เปิดประวัติ “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” อดีตแกนนำพันธมิตรฯ เสียชีวิตวัย 71 ปี

เปิดประวัติ “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์”  อดีตแกนนำพันธมิตรฯ วัย 71 ปี  เสียชีวิตอย่างสงบ หลังเข้ารักษาตัวมานานกว่า 1 เดือน

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยะใส กตะศิลา ได้โพสต์ผ่านข้อความผ่านเฟซบุกส่วนตัว แจ้งข่าวว่า ได้รับแจ้งจากภรรยาตินายสมเกียร พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า เมื่อเวลา 11.10 น. ที่ผ่านมา นายสมเกียรติ เสียชีวิตแล้ว ที่ รพ.มหาราช จ.นครราชสีมา  หลังป่วยด้วยภาวะเลือดออกในสมอง เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา

นายสมเกียรติ เข้ารับการรักษาอาการป่วยเส้นเลือดใหญ่บริเวณก้านสมองแตกเฉียบพลัน หลังดื่มน้ำอัดลมกระป๋องยี่ห้อหนึ่งที่แช่ในตู้เย็น ภายในบ้านพักซอยสามยอด ตำบลสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เมื่อคืนวันที่ 15 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 23.00 น. แล้วมีอาการเสียวและปวดศีรษะอย่างรุนแรง

จากนั้นภรรยา นำตัวให้แพทย์รักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ต่อมา ได้ขอย้ายผู้ป่วยไปรักษาที่ รพ.กรุงเทพ-ราชสีมา และแพทย์ได้นำเข้าห้องไอซียู ชั้น 3 และเอ๊กซเรย์ CT สแกน แพทย์ระบุว่า เส้นเลือดใหญ่บริเวณก้านสมองแตก ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว แต่ยังมีสัญญาณชีพจร ซึ่งแพทย์ให้ยากระตุ้นความดันและใช้เครื่องช่วยหายใจ นอนรักษานานกว่า 20 วัน และภายหลัง ญาติได้ย้ายผู้ป่วยกลับมารักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา

แต่ นายสมเกียรติ ยังโคม่า ไม่รู้สึกตัว แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา จนล่าสุด นายสมเกียรติ ได้เสียชีวิตลงด้วยอาการสงบ หลังเข้ารักษาตัวมานานกว่า 1 เดือน

ประวัติสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์

นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2493 ที่อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีการศึกษาบัณฑิต สาขาภาษาไทย-ประวัติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ระดับปริญญาโทศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาหลักสูตรและการสอนมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

ด้านชีวิตส่วนตัว สมรส กับนางวัลลภา พงษ์ไพบูลย์ และเริ่มรับราชการเป็นครูที่โรงเรียนวัดสระแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา และย้ายมาเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ต่อมาได้ลาออกจากราชการเพื่อลงรับเลือกตั้งในปลาย พ.ศ. 2550 โดยลงเลือกตั้งในระบบสัดส่วน กลุ่ม 6 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ต่อมาหลังการยุบสภาใน พ.ศ. 2554 จึงได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์และวางมือทางการเมือง

อีกทั้งนายสมเกียรติเคยเป็นที่ปรึกษาสมัชชาคนจน และเป็น 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่เคยมีบทบาทในการชุมนุมเมื่อ พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2551 และถูกดำเนินคดีจากการเป็นแกนนำพันธมิตรและกปปส.จนถูกศาลพิพากษาจำคุกและยังมีคดีความในชั้นศาลอีกหลายคดี

สำหรับตำแหน่งล่าสุดของนายสมเกียรติ คือ เป็นที่ปรึกษาสมาพันธ์ครูอีสานในการแก้ปัญหาหนี้สินครู และร่วมเป็นแกนนำต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบของทุนใหญ่ค้าปลีกที่ส่งผลให้โชว์ห่วยล่มสลาย นอกจากนี้นายสมเกียรติ ได้อุทิศร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับ รพ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะเป็นศิษย์เก่าอีกด้วย