จาตุรนต์ โกมลมิศร์ “มอเตอร์โชว์ปลุกกำลังซื้อ 2 หมื่นล้าน”

สัมภาษณ์

ทุก ๆ วิกฤตย่อมมีโอกาส… เช่นเดียวกัน แม้ว่าอีเวนต์จัดแสดงรถยนต์ที่ใหญ่สุดในประเทศไทย อย่าง “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42” ปีนี้ยังอยู่ท่ามกลางกระแสของการเฝ้าระวังการระบาดระลอก 3 ของโควิด แต่ “จาตุรนต์ โกมลมิศร์” รองประธานจัดงาน และในฐานะแม่ทัพใหญ่ของงานยังยืนยันความพร้อมตั้งรับและเดินหน้าขับเคลื่อนงาน ซึ่งถือเป็นอีเวนต์ใหญ่งานแรกของปีของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

พร้อมเกิน 100%

แน่นอนว่าปีนี้ เราและทุกคนต่างมีประสบการณ์จากการจัดงานในปี 2563 ที่ผ่านมา และแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดหรือความวิตกกับโควิด-19 จะไม่เท่ากับปีก่อน แต่เราในฐานะของผู้จัดงานจะประมาทไม่ได้ เพราะสิ่งสำคัญคือผู้เข้าร่วมงานบางกอกมอเตอร์โชว์ ทุกคนจะต้องได้รับความปลอดภัย ดังนั้น มาตรการการเฝ้าระวังทุกอย่าง เราดำเนินการเช่นเดียวกับปีก่อน ไม่มีความย่อหย่อน เรายังใช้งบประมาณป้องกันโควิดเท่ากับปีก่อนทุกอย่าง ด้วยงบประมาณด้านการสาธารณสุขกว่า 3 ล้านบาท เต็มที่เพื่อให้ทุกคนเดินงานเราด้วยความสบายใจ

คอนเซ็ปต์วิถีใหม่ใจเป็นสุข

ปีนี้งานเราจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “วิถีชีวิตใหม่ ใจเป็นสุข” หรือ “Shaping the Next Chapter” จากการที่วิกฤตการณ์โรคระบาดที่ส่งผลต่อไลฟ์สไตล์ ความเป็นอยู่และบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบต่าง ๆ ต่อสังคมอย่างเห็นได้ชัด

ทำให้เกิดการพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน รวมถึงแนวคิด วิสัยทัศน์ การจัดการรักษา และฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ พัฒนา ปรับปรุง เรียนรู้ที่จะอยู่อย่างปลอดภัย และใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข

ผู้ประกอบการทะลักเต็มพื้นที่

พื้นที่การจัดงานทั้งหมดทั้งข้างในข้างนอก 170,960 ตารางเมตรนั้นมี 34 บริษัทรถยนต์-จักรยานยนต์ ตอบรับเข้าร่วมงานมาเกือบครบทุกค่ายมีเพียงบางค่ายเท่านั้นที่ประสบกับปัญหาและความจำเป็นบางประการที่ไม่สามารถเข้าร่วมงานเราได้ อันนี้ก็ต้องเข้าใจ เพราะช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ไม่ปกติ หรือการใช้พื้นที่จัดบูทในการโชว์รถยนต์ จักรยานยนต์ ก็เช่นเดียวกัน มีผู้ประกอบการบางรายได้ขอปรับลดขนาดพื้นที่ลง แต่บางรายก็ยังคงพื้นที่เท่าเดิม ทุกอย่างต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ แต่ที่แน่ ๆ ปีนี้มีค่ายรถยนต์ยี่ห้อใหม่เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา และมีเทคโนโลยีใหม่มาจัดแสดงด้วย อย่างค่ายเกรทวอลล์ มอเตอร์ น่าจะได้เห็นสีสันต่าง ๆ มากขึ้น ในฐานะผู้จัดงานได้เพิ่มความพิเศษ งานในปีนี้มีความคึกคักนั้น นอกจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดของค่ายรถยนต์ต่าง ๆ แล้ว ยังมีการเปิดตัวรถยนต์ยี่ห้อใหม่เปิดตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในงานนี้ด้วย

และปีนี้ผู้จัดยังได้เพิ่มโซนของการจัดแสดงอีกราว 2,000 ตารางเมตร เป็นสมาร์ท อีวี ซิตี้ (Smart EV City) เมืองจำลองที่แสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยี การใช้งานระหว่างรถยนต์ไฟฟ้ากับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปและโซนแกรมปิ้ง (GLAMPING) ที่นำรถยนต์พร้อมอุปกรณ์ ตกแต่ง สำหรับการตั้งแคมป์ภายในรถยนต์มาจัดแสดง ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงาน

เม็ดเงินสะพัด 2 หมื่นล้าน

ในส่วนของตัวเลขความคาดหวัง ปีนี้เราไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ บนสถานการณ์แบบนี้ ถ้าได้เท่ากับปีก่อนก็ถือว่าแฮปปี้แล้ว

คือเบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานในปีนี้ไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน มีเม็ดเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาท มียอดจองรถไม่น้อยกว่า 20,000 คัน ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งในงานเรามีรถยนต์ จักรยานยนต์ใหม่ มีรถรุ่นใหม่มาเปิดตัวแล้ว

ขณะที่แคมเปญโปรโมชั่นจากสถาบันการเงิน ที่ร่วมออกบูทให้อัตราดอกเบี้ย ผู้ที่ซื้อรถยนต์ใหม่ภายในงานครั้งนี้ 1.99% ถือว่าต่ำมาก

และเราเชื่อว่าปีนี้คนที่มาดูงานจะเป็นกลุ่มที่ตั้งใจเข้าจริง ๆ ที่พร้อมมาพิจารณามาเลือกซื้อ มากกว่ามาเดินเล่น น่าจะเป็นผลดีกับเซลส์ขายรถแต่ละบูท เพราะนี่คือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ไม่ต้องพูดกันเยอะ ศึกษารายละเอียดมาพอสมควร เรียกว่าน่าจะปิดการขายได้ง่าย ๆ

“บางกอก ยูสคาร์” รีเทิร์น

ปีนี้เราได้จัดงานแสดงรถยนต์มือสอง หรือบางกอก ยูสคาร์ ครั้งที่ 12 ซึ่งจะจัดบริเวณด้านหลังอาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-2 เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการมองหาทั้งรถใหม่ และรถมือสองด้วย บนพื้นที่ขนาด 4,000 ตารางเมตร

โดยเพิ่มระยะเวลาของการจัดงานจาก 7 วันเป็น 12 วัน ซึ่งมีผู้ประกอบการรถยนต์มือสองเข้าร่วมงานถึง 10 บริษัท และมีการนำรถยนต์มาจัดแสดง พร้อมสับเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดงานไม่น้อยกว่า 1,000 คัน

สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ค่าเข้าชม 100 บาท จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24 มี.ค.-4 เม.ย. ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี