วินฟาสต์เล็งตั้งโรงงานผลิตในไทย เสียบมาตรการ EV3.5 เชื่อได้สิทธิประโยชน์มากกว่าอาฟต้า เบรกโมเดลธุรกิจเช่าแบตเตอรี่อีวีในไทย ประเดิมส่ง VF5 ทำตลาดขอขายปีแรก 6,000 คัน
วันที่ 23 พฤษภาคม 2567 นางสาวฮานา วู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินฟาสต์ ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า “วินฟาสต์” (VinFast) ในประเทศไทย เปิดเผยว่า พร้อมเปิดตัวรถยนต์เอสยูวีไฟฟ้าขนาดเล็ก VF5 ในเดือนมิถุนายนนี้ ช่วงแรกนำเข้ามาทำตลาดทั้งคัน (CBU) จากประเทศเวียดนามก่อน โดยมีแผนเข้าร่วมมาตรการ EV3.5 รวมถึงตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทยด้วย
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 16 มิ.ย. 2567
- หวยออกงวด 16 มิ.ย. ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล-สถิติหวยย้อนหลัง 10 ปี
- วิธียืนยันตัวตน แอปทางรัฐ ผ่าน 7-11 รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทำอย่างไร
“เรากำลังศึกษารายละเอียดของมาตรการส่งเสริม EV3.5 เพราะเชื่อว่าน่าจะได้สิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการและผู้บริโภคมากกว่าการใช้สิทธิอาฟต้า โดยเฉพาะเงินอุดหนุนอีกคันละ 1 แสนบาท”
สำหรับรถ EV จะประเดิมทำตลาดด้วยโมเดล VF5 ซึ่งมาพร้อมใช้มอเตอร์ขนาด 70 กิโลวัตต์ ให้กำลังสูงสุด 135 นิวตันเมตร โดยสามารถทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตร ภายในระยะเวลาต่ำกว่า 14 วินาที โดยสามารถวิ่งได้ไกล 326 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
ทั้งนี้วินฟาสต์ยืนยันว่า ยังไม่มีนโยบายในการขายรถโดยแยกราคารถกับแบตเตอรี่ ซึ่งจะขายเฉพาะตัวรถส่วนแบตเตอรี่ EV ปล่อยเช่า เหมือนกับที่ใช้ในประเทศอื่น ๆ คงจะต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษารายละเอียดต่อไปอีกระยะ
“ตลาดประเทศไทยเราจะยังไม่ใช่โมเดลธุรกิจให้เช่าแบตเตอรี่ในตอนนี้ เนื่องจากศึกษาพบว่าอาจจะไม่เหมาะกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย แต่ VinFast ได้ใช้โมเดลนี้ในเวียดนามและอินโดนีเซีย ซึ่งวันนี้เรายังไม่ใช้โมเดลนี้ในประเทศไทยแน่นอน”
นางสาวฮาน่ายังเปิดเผยถึงเป้าหมายยอดขายวินฟาสต์ในปีนี้ว่า ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งทางการตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าในไทยไว้ที่ 6% หรือมียอดขายที่ 6,000 คัน หรือขายเดือนละ 1,000 คัน โดยมีแผนจะเปิดตัวรถรุ่นอื่น ๆ อีกด้วย
ขณะที่เครือข่ายการจำหน่ายตั้งเป้าว่าจะมีไม่น้อยกว่า 30 แห่งในปีนี้ ส่วนตัวแทนจำหน่ายปีนี้จะมี 30 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ก่อนจะขยายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ และได้ตั้งเป้าภายใน 2 ปี หรือปี 2568 ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายในไทยไม่น้อยกว่า 20,000 คัน
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรในการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จ หลังจากบริษัทแม่ (VinGroup) ไม่มีการจัดตั้งบริษัท วินกรีนเข้ามาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ และอาจจะเข้ามาดำเนินการขยายเน็ตเวิร์กจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยด้วย
“เราได้เตรียมเปิดโชว์รูมแห่งแรกในเดือนมิถุนายนนี้ โดยเราต้องการให้พร้อม ทั้งผลิตภัณฑ์ ดีลเลอร์ ศูนย์บริการหลังการขาย การส่งอะไหล่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลไม่เกิน 24 ชั่วโมง และส่งอะไหล่ไปในต่างจังหวัด ใช้เวลา 3 วัน รวมไปถึงการประกันแบตเตอรี่ 10 ปี ไม่จำกัดระยะทางมาเป็นจุดแข็งและจุดขายสำคัญ”
