“จรัญ ภักดีธนากุล” อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คาดคดีวาระ 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะโอกาสรอดน้อย เหตุศาลใช้วิธีพิจารณาจากดุลยภาพระหว่างประโยชน์และโทษต่อบ้านเมือง หลังการให้พักปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เชื่อประสบการณ์ส่วนตัว มีน้ำหนัก 60 ต่อ 40
วันที่ 25 สิงหาคม 2565 นายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์และวิเคราะห์กรณีศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาวินิจฉัยคำร้อง เรื่อง วาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม ในรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง 9 MCOT HD เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
นายจรัญกล่าวว่า จากประสบการณ์ด้านวิชาชีพกฎหมาย เป็นที่รู้กันดีว่า วิธีการหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเป็นการวัดผลคดีใหญ่อย่างหนึ่ง ถ้าข้ามวิธีการนี้ไปได้ ผลคดีใหญ่ก็พอจะมีความหวังมากขึ้น เพราะการที่ศาลจะให้วิธีชั่วคราวหรือไม่ ต้องพิจารณาจากหลายจุด
จุดที่ศาลจะพิจารณาคือ 1.น้ำหนักของคดี ถ้าคดีไม่มีหวังเลย ศาลคงไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่วิธีชั่วคราว 2.เมื่อคดีมีความหวังที่จะเป็นทิศทางไปอย่างนั้น ศาลจะต้องดูดุลยภาพระหว่างประโยชน์และโทษของการให้ใช้วิธีการชั่วคราว (Balance of Convenience) ว่าการให้ใช้วิธีการชั่วคราวของศาล เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษต่อสถานการณ์บ้านเมืองขณะนั้น
อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวิเคราะห์ด้วยว่า หากพิจารณาดุลยภาพ คิดว่าไม่ได้สะท้อนให้เห็นผลต่อการวินิจฉัยคดีใหญ่มากนัก และประเมินเบื้องต้นจากประสบการณ์ส่วนตัว ว่ามีน้ำหนักต่อคดีวาระ 8 ปีในสัดส่วน 60:40
ส่วนการพิจารณาดุลยภาพระหว่างประโยชน์และโทษของการใช้วิธีชั่วคราว (Balance of Convenience) ศาลจะพิจารณาและวิเคราะห์สถานการณ์ของบ้านเมือง นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งใช้วิธีการชั่วคราว ไปจนถึงวันที่จะมีคำวินิจฉัยชี้ขาด ว่าหากใช้วิธีการนี้แล้วจะเกิดประโยชน์หรือโทษต่อบ้านเมืองอย่างไร หรือนำหลักเกณฑ์กฎหมายคดีใหญ่ในการพิจารณาใช้วิธีการชั่วคราว