กล้า เปิดตัว ผู้กำกับหนุ่ย-ทนายอาร์ม เลือกตั้งซ่อมสงขลา-ชุมพร

“กรณ์” หัวหน้าพรรคกล้า เปิดตัว ผู้กำกับหนุ่ย-ทนายอาร์ม สมัครเลือกตั้งซ่อม เขต 1 ชุมพร-เขต 6 สงขลา ขอโอกาสแก้ปัญหาปากท้อง-พัฒนาเศรษฐกิจ เปลี่ยนแปลง-ปลดแอกการเมืองเก่า

วันที่ 12 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคกล้า นำโดยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยคณะผู้บริหารพรรคได้เปิดตัว พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ หรือ ผู้กำกับหนุ่ย เป็นว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 จ.ชุมพร และ นายพงศธร สุวรรณรักษา หรือ ทนายอาร์ม ทนายความด้านแรงงานและสิทธิมนุษยชน เป็นว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 จ.สงขลา โดยว่าที่ผู้สมัครทั้ง 2 คน ได้ผ่านกระบวนการคัดเลือกตามกฎหมายแล้ว

พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์
พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์

นายกรณ์กล่าวว่า ตั้งใจให้พรรคเป็นเวทีที่รวมพลคนมีของ กว่าครึ่งปีที่เตรียมการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เราคัดคนคุณภาพในท้องถิ่นเข้าสู่การเมือง เราตระหนักว่าที่ประชาชนต้องการมากที่สุดคือ ผู้จริงใจ มีความรู้ ความสามารถในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง

โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และการสร้างโอกาสในการทำมาหากิน ดังนั้นพรรคการเมืองที่จะเป็นที่พึ่งที่หวังได้ต้องมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และพรรคกล้าพร้อมเป็นคำตอบให้ประชาชน จึงมั่นใจและพร้อมส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมแทนตำแหน่งที่ว่างทั้ง 2 เขตใน จ.ชุมพร และ จ.สงขลา

เรื่องนโยบายในพื้นที่ นายกรณ์เชื่อมั่นว่า จ.ชุมพร คือเมืองแห่งผลไม้และเกษตรแปรรูป เรามองเห็นถึงศักยภาพที่จะพัฒนา “เกษตรคุณภาพ-เกษตรพรีเมียม-เกษตรทันสมัย” สามารถขายได้ในราคาที่ดี จังหวัดมีเอกลักษณ์ความสมบูรณ์เชื่อมโยงทั้ง พืชผล และการประมง ภูมิประเทศเหมาะสมด้านโลจิสติกส์

ส่วน จ.สงขลา เรามองเห็นโอกาสพัฒนาสู่เมืองการค้าระดับภูมิภาค ด้วยยุทธศาสตร์ “Songkhla-Seamless South” เป็นหัวเมืองเศรษฐกิจการค้าแบบไร้รอยต่อ เชื่อมโยงสิงคโปร์-มาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อสูงสุดในอาเซียน

พงศธร สุวรรณรักษา
พงศธร สุวรรณรักษา

หากเราขยายศักยภาพทั้งอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ยาง น้ำยาง ประมง การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่เข้มแข็ง รวมถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ ถ้าเรามองเห็นโอกาสเหล่านี้และพัฒนาให้ถูกจุด จ.สงขลา จะเป็นกำลังสำคัญคืนชีพพื้นที่เศรษฐกิจภาคใต้ตอนล่างได้

นายกรณ์กล่าวว่า ขอให้พี่น้องประชาชนชาวชุมพรและสงขลาให้โอกาสพรรคกล้าได้มีผู้แทนฯ รับใช้ในสภา เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างมิติการเมืองใหม่ที่เป็นที่พึ่งให้กับประชาชนทุกคน ผู้สมัครของพรรคกล้าทั้ง 2 ท่าน เป็นคนในพื้นที่ โตมากับพื้นที่ เห็นโอกาสการพัฒนาพื้นที่ หากประชาชนให้ความไว้วางใจ มั่นใจว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ปลดแอกจากการเมืองเดิม ๆ ไปสู่แก้ไขปัญหาปากท้อง การพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างโอกาสให้กับพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น

ขณะที่นายพงศธร หรือทนายอาร์ม บอกว่า เมื่อเราลงสมัครไม่มีสนามไหนง่าย คู่แข่งก็เป็นภรรยาของอดีตนายก อบจ.สงขลา แต่เราจะนำเสนอการเปลี่ยนแปลง การทำการเมืองแบบใหม่ เพราะประชาชนยังขาดโอกาสเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม วันนี้สงขลาต้องกล้าเปลี่ยน

นายกรณ์กล่าวอีกว่า วันพุธที่ 15 ธันวาคม จะลงพื้นปราศรัย จ.สงขลา ส่วน จ.ชุมพร ในวันที่ 18 ธันวาคม เพื่อ สะท้อนถึงความพร้อมและให้ความสำคัญในการเลือกตั้งซ่อม แม้ว่าการเลือกตั้งซ่อมจะไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี แต่เป็นการส่งสัญญาณว่าชาวชุมพรและสงขลา ต้องการเห็นชีวิตที่ดีขึ้น ต้องการโอกาสที่ดีขึ้น และเห็นการเปลี่ยนแปลง เราจึงส่งผู้สมัครหน้าใหม่ที่ไม่มีเส้นสายการเมือง แต่ใช้การทำงานเป็นจุดขาย

ผู้สื่อข่าวยังถามถึงการส่งสมัครผู้ว่าฯ กทม. โดยนายกรณ์ กล่าวว่า มีการเตรียมคนไว้แล้ว แต่เห็นว่าวันนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อไร ดังนั้นพรรคจึงรอความชัดเจนตรงนี้ และเมื่อชัดเจนแล้วก็สามารถที่จะเปิดตัวได้ว่าท่าทีหรือยุทธศาสตร์ในเรื่องนี้เป็นอย่างไร ขณะนี้พรรคมองว่าไม่ใช่เรื่องเร่งรีบหรือมีความจำเป็นที่จะต้องออกตัว แต่จะใช้เวลาที่มีอยู่ให้กับเรื่องการเลือกตั้งซ่อม ขณะเดียวกันพรรคพร้อมที่จะส่งผู้สมัคร ส.ก. ในพื้นที่ กทม.  เพื่อมีส่วนร่วมในการทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น

นายกรณ์กล่าวอีกว่า ตนมั่นใจในแนวทางและคนของเรา เราเป็นพรรคใหม่ พื้นที่ไหนที่เราไม่มั่นใจเราก็ไม่จำเป็นต้องส่ง ดังนั้นเลือกตั้ง ส.ส. 400 เขต ก็ไม่น่าจะส่งครบทุกเขต เพราะต้องยอมรับว่าเราเป็นพรรคใหม่ โดยจะประเมินตามความเป็นจริง และในวันที่ รัฐบาลประกาศวันเลือกตั้ง จะมีความชัดเจนมากกว่านี้ เรื่องอื่นรอได้