คอลัมน์ : SD Talk ผู้เขียน : ธำรงศักดิ์ คงคาสวัสดิ์ https://tamrongsakk.blogspot.com
วันนี้มีเรื่องมาเล่าสู่กันฟังอีกแล้วครับ
เป็นคนละเรื่องแต่ HR ของบริษัทแห่งหนึ่งกลับจับมา match ให้เป็นเรื่องเดียวกันซะงั้น เลยไม่รู้ว่าจะมีบริษัทไหนยังใช้วิธีแกงโฮะแบบนี้อยู่อีกไหม ถ้ามีจะได้มาทำความเข้าใจไปพร้อมกันเลยนะครับ
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
เหตุเกิด ณ บริษัทแห่งหนึ่งมีวิธีปฏิบัติคือเมื่อพนักงานมาทำงานสาย 2 ชั่วโมง บริษัท (โดยหัวหน้า) จะบอกให้พนักงานเขียนใบลากิจ 2 ชั่วโมง โดยบอกว่าเมื่อครบ 8 ชั่วโมงถือเป็นลากิจ 1 วัน และเมื่อใช้สิทธิลากิจครบ 3 วันแล้ว ถ้าพนักงานลากิจจะถือเป็นการลาโดยไม่ได้รับค่าจ้าง (leave without pay)
ผมฟังแล้วก็ได้แต่คิดในใจว่า “อิหยังวะ”
เอาเรื่องมาสายก่อนนะครับ ปกติเมื่อพนักงานมาทำงานสาย หัวหน้าควรเรียกลูกน้องที่มาสายมาตักเตือนด้วยวาจา ถ้ายังมาสายอีกต้องออกหนังสือตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร บางแห่งอาจจะไม่จ่ายค่าจ้างตามเวลาที่มาสาย (no work no pay นะครับ ไม่ให้ใช้คำว่า “หักค่ามาสาย” เพราะผิดกฎหมายแรงงาน) แล้วจะมีผลกับการขึ้นเงินเดือนประจำปี การจ่ายโบนัส การเลื่อนชั้น เลื่อนตำแหน่ง
จนถึงขั้นถ้ามาสายแล้วถูกตักเตือนเป็นหนังสือเป็นครั้งสุดท้าย แล้วยังมาสายผิดซ้ำคำเตือนก็อาจจะ ถูกเลิกจ้างไม่จ่ายค่าชดเชย ก็ว่ากันไป เพราะถือเป็นความผิดทางวินัย
ส่วนการลากิจนั้นตามกฎหมายแรงงานกำหนดให้ พนักงานมีสิทธิลากิจไม่น้อยกว่า 3 วันทำงานต่อปี ซึ่งบริษัทควรจะต้องกำหนดเงื่อนไขการลากิจให้ชัดเจน เช่น การลากิจนั้นควรเป็นการลาเพื่อไปทำกิจธุระส่วนตัวที่จำเป็น ที่ไม่สามารถมอบหมายให้ใครทำแทนได้
เช่น ลากิจไปรับซ้อมใหญ่หรือไปรับปริญญา, ลากิจเพื่อไปแต่งงาน, ลากิจเพื่อไปบวช (นอกพรรษา), ลากิจเพื่อไปซื้อขายโอนที่ดิน (จะมอบอำนาจให้ใครไปทำแทนก็กลัวถูกเขาโกง), ลากิจเพื่อไปดูแลรักษาบุพการีที่เจ็บป่วยหนัก, ลากิจเพื่อไปงานศพบุพการี ฯลฯ
ไม่ใช่ว่าใช้สิทธิลากิจเพื่อไปเที่ยวอย่างงี้ไม่ได้ครับ
พนักงานจะต้องยื่นใบลากิจล่วงหน้าไม่ใช่ว่าหายไปวันนี้ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรแล้ววันรุ่งขึ้นมายื่นใบลากิจอย่างงี้ก็ไม่ควรจริงไหมครับ ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการมาสายกับการลากิจมันคนละ species กันเลยนะครับ
เมื่อพนักงานมาทำงานสาย บริษัทก็ควรจะต้องดำเนินการทางวินัยไปในเรื่องการมาสาย ไม่ควรเอาเรื่องมาสายมาปะปนกับการลากิจให้มันวุ่นวาย และสับสนกับพนักงาน แถมยังตอบคำถามพนักงานได้ยากด้วยสิว่าทำไมมาสายแล้วต้องให้เขียนใบลากิจ
ความเป็นมืออาชีพของ HR คือต้องมีหลักการ และเหตุผลที่ถูกต้อง และกล้าอธิบายให้ฝ่ายบริหารเข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะไม่ถูกใจฝ่ายบริหารก็ตาม เพื่อให้เกิดแรงงานสัมพันธ์ที่ดีในบริษัท และยังป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการร้องเรียน (แรงงานเขต) หรือการฟ้องศาลแรงงานในอนาคตอีกด้วย
คงได้แต่เอาเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง แต่ถ้าบริษัทไหนยังคิดว่าทำแบบนี้แล้วดี จะยังคงทำอยู่ และจะทำต่อไป
ก็เอาตามที่คิดว่าสบายใจแล้วกันครับ