ตร.แถลง จ่อเอาผิดผู้ชุมนุมทุกคน ระบุเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ

ตำรวจแถลง จ่อเอาผิดกลุ่มผู้ชุมนุมทุกคน โดยเจ้าหน้าที่บันทึกหลักฐานไว้หมดแล้ว ม็อบขนรถเครื่องขยายเสียง อาหาร เข้าพื้นที่ ระบุเป็นการชุมนุมที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 15 ตุลาคม มติชน รายงาน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงถึงสถานการณ์การชุมนุมที่แยกราชประสงค์ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ในวันนี้กำลังตำรวจของ บช.น.ที่ราชประสงค์มีทั้งสิ้น 15 กองร้อย โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.บริเวณสกายวอร์ก 2.บนถนนราชประสงค์ซีกขวา และ 3.บนถนนราชดำริซีกซ้าย อยากฝากสื่อมวลชนช่วยเตือนคนที่มาร่วมชุมนุม การชุมนุมเกินกว่า 5 คนถือว่าผิดกฎหมาย และจะถูกดำเนินคดีทุกราย ตำรวจมีทีมงานบันทึกภาพไว้ทุกราย

“ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ฝากถึงประชาชนที่มาร่วมชุมนุมว่า ขอให้คิดให้รอบคอบ เนื่องจากหากมีการกระทำความผิดและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายจะมีประวัติติดตัวและมีผลกระทบต่อไปในอนาคต โดยประชาชนที่จะนำรถบรรทุกน้ำ อาหาร รถเครื่องขยายเสียงเข้ามาในพื้นที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายในวันพรุ่งนี้ (16 ตุลาคม)” พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ ระบุว่า แกนนำที่ถูกควบคุมตัวยังอยู่ที่ 22 ราย แบ่งเป็นแกนนำที่ถูกจับกุมตามหมายจับ 4 ราย รวมถึงแนวร่วมที่มีความผิดซึ่งหน้าจำนวน 18 คน โดยจะส่งห้องฝากขังดำเนินคดีต่อไป ส่วนกรณีที่มีรายงานว่านายภานุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง ถูกตำรวจควบคุมตัวนั้น ตนยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้

สำหรับการชุมนุมในวันนี้ถือเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินในสถานการณ์ร้ายแรงและตำรวจได้มีการประกาศเตือนให้ทราบแล้วว่าเรื่องใดสามารถทำหรือไม่ทำได้ หากมีใครฝ่าฝืนทางพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ADVERTISMENT

นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้ชุมนุมบางส่วนได้พังกำแพงสกายวอร์ก ทางเชื่อมระหว่างห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โรงพยาบาลตำรวจมุ่งหน้าบีทีเอสสยาม การกระทำดังกล่าวถือว่ามีความผิดเนื่องจากเป็นการกระทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันทำให้ทรัพย์สินเสียหาย

“ยังพบผู้ชุมนุมนำกระดาษไปติดกล้องวงจรปิดอีกด้วย จึงมองว่า อันนี้หรือที่บอกว่าการชุมนุมโดยสงบ การกระทำความผิดนี้หากทำผิดไปแล้วไม่ว่าแบบใดก็ตามขอให้ประชาชนศึกษาข้อมูลมาให้ดี ๆ เพราะหากถูกดำเนินคดีไปแล้วไม่สามารถย้อนกลับได้ โดยขอให้ไปศึกษาแกนนำหรือผู้ชุมนุมที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้า”

ส่วนกรณีผู้ชุมนุมกดดันให้มีการปล่อยตัวแกนนำที่ถูกจับกุมนั้น พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า การปล่อยตัวแกนนำนั้นต้องดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนตามกฎหมาย เพราะหากไม่ทำผิดก็จะไม่ถูกดำเนินคดี หลังจากนี้ก็ว่าไปตามกระบวนยุติธรรม