ผบ.สส. แจงมาตรฐาน 5 ข้อ ขู่ ผู้ประกอบการ คาดโทษ ไม่ทำตาม ปิดทันที

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 วันแรกของการเริ่มต้นผ่อนปรนมาตรการ 6 กิจการและกิจรรม ระยะที่ 1 (14 วัน) ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. ภายในห้องโถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านความมั่นคงศบค. แถลงว่า ผ่านมาแล้ว 38 วัน ประเทศไทยผ่านความกังวล โดยพล.อ.ประยะทธ์ เห็นว่าควรมีการผ่อนคลายบางประการ

38 วันของงานด้านความมั่นคง แต่ไม่ใช่บทบาทหลัก เป็นเพียงงานสนับสนุน เพราะแพทย์สาธารณสุขเป็นกำลังหลัก งายของทหารและตำรวจเป็นการตั้งจุดตรวจ ปัจจุบันควบคุมได้ อาจจะมีรั่วไหลตามแนวชายแดนทางบก แต่ก็สามารถควบคุมได้ ขอให้ประชาชนคนไทยให้ความมั่นใจใจการพาคนไทยผ่านเข่าราชอาณาจักร
เป็นวันแรกของการผ่อนคลาย ในช่วงแตรียมการเป็นช่วงที่สำคัญ ชีวิตจะเปลี่ยนไปแปลงไป 1.กิจการการดำรงชีวิตกลับมาผ่อนคลายได้ แต่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร คือ ได้รับการบริการเพิ่มขึ้นแต่ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาทีการเคลื่อนย้ายมากขึ้น ซึ่งเกิดจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ เพราะหมายถึงการผ่อนคลายบางกิจการและกิจกรรมเท่านั้น เรายังการ์ดตกไม่ได้ การเดินทางไม่ใช่คำแนะนำของรัฐบาลที่ให้ทำในเวลานี้ แต่เป็นการงดหรือลดในการข้ามจังหวัด เว้นมีเหตุจำเป็น และจะได้รับความไม่สะดวกในการเดินทาง

ผู้ประกอบการต้องจัดตามมาตรฐานกลาง 1.ต้องจัดให้มีการทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสตลอดเวลา 2.ต้องจัดให้มีหน้ากาก 3.มีเจลแอลกอฮอลล้างมือ 4.เว้นระยะ และ5.สถานที่ไม่แออัด ภาระหนักจะตกอยู่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดในการตรวจว่าผู้ประกอบการปฏิบัติตามหลักมาตรฐานกลางหรือไม่ และกระทรวงสาธารณสุขจัดทำคู่มือ และศูนย์ด้านความมั่นคงโควิด-19 จะเข้าไปตรวจสอบ ซุ่มดูสถานประกอบการ เช่น ซุปเปอร์มาเก็ตให้เปิดได้ แต่เป็นหน้าที่ผู้ประกอบการที่จ้องปฏิบัติตามมาตรฐาน 5 ข้อ


“10 ตารางเมตรต่อ 1 คน ดังนั้น จะรับคนได้ 700 คน แบ่งออกเป็นลูกค้า 300 คน พนักงาน 400 คน ถ้าไม่ทำตามนั้น เตือนก่อน ถ้าไม่ทำอีกปิดทันที เพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจ”