“อภิสิทธิ์” ชี้เหตุปี’53 จะพูดเรื่องเผาบ้านเผาเมืองอย่างเดียวไม่ได้ เพราะมีการสูญเสียด้วย

แฟ้มภาพ

“มาร์ค” แนะ คสช.เรียนรู้การชุมนุมจากอดีตใช้เป็นบทเรียน เชื่อสถานการณ์ชุมนุมคนอยากเลือกตั้งยังควบคุมได้

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์การชุมนุมในช่วงเดือนพฤษภาคมของการเมืองไทยในอดีตที่ผ่านมาว่า ในช่วงเหตุการณ์ปี 2553 จะพูดถึงแค่การเผาบ้านเมืองคงไม่ได้ เพราะต้องยอมรับว่าตอนนั้นมีการสูญเสียด้วย เราผ่านตรงนั้นมา 8 ปี แล้ว ถ้าถามว่าปัจจุบันมั่นใจหรือไม่ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ตนเชื่อว่า หลายคนยังหวั่นใจอยู่ว่าอาจเกิดขึ้นอีกได้ เพราะดูสภาพการเมืองหลังการปฏิวัติ 2557 หลายอย่างดูเหมือนสงบ แต่เหมือนกับหลายอย่างยังไม่ได้เคลื่อนตัวในแง่ของเงื่อนไข หรือเชื้อของความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พูดว่าจะเข้ามาแก้ไขความขัดแย้ง เราก็ต้องดูว่าตอนนี้เราได้แก้ไขไปถึงจุดนี้หรือยัง เราต้องเห็นใจครอบครัวผู้ที่สูญเสียในเหตุการณ์ต่างๆว่ายังไม่มีความเดินหน้าในแบบที่เขาอยากเห็น ดังนั้นเราจึงวางใจไม่ได้ เพราะยังมีบางฝ่ายที่นำเรื่องนี้มาพูดอยู่ทางนัยยะของการเมือง ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับขบวนการผู้ที่อยู่เบื้องหลัง หรือ ก่อการร้าย ที่มีการฟ้องศาลอยู่ เว้นกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตนคิดว่ารายละเอียดก่อการร้ายคดีคงจะครอบคลุมการอยู่เบื้องหลังด้วย แต่คดีของผู้ที่อยู่เบื้องหลังอาจจะได้ช้าด้วยเหตุว่าอาจจะเป็นเพราะตัวจำเลย

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงข้อกังวลในการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่อาจเกิดความความรุนแรงว่า ตนคิดว่าสถานการณ์น่าจะควบคุมได้ แต่ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติที่จะเกิดขึ้นจริง เพราะหลายครั้งเหตุการณ์เช่นนี้อาจเกิดจากน้ำผึ้งหยดเดียว ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ดังนั้นเราต้องเรียนรู้จากอดีต เราต้องพยายามทำตามหลักสากล อย่างเช่นในเหตุการณ์ปี 2553 เป็นเหตุการณ์ที่ยากกว่าการชุมนุมอื่นๆ เพราะมีกองกำลังติดอาวุธ สถานการณ์จึงซับซ้อนกว่า เราต้องเอาตรงนี้มาเป็นบทเรียน ทิศทางต้องผ่อนคลาย และต้องสามารถใช้กฎหมายปกติ และกฎหมายฉุกเฉินที่สามารถใช้ได้ในเหตุการณ์นั้น ๆ ด้วย

 

ที่มา : มติชนออนไลน์