6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งมีขุนพลระดับหัวหน้าพรรค และทีมกำลังหลัก กำลังเสริมพบปะ-ปาร์ตี้ ในกิจกรรม “ฝ่ายค้านรวมใจ สรรค์สร้างชีวิตใหม่เพื่อประชาชน” โทษฐานเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านกันมา 2 ปีกว่า จึงต้องจับมือแสดงพลังความเป็นเอกภาพ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564
แม้บางเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้างแต่หลังจากปี 2565 เป็นต้นไป 6 พรรคฝ่ายค้านเตรียมจับมือถล่มรัฐบาลเป็นเอกภาพ อาทิ
- บัตรเครดิตซิตี้ ย้ายไป UOB บัตรประเภทไหน เปลี่ยนแปลงอย่างไร
- คำแนะนำจาก ซีอีโอ “ฮั่วเซ่งเฮง” ยุคทอง (โคตร) แพง ต้องลงทุนอย่างไร ?
- Q1 “ITD” สะเทือน 4 แบงก์ใหญ่ ส่อตั้งสำรองเพิ่ม-กำไรหด
หนึ่ง อภิปรายทั่วไปรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ช่วงกลางเดือนมกราคม เพื่อให้อภิปรายรัฐบาลได้ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์
สอง จุดประเด็นประชามติให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยมีสภาร่างรัฐธรรมนูญเป็นผู้ยกร่าง
สาม เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หลังเดือนพฤษภาคม
สี่ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความวาระดำรงตำแหน่งนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ ครบ 8 ปีหรือไม่
ทั้งหมดถูกรวบยอดบนคอนเซ็ปต์ที่ว่า “บางเรื่องที่เป็นเอกภาพเชิงนโยบาย แต่หลากหลายวิธีปฏิบัติ จะทำร่วมกัน หรือต่างคนต่างทำก็ได้”
- ประวัติการเมือง ผู้ว่าฯหมูป่า “ณรงค์ศักดิ์” ชิงผู้ว่าฯ กทม. พรรคพลังประชารัฐ
- เลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา-ชุมพร พปชร.-ปชป. คนละครึ่ง พรรคกล้า หวังล็อกถล่ม
แต่บางเรื่องที่ “บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ” ซึ่งเป็นหน้าที่ฝ่ายค้านที่ต้องตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล “ฝ่ายค้านจะต้องทำร่วมกัน”
ย้อนไปก่อนหน้านี้ พรรคก้าวไกลพยายามผลักดัน-โน้มน้าวให้ฝ่ายค้านเร่งปิดเกมรัฐบาล โดยยื่นอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ทั้งแบบเปิดหน้าแถลงข่าว และผลักดันในห้องประชุม
มีแผนที่หากพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่เอาด้วย อาจจะชิงลงมือยื่นขอเปิดอภิปรายด้วยตัวเอง เพราะซุ่มซ้อมอภิปรายกันไว้แล้ว ที่สำคัญใช้เสียง ส.ส.แค่ 50 เสียง ก็ขอเปิดอภิปรายได้
แต่เมื่อเวลาผ่านไป การประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านในยุค “หมอชลน่าน ศรีแก้ว” นำขบวนอีก 5 พรรคก็ตกผลึกให้การอภิปรายรัฐบาล ในมาตรา 152 เกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม 2565
บนเหตุผลที่ว่า อภิปรายในเดือนธันวาคม เกรงว่าจะเสียของ เพราะใกล้หยุดเทศกาลปีใหม่ อารมณ์คนอยากพักผ่อนเต็มแก่ และประเด็นร้อนในสภายังไม่ถึงจุดพีก
ขณะที่เรื่องอื่น ๆ ทั้งประเด็นที่พรรคก้าวไกลขอเลื่อนวาระการตั้ง กมธ.ศึกษาข้อเท็จจริงข้อบกพร่องขบวนเสด็จฯโดยที่พรรคเพื่อไทยงดออกเสียง-ไม่แสดงตัว
ส่วนการตั้งกรรมาธิการตรวจสอบการใช้กฎหมายล้นเกินต่อผู้ชุมนุม ที่พรรคเพื่อไทยถือธงนำพรรคก้าวไกลก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเสนอญัตติ
แหล่งข่าวในเพื่อไทยขยายความว่า “พรรคเพื่อไทยเราไม่บังคับใครทำถ้าบางเรื่องไม่จำเป็นสำหรับเรา และเขาอย่ามาบังคับเราทำ”
นี่คือกฎเหล็กที่ทำงานร่วมกันใน 2 ปีสุดท้ายของฝ่ายค้าน