เปิดประวัติ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรี ในขั้ว ธรรมสนัส ถึงคิวถูกปลด

ประวัติ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จากอดีต- ปัจจุบัน
นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จากอดีต- ปัจจุบัน ลำดับจากซ้าย 1. อดีตอาจารย์ประจำสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า 2. ขณะเป็นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 5 ของพรรคพลังประชารัฐ 3. ปัจจุบันตำรงตำแหน่งโฆษกรัฐบาล ในรัฐบาลพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา 4. ขณะนั่งร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ในฐานะตำแหน่งโฆษกรัฐบาล ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2563

เส้นทางการเมืองของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พลิกผันราวกับฟ้าผ่า หลังรุ่งเรืองราวกับพลุบนท้องฟ้า

หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ ครั้งที่ 3 (31 สิงหาคม-3 กันยายน) ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพียง 6 วัน ตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ของเธอก็สิ้นสุดลง ในเวลาการดำรงตำแหน่งเพียง 13 เดือนเศษ  (5 ส.ค.63-9 ก.ย.64)

คาดว่าตำแหน่งอันทรงพลังในพรรคพลังประชารัฐ ในเก้าอี้เหรัญญิกพรรค ดูแลถุงเงินเข้า-ออกของพรรค ทั้งหมด ก็คงต้องปลิวตามไปด้วย ในระยะอันใกล้

เหตุผลทางการเมือง ที่ทำให้เธอต้องหล่นจากเก้าอี้รัฐมนตรี คือร่วมเป็นเครือข่ายการล้มเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ร่วมขบวนกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

ก่อนหน้านี้ ต้นธารทางการเมืองของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เริ่มจาก ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กำลังเป็นนักการเมืองดาวรุ่ง ขึ้นชั้นว่าที่รัฐมนตรีใหม่ ในโผ “ครม.ประยุทธ์ 2/2”

ย้อนโปรไฟล์ “ดร.นฤมล” ก่อนเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เคยให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ในเรื่องคอนเนกชั่นกับ บุคคลสำคัญ ดังนี้

ADVERTISMENT

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม : ไม่รู้จักท่านนายกฯเป็นการส่วนตัว ไม่ได้ใกล้ชิด เข้าใจว่า ท่าน (พล.อ.ประยุทธ์) อยากได้คนที่สามารถชี้แจงนโยบายรัฐบาลให้ชาวบ้านฟังเข้าใจง่าย ๆ เพราะเป็นอาจารย์มาก่อน และเป็นตัวแทนของพรรคในการขึ้นเวทีดีเบตนโยบายในช่วงหาเสียง”

ท่านนายกฯ เลือก แสดงว่าท่านไว้ใจ ไม่ควรปฏิเสธ และเชื่อว่าการเข้ามาช่วยตรงนี้จะสามารถเชื่อมประสานทั้ง 3 ส่วน คือ พูดแทนท่านนายกฯ ต้องประสานกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) การทำงานในสภาให้ร้อยเรียงเป็นเรื่องเดียวกัน เป็นเอกภาพ มีเสถียรภาพ”

ADVERTISMENT

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี : เมื่อถูกทาบทามเป็นโฆษกรัฐบาล ก็ถามอาจารย์สมคิด รองนายกรัฐมนตรี ว่า แบบนี้ OK ไหม ท่านก็บอกว่า มันก็ช่วยรัฐบาลได้ และเป็นตำแหน่งที่ดี จะได้มาช่วยในภาพใหญ่ ท่านก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ก็เลยขออนุญาตท่านและมาช่วยงานท่านนายกรัฐมนตรี

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง : หลายคนก็มองว่า ควรจะไปช่วยที่กระทรวงการคลัง ซึ่งก็พร้อมที่จะไปช่วยงานอาจารย์อุตตม (รมว.คลัง) ที่กระทรวงการคลัง เรามีสัญญาใจว่าจะไปช่วยท่านในทีมกระทรวงการคลัง

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม : ท่านเป็นคนต้นคิด นโยบาย “มารดาประชารัฐ”

ตลอด 1 ปีที่ทำเนียบรัฐบาล และที่พรรคพลังประชารัฐ เธอปรากฏตัว-ชื่อในกลุ่มเครือข่ายอำนาจ “บิ๊กป้อม”

“ดร.นฤมล” บอกว่า เขามีวันนี้ เพราะ “ผู้ใหญ่” นักข่าวเคยถามเธอว่า การตัดสินใจครั้งสำคัญ การเมือง “ติดหนี้บุญคุณ” ใครบ้างหรือไม่ ?

“ดร.นฤมล” ตอบว่า “เรียกว่าเป็นหนี้หรือเปล่า…เขาให้โอกาสก็อาจจะเป็นบุญคุณกัน ความเมตตาที่แต่ละท่านให้โอกาส”

“มีหลายคนอยากทำงานการเมือง พยายามหาทางเข้าก็เข้าไม่ได้ บางคนไม่อยากจะเข้าก็จำเป็นต้องเข้า ส่วนของตัวเองไม่ถึงขั้นว่าไม่อยาก แต่ไม่ได้วางแผนที่จะเข้า เส้นทางชีวิตพาเข้ามา”

“ที่เดินเข้ามาได้เพราะผู้ใหญ่ให้โอกาส เมตตามาตลอดทาง โชคดีเพราะส่วนใหญ่ผู้ใหญ่ที่ไปรับใช้หรือสัมผัสด้วย ท่านเมตตา เราก็เป็นตัวของเรา อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ เมื่อไรที่ทำไม่ได้ก็พร้อมที่จะออกมา” 

