โผคณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1/1 ปรับเก้าอี้ 3 กระทรวงเศรษฐกิจ

ปรับ ครม.

โผรายชื่อคณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1/1 หลังการหารือบนโต๊ะอาหารที่โรงแรมโรสวูด ระหว่าง “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับกระแสข่าวที่สะพัดว่ามี “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี และแกนนำของเพื่อไทยร่วมวงด้วย แม้นิ่งแล้ว แต่ยังมีแรงกระเพื่อมจากพรรคร่วมรัฐบาล 2 พรรค คือพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ

ส่วนพรรคเพื่อไทย ที่ศูนย์กลางอำนาจใหญ่อยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า มีการขยับไม่สะเทือน เพราะรัฐมนตรีที่ต้องสละเก้าอี้ต่างทำใจไว้ล่วงหน้า

โดยโผรายชื่อรัฐมนตรีที่พ้นตำแหน่งหลุดจาก ครม.เศรษฐา 1 ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เป็นตำแหน่งตอบแทนที่ทำงานให้พรรคเพื่อไทยช่วงที่เป็นฝ่ายค้าน และช่วงเลือกตั้ง คือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว พ้นจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไชยา พรหมา พ้นจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พวงเพ็ชร ชุนละเอียดพ้นจากรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

รัฐมนตรีที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ นอกจาก นายเศรษฐา ทวีสิน เหลือตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตำแหน่งเดียว และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ข้ามจากรั้วทำเนียบรัฐบาล ไปประจำการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขับเคลื่อนบิ๊กโปรเจ็กต์ที่รออยู่ข้างหน้า

จักรพงษ์ แสงมณี พ้นจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นมือกลั่นกรองงานคนสำคัญคนหนึ่งของนายกฯเศรษฐา สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่งหนึ่ง เพราะ “สมศักดิ์” ขยับไปดูกระทรวงสาธารณสุข

รัฐมนตรีใหม่ที่นำเข้ามาเติมโควตาคือ “พิชัย ชุณหวชิร” เลื่อนจากที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง “เผ่าภูมิ โรจนสกุล” จากเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ขับเคลื่อนนโยบายการเงินการคลังเต็มสูบ “พิชิต ชื่นบาน” ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี จะมาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านกฎหมายให้นายกฯ

“จิราพร สินธุไพร” มีชื่อใน 2 กระทรวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ คาดหมายว่าจะมาผลักดันเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ส่วนมีชื่อเป็นทั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากโควตาเดิมเป็นของกลุ่มอีสานเพื่อไทย ดังนั้น ต้องหาคนจากโควตาอีสานมาเสียบ ซึ่ง “จิราพร” เป็น สส.ร้อยเอ็ด แต่มีการต่อรองจากพรรคพลังประชารัฐว่า กระทรวงเกษตรฯควรจะเป็นของพรรคพลังประชารัฐทั้งหมด จึงทำให้มีการขยับอีกครั้ง “จิราพร” จึงอาจนั่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ดังนั้น แม้พรรคพลังประชารัฐ โดย “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ชงให้ 4 ชื่อ แคนดิเดตรัฐมนตรีให้นายกฯ เลือก ประกอบด้วย อรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา อนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค พปชร. รวมถึง ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร

ทว่า เมื่อ “ไผ่ ลิกค์” ติดปัญหาคุณสมบัติไม่ผ่าน จึงมีความเป็นไปได้ที่ อนันต์ ผลอำนวย ในฐานะ สส.กำแพงเพชร จะเข้ามานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ส่งแรงกระเพื่อมมายังพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีข่าวว่า “อนุชา นาคาศัย” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะพ้นตำแหน่ง ยังต้องลุ้นจนนาทีสุดท้าย โดยมีตัวแทรกคือ “สุชาติ ชมกลิ่น” สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค คาดว่าจะเข้ามานั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

ขณะที่ “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” ซึ่งมีข่าวว่าจะถูกปรับพ้น ครม.ก่อนหน้านี้ ยังมีชื่ออยู่ในตำแหน่งเดิม เนื่องจากเป็นชื่อที่ถูกขอไว้ตั้งแต่ต้น เพราะใกล้ชิด-วงในประมุขตึกไทยคู่ฟ้าตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว อีกทั้งเป็นฟันเฟืองสำคัญในกระทรวงการคลัง ในฐานะอดีตปลัดกระทรวง

ส่วนรัฐมนตรีที่มีชื่อถูกปรับ – เปลี่ยนก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายยังรักษาเก้าอี้ไว้ได้คือ “เกรียง กัลป์ตินันท์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งนอกจากเป็น “ตัวแถม” ถูกจับไว้ไปอยู่ในกระทรวงมหาดไทย ที่เป็นของพรรคภูมิใจไทยแล้ว กลุ่มของ “เกรียง” ในอีสานใต้ยังมีบทบาทสำคัญ ต่อพรรคเพื่อไทย  ส่วน “สุทิน คลังแสง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ยังเหนียวแน่นในเก้าอี้
การปรับ ครม.หนนี้จำเป็นต้องปรับเร็ว จบให้เร็ว เบ็ดเสร็จกระทรวงที่คาดว่าจะมีการปรับ 4 กระทรวง โดยเฉพาะ 3 กระทรวงเศรษฐกิจ คลัง-เกษตรฯ-พาณิชย์ รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข-สำนักนายกฯ