมไว้ ที่ 4.7 วินาที

ถามว่ารถมีความแรงขนาดนี้แล้ว ระบบเบรกมั่นใจได้ขนาดไหน

ต้องบอกว่า กดได้แน่ ๆ สั่งได้ตามเท้า เรียกว่าเฟิร์ม และปลอดภัยหายห่วง

BMW

ก่อนที่จะมาต่อกับซีดานขนาดย่อมลงมา อย่าง บีเอ็มดับเบิลยู i4 eDrive35 M Soprt เพื่อดูระบบการทรงตัว และระบบความปลอดภัย บนพื้นผิวถนนที่เปียก ลื่น

เพื่อให้เราสัมผัสกับประสบการณ์การบังคับควบคุมรถ ทั้งที่ใช้ระยะความปลอดภัยเข้ามาช่วยแบบ 100% และเปิดระบบไว้แค่ครึ่งเดียว และปิดระบบ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้ทราบถึงอาการจังหวะของรถกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

เราขับกันด้วยความเร็วเพียง 20-30 กม.ต่อ ชม. วิ่งไปบนแทร็กเปียก

จำลองสถานการณ์ ด้วยการหักพวงมาลัยไปด้านขวาจนสุด แล้วเหยียบคันเร่งให้จม ตัวรถหมุนเกือบ 180 องศา จากนั้นเราจะต้องเบรกเพื่อหยุดรถ พร้อมกับรักษาอาการควบคุมรถให้ได้

ซึ่งในรอบแรก เป็นการหมุนกลับแบบ 180 องศา จากนั้นจึงให้เบรก เพื่อหยุดรถ

มาในรอบที่ 2 ทดลองเปิดระบบช่วยเหลือครึ่งหนึ่ง ปรากฏว่าระบบเข้ามาช่วยเล็กน้อย และผู้ขับเองก็จะต้องช่วยรักษาอาการของตัวรถไม่ให้หมุนมากเกินไป ซึ่งดีกว่ารอบแรก

ส่วนรอบสุดท้าย เราเปิดระบบช่วยเหลือเต็มระบบ ขับรถมาในลักษณะเดียวกัน แต่ปรากฏว่า ระบบเข้ามาจับและช่วยเหลือ 100% เราแทบไม่ต้องแก้อาการแต่อย่างใด

ระบบจัดการเสร็จสรรพ รถไม่เสียอาการ พร้อมขับมุ่งหน้าต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง

และเข้าสู่ สถานีสุดท้าย ไฮไลต์ที่หลายคนรอสัมผัส คือ บีเอ็มดับเบิลยู i5 eDrive40 M Sport และตัวแรง M60 xDrive ที่ว่ากันว่า แรงจัดจ้าน ใช้เวลา 0-100 กม. ที่แค่ 3.8 วินาทีเท่านั้น

BMW

รอบแรก ทีมงานให้เราสัมผัสกับ i5 eDrive40 M Sport ในครึ่งรอบสนาม ที่มีทางตรงยาว โค้งลึก-แคบ โค้งรูปตัวเอส สลาลอม เพื่อให้เห็นถึงสมรรถนะ ความคล่องตัว และความง่ายของการควบคุม

ก่อนที่จะขยับดีกรีมาที่ ตัวกลั่น i5 M60 xDrive กำลังจากมอเตอร์สูงสุด 601 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 795 แรงม้า มากกว่าเจ้า i5 eDrive40 M Sport

ต้องบอกว่า โอ้โห… แรงจัด ขับสนุก

แถมทีมงานยังให้เราได้สัมผัสกับ Launch Control ที่ตั้งใจเพื่อให้สัมผัสกับการออกตัวให้ได้ 3.8 วินาที

ด้วยการให้ผู้ขับเลือก ปรับไปที่โหมดสปอร์ต เท้าซ้ายกดแป้นเบรกไว้ เท้าขวากดแป้นคันเร่ง จนหน้าจอขึ้นว่า ระบบพร้อมทำงาน ขณะที่ตัวรถเองนั้นสั่นสะท้าน ด้วยแรงกำลังมหาศาล พร้อมจะโจนทะยานไปข้างหน้า

เมื่อได้สัญญาณปล่อยตัว แค่ถอนเท้าซ้ายออกจากเบรก รถพุ่งไปข้างหน้า ยิ่งกว่า อาการหลังติดเบาะ ได้ระยะที่กำหนดให้ชะลอความเร็ว ขับรถเข้าตามไลน์แทร็ก ไปสัมผัสกับเรี่ยวแรงของตัวรถในแทร็กทางตรง ทางเรียบ ชื่อชั้นของช่วงล่างบีเอ็มฯ นั้นหายห่วง เซตอัพมาอย่างดี การกระจายน้ำหนักของช่วงล่างแบบ 50:50

เขามีระบบ Adaptive Suspension Professional ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ระบบปรับองศาล้อหลังขณะเข้าโค้ง ช่วยรักษาสมดุลในทุกรูปแบบการขับขี่ ยิ่งทำให้จังหวะการเข้าโค้ง การกระจายน้ำหนักของรถ กับพลังมหาศาล ยิ่งขับยิ่งสุด

ถึงบรรทัดนี้ต้องบอกว่า BMW ตระกูล i ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่จะใช้คำว่า “สะใจ แรงจัด ขับสนุก รักษ์โลก” น่าจะไม่เกินจริง

BMW BMW BMWBMW