ทีมโฆษกรัฐบาลประสานเสียงไม่มีสุญญากาศ ประยุทธ์-ประวิตร อำนาจไม่ทับซ้อนกัน

ทิพานัน ศิริชนะ
ทิพานัน ศิริชนะ

อนุชา ยันรัฐบาลไม่มีสุญญากาศในการบริหารประเทศ-ธุรกิจเชื่อมั่น ทิพานัน ชี้ ประยุทธ์-ประวิตร อำนาจอนุมัติงบประมาณ-แต่งตั้งโยกย้ายไม่ทับซ้อนกัน

วันที่ 26 สิงหาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2565 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

ซึ่งในระหว่างนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี และปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมิได้มีผลกระทบอย่างใดต่อการบริหารประเทศ และการปฏิบัติงานของข้าราชการ หรือการดำเนินนโยบายอื่น ๆ ของรัฐบาล ยืนยันว่ารัฐบาลสามารถเดินหน้าทำงานต่อไปได้ ไม่มีสุญญากาศทางการบริหารประเทศแต่อย่างใด

นายอนุชากล่าวว่า ด้านภาคธุรกิจเอกชน ภาคการเงินการธนาคาร ภาคการท่องเที่ยว ได้แสดงความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพของรัฐบาล โดยภาคเอกชนมีมุมมองเชิงบวกต่อกรณีที่มีผู้รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ทำให้ไม่มีเรื่องสุญญากาศ ซึ่งลักษณะเป็นไปตามหลักนิติธรรม มีกลไกรองรับ จึงไม่กังวลกับภาคการเมือง รวมทั้งไม่กังวลกับนโยบายการลงทุนภาครัฐ เพราะงบประมาณปี 2566 ก็ได้ผ่านการพิจารณาเรียบร้อยแล้ว

งานต่าง ๆ สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ยืนยันว่ารัฐบาลยังสามารถเดินหน้าทำงานตามกรอบการทำงานที่วางไว้ เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศจากสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่บ้านเมืองขณะนี้ก็อยู่ในบรรยากาศที่ดี จึงขอเรียกร้องให้กลุ่มการเมืองต่าง ๆ รวมถึงผู้ที่ยังชุมนุมอยู่ได้เชื่อมั่นในกฎหมายและหลักนิติธรรมของบ้านเมือง รอฟังผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่จะทำให้เกิดความชัดเจนทางการเมืองในอีกไม่นานนี้

“ยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าทำงานตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติและแผนงานต่าง ๆ ทุกด้านที่กำหนดไว้ต่อไปจนครบวาระการทำงานของรัฐบาล และให้ทุกฝ่ายช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับบ้านเมือง ร่วมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย รวมทั้งนักลงทุนต่างชาติที่ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อทำให้กลไกต่าง ๆ ทุกภาคส่วนได้เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็งต่อไป เพื่อประโยชน์สุขของคนไทยทุกคน” นายอนุชากล่าว

ขณะที่ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี แต่ยังคงสถานะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีและมีอำนาจเต็ม ว่า อำนาจไม่ทับซ้อนกัน เพราะเป็นเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่ ต้องแยกระหว่างชื่อของตำแหน่งกับเรื่องของปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารราชการ กฎหมายกำหนดชัดเจนแล้วว่า การปฏิบัติหน้าที่ ถ้านายกฯ ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ รองนายกฯก็จะขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่แทน แต่ไม่ได้บอกว่า ความเป็นนายกฯ สิ้นสุดไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเซ็นอนุมัติงบประมาณหรือโครงการใครเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.ประวิตร น.ส.ทิพานันกล่าวว่า ต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประวิตร เป็นผู้อนุมัติ น.ส.ทิพานัน ค่ะ ซึ่งแล้วแต่เรื่อง เพราะมีข้อจำกัดในบางเรื่อง เช่น เรื่องงบประมาณที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่สามารถทำได้ เพราะต้องขออนุมัติจาก พล.อ.ประยุทธ์

เมื่อถามว่า การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจและทหารระดับสูง รวมทั้งข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ประวิตรสามารถไปรื้อใหม่ได้หรือไม่ น.ส.ทิพานันกล่าวว่า ถ้าไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อจำกัดและไม่ใช่เรื่องที่ผูกอยู่กับตัวนายกรัฐมนตรี สามารถพิจารณาได้