ชาริชโฮลดิ้ง เลิก”รอยัล เอนฟิลด์” อีกแบรนด์ต่อจาก “ดูคาติ”

ชาริชโฮลดิ้ง ประกาศเลิกขาย รอยัล เอนฟิลด์ อีกแบรนด์ หลังก่อนหน้านี้ยุติเป็นตัวแทนจำหน่าย”ดูคาติ” หันเอาดีขายหุ่นยนต์ไฟฟ้า ,สกูตเตอร์ไฟฟ้า

วันที่ 25 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า บริษัท ชาริช โฮลดิ้ง จำกัด ภายใต้การบริหารงานของนายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร  ได้ตัดสินใจยุติบทบาทเป็นตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์รอยัลเอนฟิลด์  ทั้ง 2 สาขา ได้แก่ สาขาวิภาวดี และทองหล่อ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป ส่วนงานซ่อม (Royal Enfield Service) และจำหน่ายอะไหล่ (Royal Enfield Spare Parts)  ปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา

อภิชาติ ลีนุตพงษ์

ส่วนสาเหตุการยุติเป็นตัวแทนจำหน่าย เนื่องจากบริษัทแม่กระโดดเข้ามาทำตลาดเอง โดยก่อนหน้านี้ นายวิมัล ซุมบ์ลี หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก รอยัล เอนฟิลด์ เปิดเผยว่า  สโตร์แห่งแรกของรอยัล เอนฟิลด์ ตั้งอยู่ที่ทองหล่อ และในปี 2564 ที่ผ่านมามีเกือบ 33 สโตร์  เอ็กซ์คลูซีฟสโตร์ 18 แห่ง และศูนย์บริการที่ได้รับการรับรองอีก 15 แห่งทั่วประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ นายอภิชาติ เคยให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายการดำเนินธุรกิจของกลุ่มชาริชฯ ว่าจะโฟกัสเฉพาะธุรกิจที่มีโอกาส  และได้ยุติบทบาทเป็นตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ดูคาติ อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563  แต่ยังทำหน้าที่ดูแลแบรนด์ดูคาติต่อเนื่องมาจนหมดสัญญาในเดือนมิถุนายน 2564

ส่วนธุรกิจที่อยู่ภายใต้กลุ่มชาริสโฮลดิ้ง ปัจจุบันได้แก่ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายซูเปอร์คาร์ ลัมโบร์กินี ภายใต้ บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ,ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ไอโรบอท, รถจักรยานยนต์สกูตเตอร์ไฟฟ้า NIU  และกำลังมองหาโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติม

วิมัล ซุมบ์ลี

รอยัล เอนฟิลด์เป็นบริษัทในเครือของ บริษัท ไอเซอร์มอเตอร์ส ลิมิเต็ด ดำเนินธุรกิจโดยมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 921 ราย และ 638 สตูดิโอสโตร์ 638 แห่งทั้งในประเทศอินเดียและเมืองใหญ่ทั่วโลก รวมถึงมีการส่งออกรถมอเตอร์ไซค์ไปยังกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ด้วยการเติบโตมากกว่า 17% ทุกปีในตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และยอดขายในตลาดต่างชาติที่สูงถึง 96% ในปี 2562-2563 ทำให้รอยัล เอนฟิลด์กลายเป็นผู้นำในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง

ADVERTISMENT