นักเรียนเลว เปิดตัวผู้ดีเบตกับ รมว.ศึกษา บ่าย 3 พรุ่งนี้

“นักเรียนเลว” เปิดตัวผู้ดีเบตกับ “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 15.00 น. พรุ่งนี้ 

วันที่ 4 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เพจเฟซบุ๊ก นักเรียนเลว ได้โพสต์ภาพและข้อความเปิดตัวผู้ที่จะดีเบตกับ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เวลาประมาณ 15.00 น. พรุ่งนี้ (5 ก.ย.) บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ โดยผู้ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนกลุ่มนักเรียนเลว ได้แก่ นายลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 

เปิดตัวผู้ดีเบทกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ"มิน" ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ นักเรียนชั้นม.6แล้วพบกันวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) เวลาบ่าย 3 โมง หน้ากระทรวงศึกษาธิการ——#หนูรู้หนูมันเลว#นักเรียนเลว

โพสต์โดย นักเรียนเลว เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2020

 

สำหรับ นายลภนพัฒน์ ผู้ที่จะดีเบตกับนายณัฏฐพล เป็น “เลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท” โดยเมื่อปีที่แล้ว นายลภนพัฒน์ พร้อมกลุ่มนักเรียน 7 คน ได้เข้ายื่นหนังสือ ถึงกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนฯ เพื่อขอให้พิจารณา และทบทวนมาตรฐาน ในการลงโทษเด็กนักเรียนด้วยวิธีที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน กรณีกฎระเบียบการไว้ทรงผม

ต่อมา นายลภนพัฒน์ ได้กลายเป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่ม “นักเรียนเลว” ที่ร่วมยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ต่อกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขจัดความไม่เท่าเทียมทางเพศให้กับนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศ ดังนี้

  • กระทรวงศึกษาธิการต้องปรับปรุงและแก้ไขระเบียบว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ. 2563 โดยต้องระบุให้นักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศได้มีสิทธิในการเลือกทรงผมตามเพศวิถีของตนเอง
  • นักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศ ต้องมีสิทธิเลือกที่จะใส่ชุดนักเรียนตามเพศวิถีของตนเอง และกระทรวงศึกษาธิการต้องออกแบบชุดนักเรียนเพิ่มเติมสำหรับนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือยกเลิกการบังคับแต่งเครื่องแบบนักเรียน เพื่อให้นักเรียนทุกคนมีสิทธิที่จะแต่งกายได้ตามเพศของตนเอง
  • ตรวจสอบ เรียกคืน และยุติการจัดจำหน่ายหนังสือเรียนที่พูดถึงความหลากหลายทางเพศในมุมมองที่ไม่ถูกต้อง รวมทั้งให้ยกเลิกแบบประเมินและกฎระเบียบของโรงเรียนต่าง ๆ ที่ยังมีการเหยียดเพศ หรือลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศ
  • ขอให้กระทรวงศึกษาธิการกำชับครูและบุคลากรทางการคึกษา ให้ปฏิบัติต่อนักเรียนทุก ๆ เพศอย่างเท่าเทียมกัน และห้ามดูถูก ดูหมิ่นเหยียดหยาม หรือกลั่นแกล้งนักเรียนด้วยเรื่องเพศ

ย้อนไปเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายลภนพัฒน์ ได้ให้สัมภาษณ์รายการ Talking Thailand ช่องวอยซ์ทีวี กรณี นายณัฏฐพล กล่าวว่า หากทุกคนมองว่าต้องมีส่วนร่วมทางการเมือง จะไม่มีโอกาสพัฒนาตนเอง

โดยนายลภนพัฒน์ แสดงความเห็นว่า “ถึงจะบอกว่านักเรียนมีหน้าที่ในการเรียน แต่หน้าที่ตรงนั้นมันมีอยู่แค่ 6 ชั่วโมงต่อวัน เวลานอกเหนือจากนั้นเขาอยู่ในสังคมปกติเหมือนทุกคน ทำไมเขาถึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องในเรื่องการคมนาคมที่ดีเหมือนคนอื่นๆ เพราะเขาเองก็ต้องนั่งรถเมล์เหมือนกับคนปกติ จะบอกว่านักเรียนได้รับสิทธิพิเศษกว่าคนอื่นมันก็ไม่ใช่ เพราะเขาต้องใช้ชีวิตเหมือนกับคนปกติ และหลักสูตรการเรียนการสอนมันก็กระทบต่อตัวเขาโดยตรง ถ้าหลักสูตรมันไม่ดีเขาก็มีสิทธิที่จะเรียกร้อง การศึกษาเป็นหนึ่งในการเมือง คือการเมืองเนี่ยมันกำหนดนโยบายการศึกษา การเมืองคือเรื่องของนโยบายระดับประเทศ คือเรื่องของสวัสดิการที่ทุกคนควรได้รับ”

ขณะที่เมื่อวานนี้ เพจเฟซบุ๊ก “นักเรียนเลว” ได้โพสต์ข้อเรียกร้อง 3 ข้อ 1 เงื่อนไข ให้กระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่

1.หยุดคุกคามนักเรียน : กระทรวงศึกษาธิการต้องปกป้องนักเรียนจากการถูกคุกคามทั้งจากหน่วยงานภายในและภายนอกกระทรวง

2.ยกเลิกกฎระเบียบล้าหลัง : กระทรวงศึกษาธิการต้องยกเลิกกฎหรือระเบียบของกระทรวงฯ ที่มีเนื้อหาเป็นการกดขี่นักเรียน ละเมิดสิทธิมนุษยชนตามหลักสากล และลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ในตัวนักเรียน

3.ปฏิรูปการศึกษา : กระทรวงศึกษาธิการต้องวางแผนปฏิรูประบบการศึกษาทั้งหมด เพื่อขจัดปัญหาต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อตัวผู้เรียน เช่น ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาการเข้าไม่ถึงการศึกษา ปัญหาหลักสูตรที่ไม่มีคุณภาพ ปัญหาภาระงานครู ปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของครู ฯลฯ ทั้งนี้ต้องให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการด้วย

พร้อมยื่นเงื่อนไขว่า “หากทำไม่ได้ก็ลาออกไป” : หากกระทรวงศึกษาธิการไม่สามารถดำเนินการข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อข้างต้นได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการควรลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้ผู้มีความสามารถมากกว่าเข้ามาดำเนินการแทน

ประกาศข้อเรียกร้อง 3 ข้อ 1 เงื่อนไข ของนักเรียนเลวและแนวร่วมองค์กรนักเรียนจาก 50 โรงเรียนทั่วประเทศ3 ข้อเรียกร้อง-…

โพสต์โดย นักเรียนเลว เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2020