ไทยซัมมิทชี้อุตสาหกรรมยานยนต์-ชิ้นส่วนกำลังถูกดิสรัปต์ “ผู้ผลิตรถยนต์” กำลังถูกลดชั้นเป็น “ผู้รับจ้างผลิต” เปลี่ยนบทบาทจาก “กองหน้า” เป็น “กองกลาง” ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนเป็นการเลือกซื้อบริการมากกว่าซื้อรถยนต์
เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2562 นางสาวชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานอาวุโส กลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท กล่าวในงานสัมมนาประชาชาติธุรกิจ “THAILAND 2020 ก้าวข้ามพายุเศรษฐกิจ” ภายใต้หัวข้อ Next Chapter อุตสาหกรรมยานยนต์ว่า ในปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ได้มีความเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมากและมีผู้เล่นที่หลากหลายมากขึ้น จากเดิมที่เป็นลักษณะของชัพพลายเชนที่มีลักษณะเส้นตรงยาว เริ่มต้นที่ผู้ผลิตวัตถุดิบ ส่งต่อไปยังผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (เทียร์1,2,3) จนกระทั่งไปที่ผู้ผลิตรถยนต์ จากนั้นรถยนต์จะถูกส่งต่อไปยังผู้จัดจำหน่าย ที่ถูกครอบครองโดยผู้ผลิตรถยนต์ ก่อนส่งรถยนต์ไปถึงมือผู้บริโภค
แต่ขณะนี้อุตสาหกรรมยานยนต์อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านทางด้านเทคโนโลยี หรือดิสรัปชั่น ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่า ในอนาคต 10-20 ปี โมเดลธุรกิจที่เหมาะสมที่สุดของแต่ละซัพพลายเชนจะเป็นแบบใด
โดย 4 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ ได้แก่ Mobility, Autonomous driving, Digitalization, Electrification โดยเชื่อว่าอนาคต คนจะไม่เลือกซื้อรถยนต์ แต่จะเลือกซื้อ Mobility หรือการเคลื่อนย้ายที่เหมาะสมกับความต้องการตัวเอง ในช่วงนั้นๆ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า ‘Mobility-as-a-Service’ หรือ MaaS ซึ่งอนาคตคนที่เลือกซื้อรถรถยนต์ จะมองไปที่เรื่องของการซื้อบริการ ส่งผลให้ธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์จะต้องมีการเปลี่ยนจาก “ธุรกิจการผลิต” มาเป็น “ธุรกิจการบริการ” ซึ่งถือเป็นการพลิกเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจแบบหน้ามือเป็นหลังมือ
ขณะที่เทคโนโลยีดิจิทัล ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่เข้ามาจะเปลี่ยนระบบซัพพลายเชน เปิดโอกาสให้หลากหลายธุรกิจเข้ามีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งธุรกิจมีเดีย พลังงาน อินฟาสตรัคเจอร์ ฯลฯ และทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ อาจจะได้รับผลกระทบมากกว่าผู้ผลิตชิ้นส่วน เพราะจากเดิม “ผู้ผลิตรถยนต์” คือผู้ควบคุมตลาด แต่อนาคตธุรกิจอื่นๆ ก็สามารถเข้ามาเป็นผู้เล่นในอุตสาหกรรมยานยนต์ได้มากขึ้น โดยเฉพาะยักษ์เทคโนโลยีทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นกูเกิล แอปเปิล ที่ประกาศจะเข้ามามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมนี้ และสามารถมีรถยนต์ยี่ห้อของตนเองขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องเป็นผู้ลงทุนเพื่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ แต่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีต่างๆ โดยการจ้างผู้ผลิตรถยนต์แทน
ดังนั้นบทบาทของ “ผู้ผลิตรถยนต์” จะเปลี่ยนไป สู่การเป็น “ผู้รับจ้างผลิต” ซึ่งหมายความว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ จากเดิมที่เป็นผู้ควบคุมตลาดก็จะถูกลดระดับเป็นผู้ผลิตในเทียร์ 1 เท่านั้น เพราะบริษัทยักษ์เทคโนโลยีก็จะกลายเป็นเจ้าของแบรนด์และเป็นผู้ส่งสินค้าและบริการถึงผู้บริโภคแทน
“ถ้าเปรียบกับเป็นนักฟุตบอล คือจากที่เล่นในตำแหน่งกองหน้าอยู่ดีๆ วันดีคืนดี ผู้ผลิตรถยนต์ถูกเปลี่ยนให้ไปเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ ก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างต้นทุน ซึ่งจะส่งผลกระทบกับรายได้และกำไรในอนาคต” นางสาวชนาพรรณกล่าว