
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไทยแลนด์ ส่งรถยนต์เอสยูวี AMG ปลั๊ก-อินไฮบริดรุ่นแรก GLE 53 HYBRID 4MATIC+ รุ่นซีเคดี วิ่งด้วยไฟฟ้าได้ไกล 86 กิโลเมตร เคาะราคาที่ 5.85 ล้านบาท พร้อมส่งมอบตุลาคมนี้
วันที่ 24 กันยายน 2567 บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ รถเอสยูวี ปลั๊ก-อิน ไฮบริดเจเนอเรชั่นที่มาพร้อมการออกแบบด้วย ชุดแต่ง AMG Night Package กับสี Deep gloss black บนชุดกันชนหน้า “A-wing” กระจกมองข้าง คิ้วขอบกระจก แร็กหลังคา กันชนท้าย และปลายท่อคู่อันทรงพลังเพื่อมอบพลังความสปอร์ตและปราดเปรียวตามแบบฉบับของ AMG Exterior
ไฟหน้า MULTIBEAM LED ผสานการทำงานกับ Adaptive Highbeam assist Plus ที่ล้อฟอร์จ (Forged) ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ Cross-spoke ขนาด 22 นิ้ว พ่นด้วยสีดำด้าน matte black
ส่วนภายในห้องโดยสารมาพร้อม AMG Interior Package มาในสไตล์สปอร์ตในทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่ พวงมาลัย AMG Performance steering wheel, ระบบพวงมาลัย AMG Steering 3 สเตจ ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังและไมโครไฟเบอร์ หลังคากระจก Panoramic Sunroof
ระบบปฏิบัติการ MBUX7 แบบ zero-layer concept ที่ออกแบบมาตามรูปแบบโปรแกรม AMG ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอธีมพิเศษของ AMG รวมถึงการวัดแทร็กสนาม โดยควบคุมผ่านจอกลางแบบ widescreen cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว ที่เชื่อมต่อกับ AMG Head-up Display ขนาด 12.3 นิ้ว ติดตั้งระบบนำทางแสดงภาพเสมือนจริง MBUX augmented reality for navigation
ขณะระบบเสียง Burmester® surround sound system ลำโพง 13 ตัว กำลังขับ 590 วัตต์ พร้อม Dolby Atmos® รอบทิศทางราวกับอยู่ในสตูดิโอ
สำหรับ AMG DYNAMIC SELECT มีโหมดการขับเคลื่อน 7 รูปแบบ ตามไลฟ์สไตล์การขับขี่ รวมถึงโหมด Off-Road ที่มาพร้อมการแสดงผลแบบ Transparent bonnet ที่จะแสดงภาพใต้ท้องรถแบบ real-time ระบบกันสะเทือนแบบ AMG RIDE CONTROL+ ที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับระบบกันสะเทือนแบบถุงลม (Adaptive AIRMATIC) และระบบเบรกแบบ AMG high-performance brake system ด้านหน้า 6 พอร์ต และด้านหลัง 1 พอร์ต ติดตั้งระบบถ่ายทอดเสียงเครื่องยนต์และเทอร์โบแบบ AMG Performance exhaust system
ท่อของ Mercedes-AMG ยังเลือกปรับระดับเสียงท่อไอเสียได้ทั้งแบบ BALANCED หรือ POWERFUL ผ่านคอนโซลกลาง หรือบน AMG steering wheel buttons
เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี GLE 53 HYBRID 4MATIC+ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ แถวเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบ (M256M) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (Plug-in hybrid) ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ขนาด 31.2 kWh ทำงานผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G
โดยให้กำลังสูงสุด 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ส่วนอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 4.7 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รถคันนี้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าระยะทางสูงสุด 86 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP
โดยสามารถรองรับการชาร์จแบบ DC สูงสุด 60 kWh ใช้เวลาจาก 10-80% ภายในระยะเวลา 20 นาที
ส่วนการชาร์จแบบ AC สูงสุด 11 kWh ใช้เวลาจาก 0-100% ภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมง
รถรุ่นนี้ได้รับการติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG Performance 4MATIC+ สามารถกระจายแรงส่งกำลังได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังแบบอิสระเพื่อให้ตอบโจทย์บนทุกสภาพพื้นผิวถนน
ส่วนเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistance Plus Package และระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน (Active Emergency Stop Assist) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist DISTRONIC) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ
Hill-Start Assist ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system) โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program) ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST service interval indicator) ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัย (Active Steering Assist) และ Parking Package พร้อมกล้องรอบคัน 360° ฯลฯ
เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี GLE 53 HYBRID 4MATIC+มี 5 สี ได้แก่ สีขาว (Polar White) สีดำ (Obsidian Black) สีเทา (Selenite Grey) สีเทา (MANUFAKTUR Alpine Grey Solid) และสีแดง (MANUFAKTUR Hyacinth Red Metallic)
Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 5,850,000 บาท