ทักษิณ โว เพื่อไทยตั้งรัฐบาล 300 เสียง ประเทศจะเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว  

ทักษิณ ชินวัตร

ทักษิณ เชื่อ เลือกตั้งครั้งหน้าฝ่ายประชาธิปไตยได้ 300 เสียง สบาย ๆ เพื่อไทยได้ 250 เสียง คาด ชาติไทยพัฒนา สลับขั้ว ฟุ้ง ถ้าเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ประเทศไทยจะเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว  

วันที่ 16 สิงหาคม 2565 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ CareTalk x Care ClubHouse ในหัวข้อ “วิเคราะห์พายุการเมืองไทยหลัง 8 ปีประยุทธ์” ถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทย ดีลกับพรรคพลังประชารัฐ เรื่องการล่มการประชุมรัฐสภา เพื่อฟื้นสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กลับมาเป็นสูตรหาร 100 ว่า “ไม่มีดีลลับ ผมกับป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ) ไม่ได้คุยกันเลย ไม่รู้ป้อมยังจำชื่อผมได้ไหม ไม่เหมือนวันวานยังหวานอยู่”

นายทักษิณกล่าวว่า ตอนแรกสภาตกลงกันว่าจะหาร 100 แล้ว นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ก็มาบอกตนตกลงกับ พล.อ.ประวิตร ทั้ง ๆ ที่ตนกับ พล.อ.ประวิตรไม่ได้คุยกันเลย แต่บังเอิญพรรคพลังประชารัฐเขาก็อยากได้หาร 100 ส่วนเพื่อไทยก็คิดว่าถูกต้อง ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ถูกต้องตามหลักคำนวณการเลือกตั้งที่ถูกต้อง ถ้ามี ส.ส. 100 แต่จะเอา 500 มาหาร มันก็จะได้พวกตลกมานั่ง

“เพื่อไทยเขาสู้หาร 100 แล้วพลังประชารัฐเอาด้วย มันก็จบลงที่หาร 100 อย่าไปคิดอะไรมาก เพราะที่สุดแล้วต้องให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน”

นายทักษิณวิเคราะห์การเมืองหลังจากนี้ว่า จะมีพรรคเบี้ยหัวแตกเยอะ ทุกพรรคมีสิทธิเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี แต่จะได้รับการพิจารณาหรือไม่ ต้องมี ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 25 คน และพรรคที่ตั้งใหม่ต่ำกว่า 25 เยอะมาก ไม่เกิน 5 พรรค เสนอชื่อนายกฯ มีสิทธิได้รับการพิจารณา ถ้าได้ต่ำกว่า 25 เสนอไปก็พิจารณาไม่ได้

“ไม่อยากไปวิเคราะห์พรรคอื่น แต่เท่าที่ดูพรรคเพื่อไทยแล้ว ผมบอกว่า 250 บวก ก็แล้วกัน วันนี้ฝั่งประชาธิปไตยเกิน 300 แบบสบาย ๆ ส่วนพรรคฝั่งเผด็จการก็อยู่ฝั่งเผด็จการจะข้ามฟากได้น้อยมาก คนจะข้ามฟากมาอยู่ประชาธิปไตย มีพรรคหนึ่งแน่นอน ผมเดาเอาตั้งแต่คุณพ่อเขา (นายบรรหาร ศิลปอาชา) คือพรรคชาติไทยพัฒนา”

นายทักษิณกล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ จะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ หรือเปล่า ถามแค่นี้ ตนไม่เชื่อว่าจะเสนอ ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค เสนอ พล.อ.ประยุทธ์แน่ แต่ถึง 25 หรือเปล่าไม่แน่ใจ

การเลือกตั้งต่อไปประชาชนเลือกง่ายมากเลย ก็ต้องเลือกพรรคเพื่อไทย เลือกมาใช้งาน หาคำตอบให้กับเขาได้ เพราะชีวิตวันนี้เขากลุ้มใจกับชีวิตเขามาก จีดีพีโต 2.5% จะเอางานที่ไหนมาทำ ถ้าจบมาแล้วมีงานทำต้องจีดีพี 5% ขึ้นไป ถ้าเศรษฐกิจอย่างนี้ต้องเร่งให้โต 7-8% จึงจะดึงคนกลับเข้าทำงานได้

“ถ้าเลือกตั้งเพื่อไทยเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล บอกได้เลยว่าประเทศไทยจะเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เรื่องการทำมาหากิน เรื่องการยอมรับของนานาชาติ การไหลเข้ามาของเงินทุน การท่องเที่ยว การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้กับการหากิน เรื่องนี้ถูกวางไว้หมดในสมัยไทยรักไทย ถ้าพรรคเพื่อไทย มีแนวร่วมคือพรรคฝ่ายประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ ช่องทางทำมาหากิน ระบบการศึกษาจะเปลี่ยนอย่างรุนแรง” นายทักษิณกล่าวและว่า ยอมรับว่าทำยาก แต่ทำได้ มันอยู่ในโครงสร้างของพรรค

ผู้ดำเนินรายการถามว่า พรรคเพื่อไทยมีแคนดิเดตนายกฯในใจหรือยัง นายทักษิณโยนให้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งร่วมอยู่ในรายการเป็นผู้ตอบ เนื่องจากใกล้ชิดกับหลายคนในพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า มีแพลม ๆ มาบ้าง คนที่พูดถึงน่าจะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ มีคนเดียว

“พรรคเพื่อไทยน่าจะมี 3 คนเป็นแคนดิเดต คนที่ 2 เริ่มแพลม ๆ เป็นคนมีความรู้ความสามารถ แก้วิกฤตที่เผชิญกันอยู่ เราอยากได้รัฐบาลใหม่แก้ปัญหา คนเป็นนักบริหารที่ดูไว้ก็เห็นว่าเตรียมพร้อมแล้วที่จะเข้าสู่การเมืองแล้ว ส่วนคนที่ 3 ยังเป็นปริศนาอยู่” นพ.สุรพงษ์กล่าว

นายทักษิณแทรกขึ้นมาว่า บอกคนที่ 3 จะเอาตนเองแต่ตนถูกตัดสิทธิไปแล้ว ไม่พอ ของเก่าเป็นนายกฯไปแล้ว 6 ปี อาจจะเป็นได้แค่ 2 ปี แต่จริง ๆ เขาเดาได้หมดแล้ว