วันที่ 17 สิงหาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการจัดประชุมผู้รับผิดชอบในการทำงานของ กกต. ได้มีการประเมินผลการทำงานในรอบ 9 เดือน เพื่อดูว่าตัวชี้วัดต่างๆ ที่ได้คำนวณไว้ของหน่วยงานต่างๆ ใน กกต. ทำงานครบถ้วนหรือไม่ การติดตามผลการทำงานนี้ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมการเลือกตั้ง การเตรียมองค์การเอกชนเพื่อสอดส่องดูแลการเลือกตั้งให้ครบทุกจังหวัด ครบคลุมพื้นที่อย่างน้อย 75 เปอร์เซ็นต์ การเตรียมการด้านนวัตกรรมสืบสวนสอบสวน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งนี้ ตนได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ให้เตรียมการทำตัวชี้วัดการทำงานในปี 2561 โดยให้ทุกเรื่องสามารถทำงานต่อเนื่องจากปีนี้ และส่งต่อการทำงานให้ กกต.ชุดใหม่ให้เรียบร้อย ซึ่งภาพรวมการประเมินผลเป็นไปด้วยดี
จากนั้น นายสมชัยให้สัมภาษณ์ถึงการส่งการ์ดเชิญถึง 3 องค์กร ให้มาร่วมชมการสาธิตบัตรเลือกตั้ง ว่า ได้มีการจัดส่งบัตรเชิญทางไปรษณีย์ให้แก่บุคคลต่างๆ ที่คิดว่าถ้ามาร่วมชมการสาธิตแล้ว เพราะบุคคลเหล่านั้นจะสามารถให้คำแนะนำในการปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ หลายคนก็มองในมุมว่า กกต.คงจะแกล้งทำให้เป็นปัญหาหรือเปล่า จะได้ยกเลิกระบบดังกล่าว ต้องบอกว่าไม่ใช่ กกต.พยายามทำให้ดีที่สุด ออกแบบให้สมบูรณ์ที่สุด และให้สะดวกที่สุด โดยอยากให้ช่วยดูว่าการออกแบบดังกล่าวยังเห็นข้อบกพร่องอะไร จะได้ปรับปรุงแก้ไข เช่น เรื่องของบัตรเลือกตั้ง เราได้ให้นโยบายไปว่า ต้องเป็นบัตรที่ดีที่สุดต่อประชาชน ดังนั้น บัตรเลือกตั้งที่จะใช้สาธิตในวันที่ 23 สิงหาคม ก็จะมีทั้งหมายเลขผู้สมัคร ชื่อผู้สมัคร โลโก้และชื่อของพรรค ซึ่งหมายความว่าประชาชนจะไม่ผิดหลง สามารถเลือกคนและพรรคได้ถูกต้อง หลายคนบอกว่าเอาแค่ชื่อพรรคอย่างเดียวได้หรือไม่ ไม่ต้องเอาโลโก้ คำตอบคือ คนมีหลายประเภท บางคนอาจจะอ่านหนังสือไม่ออก ก็ให้จำโลโก้พรรคแทน เช่นเดียวกับทำไมถึงต้องมีชื่อผู้สมัคร ก็เพื่อให้ประชาชนรู้ ว่าคนๆ นี้เป็นคนที่เราต้องการจะเลือกจริงๆ การออกแบบดังกล่าว ถ้าหากว่าได้ผล ไม่เกิดความสับสนและก็เป็นสิ่งที่ดี จะเป็นแบบที่จะใช้ในการเลือกตั้งจริงในอนาคต” นายสมชัยกล่าว
- ส่องพอร์ตหุ้นไทย “ดร.นิเวศน์-ครอบครัว” 5.6 พันล้าน ปี’66 ได้ปันผลกี่บาท
- เปิด 10 อันดับ สายงานราชการที่จะเกษียณอายุมากสุดในระยะสิบปี
- ธ.ก.ส. โอนเงิน “ไร่ละพัน” รอบที่ 8 เข้าบัญชีชาวนาอีกกว่า 1.5 หมื่นครัวเรือน
นายสมชัยกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ กรธ.ไม่ได้ฟันธงว่าจะมีการใส่ชื่อผู้สมัครในบัตรเลือกตั้งลงไปด้วยนั้น เห็นว่า เป็นเรื่องที่ กกต.เอง คิดว่าเป็นประโยชน์ เพราะบัตรเลือกตั้งดังกล่าว เป็นการเลือกตั้งตัวบุคคลและเลือกพรรค ถ้าหากว่าอะไรก็ตามที่สามารถให้ประชาชนเลือกได้อย่างถูกต้องก็ควรทำ คงไม่ใช่สิ่งที่ต้องรอให้เขียนไว้ในกฎหมายก่อน อะไรก็ตามที่เป็นแนวความคิดที่ดี
“การเลือกตั้งบางประเทศที่ใช้ระบบทัชสกรีนบนจอคอมพิวเตอร์ มีรูปผู้สมัคร ทำให้รู้ว่าเป็นใคร โดยเวลาเลือกก็จะกดที่รูปผู้สมัครแต่ละคน จะทำให้ประชาชนเลือกผู้สมัครได้อย่างไม่ผิดพลาด ดังนั้น คงไม่ต้องไปรอ ว่าต้องมีกฎหมายออกมา จึงจะคิดทำอะไรก็ตามที่คิดแล้วมีประโยชน์และสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน ทำให้ประชาชนเลือกได้อย่างถูกต้องทั้งคนและพรรคสมควรทำ อย่าไปสร้างระบบที่สับสน“ นายสมชัย กล่าว
เมื่อถามว่า หลังสาธิตแล้วจะมีการนำเสนอเรื่องนี้ให้ กรธ. และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ เพราะกระบวนการร่างกฎหมายก็ยังไม่เสร็จ ในขณะที่กำลังร่างสามารถแก้ไขได้ ก็ควรจะหาสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อนำไปใช้ในการออกแบบ ไม่ควรที่จะใช้วิธีการที่คิดว่า ต้องรอให้เสร็จเสียก่อนแล้วค่อยมาคิด ค่อยมาแก้ ถ้าเป็นเช่นนั้นจะเป็นเหมือนการออกกฎหมายหลายฉบับที่เคยมีบทเรียนในอดีตว่าออกมาแล้วท้ายที่สุดก็ต้องมายกเลิก มาเปลี่ยนแปลงแก้ไข ดังนั้น ถ้าทำให้ง่ายให้เสร็จในขั้นตอนเดียว คือในขั้นตอนของการร่างฯจะดีที่สุด แล้วคนที่ร่างฯไม่ใช่คนอื่นไกล เป็นสิ่งที่สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ ไม่ต้องกังวลว่ามาแล้วจะเป็นปัญหา มาแล้วจะต้องมาช่วยแก้ปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราอยากเชิญชวน ไม่ได้เป็นเพียงแต่ว่าคนที่เราส่งจดหมายเชิญเท่านั้น ท่านอื่นๆ ก็มาได้ ก็ยินดีเรียนเชิญ
ที่มา : มติชนออนไลน์