เปิดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ ที่มีสิทธิได้เป็น ส.ส.เข้าสภาหลังเลือกตั้ง 2566

เลือกตั้ง 2566 ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคการเมือง

ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ในลำดับเซฟโซนของแต่ละพรรค ที่มีโอกาสได้เข้าสภา คำนวณจากจำนวนคะแนนของพรรคที่ได้จากการเลือกตั้ง 2562 ที่ต้องได้อย่างต่ำ 350,000 เสียง ต่อ ส.ส. 1 คน

การเลือกตั้ง 2566 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 52 ล้านคน ลงคะแนนผ่านการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ คือบัตร ส.ส.เขต และบัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

โดยการคำนวณหายอด ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จะใช้สูตรหาร 100 ซึ่งพรรคใหญ่จะส่งผู้สมัครครบ 100 ชื่อ ตามหลักเกณฑ์ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2566

หมายความว่า กว่าจะถึงบรรทัดสุดท้าย ได้ ส.ส. 1 คน ต้องนำคะแนนรวมจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อทุกพรรครวมกัน แล้วหารด้วย 100 จากนั้นนำคะแนนแต่ละพรรคได้รับ หารด้วยคะแนนเฉลี่ย หากดูตัวเลขเก่าจากการเลือกตั้ง 2562 มาเป็นสูตรคำนวณแบบหาร 100

การเลือกตั้ง 2562 มีคะแนนเลือกตั้ง 74 พรรคที่ส่งผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวม 35,561,556 คะแนน หารด้วย 100 จะได้ ส.ส. 1 คน ต้องมีคะแนนจากบัตรลงคะแนนแบบบัญชีรายชื่อ 355,615 ใบ

พรรคไหน จะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เท่าไร

หลังยื่นสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แกนนำพรรคต่าง ๆ อัพเดตยอด ส.ส.ที่คาดว่าจะได้ ที่อยู่ในลำดับที่เรียกว่า “เซฟโซน” ดังนี้

พรรคพลังประชารัฐ เดิมมี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 19 คน เป้าหมายใหม่ลำดับที่ปลอดภัย หรือเซฟโซน 1-20 คน ส่วนใหญ่เป็นโควตา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค และแกนนำบ้านใหญ่

พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่มียอด ส.ส.เก่า ตั้งเป้าหมายไว้ลำดับที่ปลอดภัยคือ 1-15 ลำดับ คาดว่าต้องสะสมคะแนนให้ได้ถึง 5.25 ล้านเสียง ซึ่งรายชื่อแรก ๆ คือสายตรง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และตัวแทนทุนที่สนับสนุนพรรค รวมทั้งอดีตแกนนำ กปปส. และอดีต ส.ส.-รัฐมนตรี ของพรรคประชาธิปัตย์

พรรคเพื่อไทย เดิมไม่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เลย ในครั้งนี้ตั้งเป้าหมายจากอัตราเฉลี่ยการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ 2554 เคยได้ 17.5 ล้านเสียง จึงตั้งเป้า 50 คน ลำดับที่ปลอดภัยคือ 1-40 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอดีตรัฐมนตรี นักการเมืองรุ่นใหญ่ ส่วนลำดับที่ 89-100 ซึ่งคาดหมายว่าจะเป็นโควต้ารัฐมนตรี หากได้เป็นรัฐบาล

พรรคก้าวไกล เดิมมี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 1-50 คน จากพรรคอนาคตใหม่ เป้าหมายที่คาดว่าจะได้ ลำดับที่ปลอดภัยคือ 1-18 คน โดยคำนวณฐานเสียงเดิม 6.3 ล้านคะแนน

พรรคประชาธิปัตย์ เดิมมี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 20 คน ลำดับที่ปลอดภัยคือ 1-10 ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอดีตรัฐมนตรีและคนสำคัญสัญลักษณ์ของพรรค ทั้งนี้ มีฐานเสียงเดิม 3.9 ล้านคะแนน

พรรคภูมิใจไทย เดิมมี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 12 คน ลำดับที่ได้เป็น ส.ส.เข้าสภาอย่างแน่นอน คือ 1-5 และลำดับที่ตั้งเป้าไว้ไม่ต่ำกว่า 10 คน โดยมีฐานเสียงเดิม 3.7 ล้านคะแนน

พรรคเสรีรวมไทย เดิมมี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ล้วน 10 คน มีฐานคะแนนเสียงเดิม 8.2 แสนเสียง หากได้คะแนนเท่าเดิม คาดว่าจะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 2-3 คน

พรรคชาติไทยพัฒนา เดิมมี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 4 คน ลำดับที่ปลอดภัยคือ 2-3 คน จากฐานเสียงเดิม 7.8 แสนคะแนน

พรรคชาติพัฒนากล้า เดิมพรรคชาติพัฒนา ยังไม่รวมกับพรรคกล้า มี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 2 คน เป้าหมายใหม่คือลำดับ 1-3 คน จากฐานเสียงเดิม 2.5 แสนเสียง

ส่วนพรรคไทยสร้างไทย เพิ่งลงรับสมัครเลือกตั้งครั้งแรก เช่นเดียวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคชาติพัฒนากล้า ไม่เคยเปิดเผยว่าจะได้ ส.ส.กี่เสียง แต่หัวหน้าพรรคบอกว่า ไม่ได้ตั้งพรรคเพื่อเลือกตั้งคร้้งเดียว แต่ต้องการให้พรรคเป็นสถาบันทางการเมือง