กรณ์ผงาดหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ลั่น รื้อโครงสร้างเศรษฐกิจทั้งระบบ

กรณ์ผงาดหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า-เทวัญ นั่งเลขาฯ ลั่นรื้อโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ทั้งระบบ-คนไทยเป็นมนุษย์ทองคำ ปรับโฉมโลโก้พรรค ทันสมัยรุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาล

วันที่ 16 ตุลาคม 2565 ที่จังหวัดนครราชสีมา ที่ประชุมใหญ่สามัญพรรคชาติพัฒนากล้ามีมติเป็นเอกฉันท์เลือกนายกรณ์ จาติกวณิช เป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า แทนนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ที่ได้ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ดำรงตำแหน่งประธานพรรค นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจและนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล เป็นผู้อำนวยการศูนย์ดำเนินการเลือกตั้ง

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค 30 ตำแหน่ง โดยมีตำแหน่งที่น่าสนใจจากทีมเศรษฐกิจของนายกรณ์เข้าร่วม ได้แก่ 1.นายกรณ์ หัวหน้าพรรค 2.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค 3.นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค 4.นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค 5.ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี รองเลขาธิการพรรค 

นายกรณ์กล่าวต่อที่ประชุมด้วยมอตโต้ชัดเจนว่า “คนไทยต้องรวย เศรษฐกิจต้องดี” ชาติจะพัฒนาได้ ต้องกล้าเปลี่ยน เนื่องจากปัจจุบันด้วยสภาพปัญหาของประเทศไทย หลายคนตั้งคำถามว่า คนไทยกำลังจนลงใช่ไหม รายได้ที่ขึ้นตามไม่ทันเงินเฟ้อหรือเปล่า

“กินข้าวแต่ละมื้อ เติมน้ำมันแต่ละครั้งรู้สึกเหมือนถูกสูบเงินในกระเป๋า ยิ่งมีสถานการณ์โควิดและสงคราม ยิ่งซ้ำเติมประชาชน กลายเป็นมหาวิกฤตทางเศรษฐกิจ ที่ถ้าไม่แก้ไขอย่างเร่งด่วน ประเทศจะไปไม่รอด ในขณะที่ภาคการเมืองกลับไม่ได้สนใจปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง ความทุกข์ยากของประชาชน กลับกลายเป็นเรื่องท้าย ๆ ที่นักการเมืองจะสนใจ” นายกรณ์กล่าว

นายกรณ์กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องกล้าลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศใหม่ทั้งระบบ ต้องกล้าคิดในเรื่องที่คนอื่นไม่เคยคิด เราต้องสร้างงานใหม่ ๆ นับล้านตำแหน่ง งานแห่งอนาคตที่จะสร้างรายได้ให้คนไทย ไม่ว่าจะ Creative Economy การสร้างให้คนไทยเป็นเซลส์แมนขายของออนไลน์ไปทั่วโลก

นายกรณ์กล่าวว่า กล้าทำในเรื่องยาก ๆ ปรับการคำนวณฐานภาษีใหม่ ให้คนชนชั้นกลางจ่ายภาษีน้อยลง เพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋า กล้าชนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ รื้อโครงสร้างพลังงานใหม่ ให้คนไทยใช้พลังงานที่ถูกลงซึ่งเป็นต้นทุนของทุกอย่าง 

นายกรณ์กล่าวว่า กล้าเปลี่ยนแปลงโดยการตั้งบริษัทเพื่อผลิตภัณฑ์การเกษตรแต่ละชนิด เช่น บริษัทข้าวหอม ให้มืออาชีพมาช่วยสร้างตลาด ชาวนาชาวไร่ทุกคนมีหุ้นอยู่ในบริษัท ซึ่งสามารถเข้าตลาดหุ้นได้ในอนาคต และสุดท้ายคือ กล้าตัดสินใจให้รัฐอยู่ในโทรศัพท์มือถือ ทำให้รัฐเล็กลงด้วยเทคโนโลยี หรือ Gov Tech ทำให้คนเข้าถึงได้ง่าย 24 ชั่วโมง เพื่อทำให้ประเทศคล่องตัว มุ่งไปข้างหน้าได้ไวขึ้น

“ผมเชื่อว่าคนไทยมีโอกาสที่ดีกว่านี้ได้ เป็นมนุษย์ทองคำ เหมือนคนในรุ่นผมเป็นได้ เหมือนสมัยผมกลับเมืองไทยมาตั้งบริษัทใหม่ ๆ แค่ต้องมีความกล้าที่จะเริ่ม และลงมือทำ คนไทยรวยได้ ชาติพัฒนาได้ ต้องกล้า เพราะพรรคชาติพัฒนากล้า กล้าด้วยประสบการณ์ ชาติพ้นวิกฤต” นายกรณ์กล่าว

นอกจากที่ประชุมใหญ่สามัญจัดทัพกรรมการบริหารพรรค สู้ศึกการเลือกตั้งแล้วยัง ปรับภาพลักษณ์องค์กร เริ่มจากการปรับโลโก้ของพรรคใหม่ โดยมีตัวอักษร ช.ช้าง รูปแบบทันสมัยจากการรวมกันของเส้นโค้งสองเส้นที่ทรงพลัง 

เส้นโค้งสีน้ำเงิน คันธนูอันเข้มแข็ง มุ่งมั่นสู่เป้าหมาย เส้นโค้งสีเหลืองทองแกมแสด เปลวไฟอันรุ่งโรจน์ โชติช่วงชัชวาล สีเหลืองทองแกมแสด แทนความรุ่งโรจน์จากความกระตือรือร้น มั่นใจ กล้าทำ กล้าลอง 

พร้อมกับความอบอุ่นเหนียวแน่น สามัคคี ด้วยความสร้างสรรค์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด สีน้ำเงิน แทนความสุขุม รอบคอบ หนักแน่น เปรียบดังการกระทำการใหญ่ต้องใช้ประสบการณ์ เมื่อ 2 เส้นโค้งที่มาตัดกันในจุดที่สมดุลที่สุด จึงเกิดเป็นตัว ช.ช้าง ที่ลายหาง 

ช.ช้าง มีทิศทางชี้ขึ้นข้างบน เสมือนหนึ่งเป็นเส้นกราฟพุ่งสูงขึ้น เพื่อสื่อความหมายชาติไทย ที่มีการพัฒนาสร้างสรรค์เศรษฐกิจ และเกิดความเจริญรุ่งเรืองในทุกมิติ อันเป็นผลมาจากนโยบายทางสายกลาง และความประนีประนอม ที่แสดงออกด้วยเส้นสีเหลืองทองแกมแสดและสีน้ำเงินที่โอบเกี่ยวคล้องกัน

“โลโก้ชาติพัฒนากล้า ช.แทนความหมายถึง “ชาติ” ที่พร้อมจะ “พัฒนา” ให้เจริญรุ่งเรือง โชติช่วงดุจเปลวเพลิงชัชวาลที่ไม่มีวันดับได้นั้น ต้องอาศัยความ “กล้า” เป็นสำคัญ”