เมื่อวันที่ 1 กันยายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับความคุ้มค่าจากการใช้งบประมาณมหาศาลสร้างรถไฟความเร็วสูง และการดำเนินโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ว่า ไม่ได้ปฏิเสธการสร้างรถไฟความเร็วสูงและโครงการอีอีซี แต่ต้องการนำเม็ดเงินจำนวนนี้ ไปพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้คนรากหญ้า มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างทั่วถึง มีการศึกษาที่ดีขึ้น เป็นรากฐานและกำลังการผลิตที่สำคัญของชาติ เมื่อคนเข้มแข็ง ชาติเข้มแข็ง จากนั้น จึงค่อยพัฒนาต่อยอดในส่วนอื่นต่อไป
“ไม่ใช่ผมจะไม่ทำรถไฟเร็วสูงหรือยุบอีอีซี แต่ผมต้องการเห็นการแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนโดยรวมก่อน ประเทศไทยป่วยมานาน เพิ่งออกจากห้องไอซียู ก็ควรจะค่อยๆ ฟื้นฟูสภาพด้วยการทำกายภาพบำบัดให้ทรงตัวได้มั่นคงก่อน จากนั้นก็เริ่มเดินให้เร็วขึ้นแล้วจึงวิ่งไม่ใช่ออกมาแล้ววิ่งเลย แล้วก็ต้องล้มอีก เที่ยวนี้อาจไม่มีโอกาสลุกขึ้นมาอีกก็ได้ …
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
ผมถามว่า รถไฟความเร็วสูง ใครจะเป็นผู้โดยสาร ในเมื่อคนชนบทส่วนใหญ่มีรายได้จากภาคเกษตรที่ไม่แน่นอน บางช่วงผลผลิตราคาตกต่ำ ขอให้ผม ไปหาผู้โดยสารมาให้ก่อนจะดีหรือไม่
ผมถามว่าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าใน กทม. อีกหลายเส้นทาง ทั้งที่ตอนนี้การจราจรใน กทม.ติดไปทุกเส้นทาง ยังไม่พออีกหรือ
ผมไม่ได้ขัดขวางการพัฒนาประเทศ แต่ผมเห็นว่าโครงการอีอีซี บุคลากรในเทคโนโลยีชั้นสูงหรือยัง
เราควรจะนำเม็ดเงินหลายแสนล้านบาท มาพัฒนาทรัพยากรบุคคลในประเทศ ให้มีความพร้อมก่อนจะดีกว่าหรือไม่
ลูกหลานเป็นหนี้ ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวออกจากรั้วสถาบันการศึกษา จำนวนหลายล้านคน เป็นเงินหลายแสนล้านบาท กำลังทยอยไปสู่กระบวนการทางกฎหมายฟ้องร้องบังคับคดี ถูกหักเงินเดือน ถูกยึดที่ทำกิน ถูกยึดรถ ยึดบ้าน ขายทอดตลาด
ผมจึงเห็นว่าเราควรต้องกลับมาจัดลำดับความสำคัญในการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศเสียใหม่”
ที่มา มติชนออนไลน์