
ชูศักดิ์ขอให้คำนึงถึงบทเรียนรัฐประหาร ฉุดรั้งประเทศ เชื่อไม่มีเงื่อนไขปลุกม็อบ หลัง “สนธิ” ประกาศจำเป็นจะลงถนนขับไล่รัฐบาล
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ยุครัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรียุครัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กล่าวถึงกรณีการเคลื่อนไหวของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ประกาศลงถนน จะนำมาสู่เหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างเช่นในอดีตหรือไม่ ว่าจากประสบการณ์ส่วนตัว เราผ่านเรื่องนี้มาช้านาน จนนำมาสู่การปฏิวัติรัฐประหาร ประสบการณ์ตรงนี้คือบทเรียนสำคัญ สำหรับประเทศไทย เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยหยุดอยู่กับที่และถอยหลังเพราะเรื่องการเมือง
ขอพูดตรง ๆ เนื่องจากการเมืองไม่มีเสถียรภาพ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้ประเทศฉุดรั้ง และเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องพึงระลึก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดวังวนเดิม ๆ ที่ทำให้ประเทศหยุดอยู่กับที่ ไปไหนไม่ได้ ขณะที่ประเทศอื่น ๆ เจริญก้าวหน้าไปมาก
เมื่อถามว่า เงื่อนไขในขณะนี้สามารถทำให้ม็อบจุดติดหรือไม่ เหมือนเช่นในอดีต ที่เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รัฐบาลนายสมชาย จนต้องไปทำหน้าที่บริหารประเทศ ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า เราก็เห็นว่าไม่มีเงื่อนไขอะไร เรื่อง MOU 44 ก็ทำกันมาตั้งแต่ปี 2544 ก็ไม่ทำให้เสียดินแดน เป็นเรื่องหลักการเจรจา ถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการเจรจาเลย ยังไม่ตั้งคณะกรรมการด้วยซ้ำ แล้วเมื่อเจรจาแล้วเสร็จก็ต้องนำเข้าเพื่อรับความเห็นชอบจากรัฐสภา
“ผมขอย้ำนะว่า เราผ่านวิกฤตเช่นนี้มาช้านานแล้ว ก็ไม่อยากให้ประเทศกลับไปสู่วังวนเดิม ๆ ให้เดินหน้าไปอย่าให้ถอยหลัง” นายชูศักดิ์กล่าว
เมื่อถามว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่า รัฐบาลแพทองธาร อยู่ได้อีกไม่ถึง 1 ปี นายชูศักดิ์กล่าวว่า เป็นคำพูดทางการเมืองถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะหากใครไปเป็นฝ่ายค้านก็จะไม่มีทางพูดว่ารัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี ขณะที่รัฐบาลเองก็ต้องพูดว่าจะทำอย่างไรให้อยู่ครบเทอม
เมื่อถามว่า มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอมหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่เห็นมีอะไรไม่มีเรื่องหนักใจไม่มีเรื่องคอขาดบาดตาย
เมื่อถามว่า คำร้องในชั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องยุบพรรคเพื่อไทย กังวลหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่ได้วิตกกังวลอะไร