เมื่อทำงานบนแท่นโฆษกรัฐบาลครบ 1 ปี ข่าวที่สะพัดว่าเธออาจได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง หากตามโผ-ตามคาด ก็คือ กระทรวงการคลัง

ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายชีวิตที่เธอวางไว้ เพราะตำแหน่งโฆษกรัฐบาลนั้น ไม่ใช่ Passion ของเธอเลย

“สาเหตุที่ลาออกจากนิด้า จากข้าราชการประจำ ออกจากความสะดวกสบายในชีวิต เพราะเป็น passion อยากทำเพื่อช่วยเหลือคนยากจน การทำงานการเมืองสามารถเอาแนวคิด ทำนโยบายและผลักดันให้เกิดขึ้น เกิดผลกับคนที่ขาดโอกาส”

“ตำแหน่งโฆษกก็ไม่ใช่ passion ไม่ได้วางแผน ไม่ได้คิดว่าจะเกิดขึ้น จากนี้ไปก็ไม่มีแผน ไม่เคยดูหมอ ไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไร เป็นอะไรก็ได้ ขอให้ได้ทำงาน ไม่มีสิทธิ์เลือก ส่วนตัวถนัดการเงินการคลัง”

ระหว่างการทำงานบนโพเดียมโฆษกรัฐบาล จึงมีข่าวร้าวตึกนารีสโมสร กลายเป็นเรื่องร้อนหู “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ทำนองว่า เกิดความไม่เป็นเอกภาพในการทำงานของทีมโฆษกรัฐบาล ที่มาจาก 3 พรรค

เรื่องดังไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้ารัฐบาล ทะลุไปถึงหู “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี-ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ กระทั่ง “ดิสทัต โหตระกิตย์” เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ต้องส่ง พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ อดีตโฆษกรัฐบาลยุค คสช. บุกมานั่งสังเกตุการณ์การแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลมาแล้ว

ทรรศนะทางการเมือง-ความขัดแย้งในดงอำนาจ ของ “ดร.นฤมล” เคยยกตัวอย่างไว้ว่า

“หากศึกษาประวัติศาสตร์ตั้งแต่ 2475 จะเข้าใจเหตุผลว่า ทำไมเราถึงเดินมาถึงจุดนี้ ทำไมต้องมีการรัฐประหารปี”49 และปี”57 …ไม่มีใครพูด พูดถึงแต่การยึดอำนาจ ต้อง fair จะมาโทษทหารอย่างเดียวไม่ได้ เป็นเพียงปัจจัยทางการเมืองที่ใช้โจมตีรัฐบาล ทุกคนมีส่วนร่วมทำให้เดินมาถึงจุดนี้ อย่าลากกลับไปที่เดิมอีกเลย”

เธอไม่ใช่คนใหม่-ในสนามการเมือง ปรากฏตัวทางการเมืองครั้งแรกที่กระทรวงแรงงาน ในสมัยที่ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการ ได้รับมอบหมายให้ดูแลยุทธศาสตร์การลงทุนของกองทุนประกันสังคม โดยดูเรื่องการบริหารเงินตอบแทนการลงทุน

เมื่อ พล.อ.ศิริชัย ลาออกจาตำแหน่งในปี 2560 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ จึงดึงมาช่วยงานที่กระทรวงการคลัง ก่อนได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งมีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ

ปัจจุบันเธอควบ ทั้งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ส.ส. บัญชีรายชื่อลำดับที่ 5, กรรมการบริหารพรรค และเลขานุการคณะกรรมการนโยบาย พปชร.

ภาพประกอบข่าว ประวัติ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ณ มูลนิธิป่ารอยต่อ ร่วมกับแกนนำ พปชร. และ พล.อ.ประวิตรตำแหน่งที่คนการเมืองกล่าวขวัญถึงมากที่สุด คือ นักการเมืองหญิงเพียงหนึ่งเดียว ที่ปรากฏตัวเป็น 1 ใน 13 อรหันต์ ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ในวันที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ตอบตกลงขึ้นกุมบังเหียน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ฉายาในโลกโซเชียล ของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ คือ “โฆษกบิ๊กอาย” หรือคอนแทคเลนส์ตาโต ซึ่งเป็นที่นิยมของวัยรุ่นสาว ๆ ที่อยากมีดวงตากลมโตดูสดใส อีกนัยหนึ่งคือ

ฉายานี้แรกเริ่มมาจาก คอมเมนต์ของชาวทวิตเตอร์ ในข่าวที่ “ดร.นฤมล” แถลงเรื่อง “โฆษกฯ ขอประชาชนอย่าตื่นฝุ่นพิษ..ระบุสถานการณ์กำลังดีขึ้น” ขณะที่ในเวลานั้นเกิดภาวะ “ฝุ่นพิษ PM2.5” ทั่วทุกพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร และเมืองใหญ่ๆ มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ หลายรายคอมเมนต์ทำนองว่า “เพราะโฆษก ใส่บิ๊กอาย จึงอาจไม่แสบตาจากฝุ่นพิษ”

ประกอบกับ “ดร.นฤมล” มักใส่ “บิ๊กอาย” ทำให้ขับเน้นดวงตากลมโต สดใสเสมอ เมื่อปรากฏตัวในการแถลงข่าว ทำให้ฉายา “บิ๊กอาย” เป็นที่รู้กันว่าคือ “ดร.นฤมล” ที่อาจได้ขึ้นชั้นเป็น “รัฐมนตรีใหม่” ในห้วงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) “ประยุทธ์2/2”

 

หมายเหตุ : ปรับปรุงข้อมูล ล่าสุด 9 กันยายน 2564