อดีตนายกรัฐมนตรี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เห็นใจชาวนา ราคาข้าวตกต่ำ ไม่มีกินมีใช้ หนี้สินท่วมตัว จวกรัฐบาลล้มเหลว มีแต่มาตรการเดิม ๆ บ่นเสียดายปรับโครงสร้างเกษตรทั้งระบบที่เคยทำไว้ แนะออกมาตรการสนับสนุนต้นทุนการผลิต แก้ปัญหาการขนส่ง
วันที่ 19 สิงหาคม 2564 นาวสางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเกี่ยวกับปัญหาเกษตรกรของรัฐบาล ว่า แม้ประเทศไทยของเราได้ชื่อว่าในน้ำมีปลาในนามีข้าว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเกษตรกรจะกินดีอยู่ดี
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ชาวนาเผชิญปัญหาต้นทุนการผลิตสูงขึ้นแต่ราคารับซื้อกลับลดลงอย่างหนัก ขณะที่ปลายเดือนสิงหาคมนี้ ข้าวเจ้านาปรังฤดูใหม่กำลังจะทะลักออกสู่ตลาดจำนวนมากมายหลายสิบล้านตัน แต่ราคาข้าวแทบทุกชนิดได้ร่วงลงไปก่อนหน้าแล้ว
เช่น ข้าวเปลือกเจ้าแห้ง (ความชื้น 15%) ราคาเหลือเพียงตันละ 7-8 พันบาท ดิฉันเป็นห่วงมาก ว่าราคาข้าวปีนี้จะตกตํ่ามากกว่าปีก่อน ซ้ำเติมชีวิตพี่น้องชาวนาไทยจากเดิมที่เดือดร้อน ไม่มีกินมีใช้ มีหนี้สินล้นพ้นตัวอยู่แล้วให้ยากจนลงไปอีก
วันนี้รัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหาให้กับชาวนา มองไม่รอบด้าน และไม่ทันต่อสถานการณ์ มีแต่มาตรการเดิม ๆ จนทำให้วิกฤตราคาข้าวบานปลาย ดิฉันมีความเห็นว่า รัฐบาลควรจะหาแนวทางแก้ไขเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที
เช่น การออกมาตรการสนับสนุนต้นทุนการผลิต อย่างเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ค่าเช่านา เพื่อลดต้นทุนการผลิต รวมถึงการเข้าไปดูแลด้านราคาให้กับชาวนา ขณะเดียวกันต้องแก้ปัญหาการขนส่ง การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ เพราะเมื่อส่งออกได้มากขึ้น ราคาข้าวก็จะสูงขึ้นด้วย ซึ่งจะเป็นการช่วยชาวนาในทางอ้อม เพราะการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวคือการช่วยเศรษฐกิจไทยในภาพรวมทั้งประเทศค่ะ
“ดิฉันเสียดายโอกาสในการปรับโครงสร้างเกษตรทั้งระบบที่ได้เริ่มวางรากฐานไว้เมื่อครั้งที่ดิฉันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เช่น การทำเกษตรโซนนิ่ง การลดการผลิตข้าวคุณภาพต่ำ และการปลูกพืชอื่น หลังเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว การพัฒนาพันธุ์ข้าว เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพิ่มผลิตภาพของแรงงาน ไปจนถึงมาตรการลดต้นทุนโดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในภาคการเกษตร การขยายตลาดใหม่ ๆ เพื่อสร้างโอกาส และมอบอนาคตที่ดีให้กับอาชีพชาวนา ให้สมกับคำว่าชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ จะได้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้งค่ะ”