
เศรษฐา ไม่ตั้งวอร์รูมลุ้นคดี เผยนั่งทำเนียบต้องประชุมแน่นเอี้ยด ไม่ได้คิดแผนสำรองหากหลุดเก้าอี้ผู้นำ
วันที่ 13 สิงหาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าในที่ประชุม ครม.ไม่ได้มีการพูดถึงการให้กำลังใจตนในกรณีที่ศาลจะวินิจฉัยในวันที่ 14 สิงหาคม ส่วนได้มีการพูดคุยกับ นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในเรื่องนี้อย่างไรหรือไม่นั้น ตั้งแต่ที่ได้เตรียมข้อมูลและส่งข้อมูลครบแล้ว จากวันนั้นจนกระทั่งวันนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายวิษณุระบุว่าหากนายกฯ ถูกวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง ก็สามารถที่จะกลับมาเป็นนายกฯ ได้อีก โดยต้องฟังจากคำวินิจฉัยว่าผิดมาตราใด นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ได้คุยเรื่องนี้และตนไม่ทราบเลย ซึ่งทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย อย่างที่ตนบอก 2 สัปดาห์ที่แล้วได้ส่งคำแถลงการปิดคดีไปแล้ว ไม่ได้มีการพูดคุยอีกเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยได้มีการเตรียมการอย่างไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่าในวันที่ 14 ส.ค. นายกฯ มีภารกิจอย่างไรบ้าง นายเศรษฐากล่าวว่า ตนได้มอบให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปรับฟังแทน ซึ่งตอนบ่ายตนมีภารกิจเต็มเอี้ยด
เมื่อถามว่ามีภารกิจนอกทำเนียบ หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เข้าใจว่าอยู่ในทำเนียบ เมื่อถามว่าจะมีการตั้งวอร์รูมฟังคำวินิจฉัยของศาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีวอร์รูม เพราะมันจบแล้วตั้งแต่ส่งคำแถลงการปิดคดี ซึ่งถือว่าเราได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม
เมื่อถามว่า วันที่ 14 สิงหาคม นายกฯ จะพอมีเวลานั่งติดตามฟังคำวินิจฉัยได้บ้างหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ผมคิดอย่างนี้ ผมมีประชุมอยู่แล้ว แต่เป็นการประชุมภายในกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ฉะนั้นถ้ามีผลคำวินิจฉัยเชื่อว่าทีมงานคงเข้ามาบอก ซึ่งผมก็ประชุมไปเรื่อย ๆ แต่คงไม่ใช่เซ็ตการประชุมอย่างเป็นทางการ”
เมื่อถามว่ามีแผนสำรองหรือไม่ถ้าไม่ได้เป็นนายกฯ ต่อไป นายกฯ กล่าวว่า “อ๋อ ไม่ได้คิดอะไรในเรื่องนี้ ให้มันเกิดขึ้นก่อนและค่อยว่ากันครับ”
ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนนายกฯ มีความมั่นใจพอสมควรในสิ่งที่ผ่านมา นายกฯ กล่าวว่า “ไม่ครับ ผมมีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ เรื่องต่าง ๆ ที่สำนักข่าวหลาย ๆ สำนักเอาไปวิจารณ์ หรือบางข่าวบอกว่าผมหน้าเศร้าบ้างอะไรบ้าง คุณแม่ผมเพิ่งเสียไป ผมก็หน้าเศร้าเป็นธรรมดา หรือบางคนก็บอกแหม! มั่นใจมาก ไปเซตอัพการประชุมวางตารางเพียบถึงสิ้นเดือน ซึ่งมันเป็นหน้าที่ของนายกฯ ที่ต้องมีการบริหารราชการแผ่นดิน มีการเตรียมงานความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ผมก็เตรียมไป”
“แต่ถ้าผลออกมาเป็นบวกกับตัวผมเอง ผมก็เดินหน้าที่งานต่อไป แต่ถ้าผลออกมาเป็นลบรักษาการนายกฯ ก็นำแผนงานที่ตนเซตไว้ไปพิจารณาและปรับปรุงตามความเหมาะสมของท่านเอง อันนี้เป็นเรื่องการทำงานทั่ว ๆ ไปมากกว่า ไม่ได้เป็นความแสดงออกมั่นใจหรือไม่มั่นใจอะไร เราทำดีที่สุด และได้ส่งคำแถลงปิดคดีไปแล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม“
เมื่อถามว่า หากนายกฯ เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง งานที่เซตไว้ใครจะมาทำก็สามารถเดินต่อได้หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ตนเซตอัพงานไม่ใช่ว่าเป็นความประสงค์ของตนเอง แต่เซตอัพงานตามปัญหาของประชาชนที่เกิดขึ้น
แน่นอนถ้าเกิดว่าต้องหลุดแล้วมีรักษาการรองนายกฯ มาดูท่านก็คงจะพิจารณาดูตามลำดับความสำคัญที่ท่านเห็นว่าเหมาะสม อย่างน้อยหากท่านเข้ามาก็จะได้รับทราบว่าเราได้มีการแพลนอะไรไปแล้วบ้าง เมื่อถามว่าวันนี้นายกฯอยากจะพูดอะไรถึงประชาชนผ่านสื่อหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี วันนี้ประชุม ครม.ตนได้แจ้งว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง และวันเดียวกันนี้ช่วงบ่ายมีงานเต็ม ก็ทำงานไปเรื่อย ๆ ครับ
เมื่อถามว่ามองกันว่าหากผลคำวินิจฉัยออกมาเป็นลบจะมีผลกระทบต่อจิตวิทยาในการลงทุน ของนักลงทุนที่นายกฯ ไปเดินสายไว้ที่ต่างประเทศ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้