ประยุทธ์ ย้ำขึ้นค่าไฟประชาชนต้องเดือดร้อนน้อยที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
Photo : www.thaigov.go.th

นายกฯ ยกธรรมะ ขึ้นค่าไฟต้องดูเหตุแห่งทุกข์ ย้ำประชาชนต้องเดือดร้อนน้อยที่สุด มาม่า ขออัพราคามา 2 ปี แล้วต้องเห็นใจ

วันที่ 16 สิงหาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า ว่าเป็นอำนาจของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งต้องให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ไปพิจารณา เป็นไปตามกติกาและกฎหมาย ต้องมีการพิจารณาการขึ้นตามวงรอบทุก 4 เดือน

รัฐบาลได้ให้หลักคิดไปแล้ว ทำอย่างไรให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด เพื่อเหตุผลความจำเป็น สภาพคล่อง ซึ่งทุกอันจะต้องมีสภาพคล่อง สามารถที่จะเดินเครื่องเดินไฟฟ้าต่อไปได้ เหมือนค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ซึ่งใช้งบประมาณอุดหนุนไปจำนวนมากพอสมควร และอันนี้เป็นอีกอันที่ต้องดูแล

“ทุกคนต้องเข้าใจ ไม่ใช่นำไปพาดหัวข่าวขึ้นเป็น 5 บาทแล้ว หรือ 4 บาทแล้ว แต่มันขึ้นเป็นสตางค์เข้าใจไหม อย่าไปเขียนอย่างนี้ให้คนเขาเข้าใจผิด แต่ผมก็โอเค มันขึ้นก็ต้องขึ้น แต่ขึ้นจากอะไรต้องไปดูสาเหตุแห่งปัญหา ไปศึกษาธรรมะเสียบ้าง ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เรียนเสียบ้าง ทุกข์เกิดจากอะไรแล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร ดูวิธีการแก้ปัญหาโน้น”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนการขึ้นราคาสินค้าต่าง ๆ ได้คุยกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ไปแล้ว อะไรที่จำเป็นก็ต้องไปพิจารณาหารือร่วมกัน หากจำเป็นต้องขึ้น ขึ้นเพราะอะไร ขึ้นเท่าไหร่ เมื่อราคาต้นทุนลดลงก็ต้องลดลงตามนั้น ทำนองนี้ กำลังหารือกันอยู่

“เรื่องมาม่าจริง ๆ เขาขอขึ้นมา 2 ปีแล้ว ก็ไม่ได้ขึ้นให้เขา ฉะนั้น ต้องไปดูว่าต้นทุนการผลิตเป็นอย่างไรในตรงนั้น หลายอย่างบอกว่าไอ้นี่ลด ไอ้นี่ไม่ให้ขึ้น ผมไม่ได้เข้าข้างใคร ผมต้องทำให้ทั้งสองส่วน ประชาชนต้องไม่เดือดร้อน ผู้ประกอบการสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นจะเจ๊งไปทั้งคู่ เขาผลิตไม่ได้ก็ปิดโรงงาน มันก็จบแค่นั้นเอง ง่าย ๆ ผมไม่ได้เข้าข้างใครอยู่แล้ว ขอให้เห็นใจซึ่งกันและกัน มีเรื่องพูดกันเยอะ ตนก็มีเรื่องคิดไว้เยอะเหมือนกัน และหลาย ๆ อย่างก็ต้องดำเนินการต่อไป วันนี้แค่นี้นะจ๊ะ” นายกฯ กล่าว