อภิสิทธิ์ โดนประชาธิปัตย์ลักไก่ เปิดชื่อช่วยหาเสียง สุชัชวีร์ ชิงผู้ว่าฯ กทม.

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกประชาธิปัตย์มัดมือชก เปิดชื่อช่วยหาเสียงผู้ว่าฯ กทม. แบบไม่รู้ตัว

วันที่ 20 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี และกล่าวบนเวทีกึ่งประกาศว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรค จะเข้ามาช่วยรณรงค์หาเสียงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่พรรคได้ส่งนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ลงแข่งขันนั้น

วรรคสำคัญที่ทำให้คล้ายกับเป็นการมัดมือชกนายอภิสิทธ์ ตอนหนึ่ง ที่นายจุรินทร์กล่าวว่า “ขอบคุณทุกภาคส่วนที่สนับสนุนพรรคมาโดยตลอด ตั้งแต่ประชาชน สมาชิกพรรค รวมถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และอดีตนายกรัฐมนตรี, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตรองนายกรัฐมนตรี และขอบคุณนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีความตั้งใจจะเข้าไปช่วยรณรงค์หาเสียงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อนำชัยมาสู่พรรคอีกด้วย”

หลังการประกาศดังกล่าว ทำให้นายอภิสิทธ์ และกลุ่มการเมืองภายในพรรค ต่างรู้สึกประหลาดใจ เพราะไม่ได้มีการหารือ หรือเจรจาบอกกล่าวกันมาก่อน อีกทั้งนายอภิสิทธิ์ได้แจ้งกับทุกฝ่ายว่าจะเดินทางไปพรรคเพื่อทำหน้าที่สมาชิกพรรคเท่านั้น

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์หลังจากลาออกจากการเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมแสดงบทบาททางการเมืองในเวทีต่าง ๆ ระดับโลกหลายเวที รวมทั้งบรรยายทางวิชาการให้กับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวเคยถามถึงอนาคตทางการเมือง เรื่องการกลับพรรคประชาธิปัตย์หลายครั้งในรอบ 2 ปี แต่นายอภิสิทธิ์มักจะตอบในเชิงบริหารและเลี่ยงที่จะวิจารณ์การทำงานของพรรค ที่ได้เข้าร่วมรัฐบาลสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี สมัยที่ 2 ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นายอภิสิทธิ์ ลาออกจาการเป็น ส.ส. เพราะถือกว่าพรรคได้ทำการสวนทางกับสิ่งที่ได้หาเสียงไว้

ก่อนหน้านี้แกนนำพรรครายหนึ่งเคยวิเคราะห์ บทบาทปัจจัยที่จะทำให้นายอภิสิทธิ์ กลับเข้าพรรคประชาธิปัตย์ มี 3 ประเด็น

1. พรรคประชาธิปัตย์ ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล

2. พรรคประชาธิปัตย์ เปลี่ยนตัวหัวหน้าและเลขาธิการพรรค

3. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยุบสภา เริ่มนับหนึ่งใหม่ทางการเมือง

การชิงชัยผู้ว่าฯ กทม. ของ “นายสุชัชวีร์” ที่ออกตัวแรงตั้งแต่ต้นทาง แม้จำเป็นต้องใช้ตัวช่วยทุกสรรพกำลัง ใช้ทุกต้นทุนของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีเข้าสู้ แต่การเปิดชื่อ “นายอภิสิทธิ์” เข้าหนุนเป็นพลังช่วยหาเสียง โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า นับเป็นการชิงหักด้ามพร้าด้วยเข่า อาจจะเจ็บทั้งคนหัก-คนโดนหัก