ประวิตร ไฟเขียว ประกันรายได้ปาล์มน้ำมันปี 4 เริ่มจ่ายงวดแรก กันยายน 2565

ประวิตร นั่งหัวโต๊ะ กนป.ไฟเขียว ประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 65-66 เริ่มจ่ายเงินชดเชยงวดแรก ก.ย. เคาะขยายเวลาส่งออกน้ำมันปาล์มลดผลผลิตส่วนเกิน ปี 65 จุรินทร์เล็งชง ครม.ทันที ดันส่งออก กก.ละ 2 บาท

วันที่ 19 ตุลาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ครั้งที่ 3/2565

พล.ท.พัชร์ชศักดิ์กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเห็นชอบให้เปิดตลาดน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม พร้อมบริหารการนำเข้าคราวละ 3 ปี (ปี 66-68) โดยให้เป็นไปตามข้อผูกพันของทุกกรอบการค้า และมีการบริหารการนำเข้าเช่นเดียวกับกรอบองค์การการค้าโลก (WTO)

โดยให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นผู้มีสิทธินำเข้าและกระจายให้ผู้ผลิตภายในประเทศ ตามที่สมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์มเป็นผู้จัดสรร เพื่อเป็นการรักษาสมดุลการนำเข้า และไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตของเกษตรกร

“นอกจากนี้ ยังเห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 65-66 โดยเริ่มจ่ายเงินชดเชยประกันรายได้งวดแรกให้แก่เกษตรกรตั้งแต่ ก.ย. 65 เพื่อให้มีความต่อเนื่องจากโครงการปี 64-65 รวมทั้งเห็นชอบขยายเวลาโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์ม เพื่อลดผลผลิตส่วนเกินปี 65” พล.ท.พัชร์ชศักดิ์กล่าว

พล.ท.พัชร์ชศักดิ์กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรได้กำชับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องปฏิบัติตามมติ กนป.ในวันนี้อย่างเคร่งครัดและให้เร่งรัดการติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำมันปาล์มให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อเร่งช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มให้ได้ราคาปาล์มที่สูงขึ้น และติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน ทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด

เพื่อเตรียมรองรับการแก้ปัญหาและป้องกันราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำด้วย และเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในอาชีพการทำสวนปาล์มที่จะส่งเสริมให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

ก่อนการประชุมนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ปรับจาก B5 เป็น B7 มีผลช่วยยกระดับราคาปาล์มระดับหนึ่ง ทำให้ขณะนี้ราคาปาล์มผล ปาล์มสดอยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 5.50-6.50 บาท โดยเฉลี่ยทั่วประเทศ ซึ่งถือว่าดีขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมาระดับหนึ่ง

แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ที่มีผลให้ราคาปาล์มปรับลดลงในตลาดโลก เพราะประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ หรือประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ คืออินโดนีเซียกับมาเลเซียเร่งการส่งออกในปริมาณที่เยอะมาก และอินโดนีเซียงดเก็บภาษีส่งออก ทำให้ปริมาณปาล์มในตลาดโลกเยอะ ทำให้ราคาปรับลดลง กระทบราคาในประเทศด้วย

นายจุรินทร์กล่าวว่า เมื่อปรับจาก B5 เป็น B7 ก็ดีขึ้น แต่ตนคิดว่าเราอยากเห็นราคาดีกว่านี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม กนป.ในการให้มาตรการการช่วยเหลือสนับสนุนการส่งออกกิโลกรัมละ 2 บาท ที่เราเคยทำอยู่ปรับเงื่อนไขให้ช่วยได้ง่ายขึ้น เพื่อแข่งขันในตลาดโลกได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น

สำหรับผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มจะได้รับการสนับสนุนกิโลกรัมละ 2 บาท ถ้าส่งออกได้มากขึ้น แข่งขันได้ดีขึ้น จะมีส่วนช่วยยกระดับราคาปาล์มให้ดีขึ้นอีกระดับหนึ่ง และถ้าเกิดมีปัญหาจริงนโยบายประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มยังใช้อยู่ และวันนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอเข้าสู่ กนป. เพื่อให้ผ่านมติที่ประชุม ถ้าผ่านจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มปี 4 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของสภาชุดนี้