“สกลธี” ออกตัวชิงผู้ว่าฯ กทม. วิ่งชิงตั๋วทำเนียบ สายตรง “ประยุทธ์”

“สกลธี ภัททิยกุล” เปิดปากครั้งแรกกับ เจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ “สนใจงานผู้ว่าฯกทม.” และอยู่ระหว่างตัดสินใจ “เปิดตัว” ใน “นามอิสระ” ในอีก 2 เดือนข้างหน้า

หลังความชัดเจน “วันเลือกตั้ง” ผู้ว่า ฯ กทม. และการ “สางภารกิจเก่า” ในหมวก “รองผู้ว่า ฯ กทม.” คล้อยหลังจากเข้าพบ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ที่ทำเนียบรัฐบาล “มีการคุยกัน (เรื่องการลงผู้ว่าฯกทม.) แต่ขออนุญาตไม่เปิดเผย เพราะผมคุยกับท่านนายกฯ อาจจะเสียมารยาท ถ้าเอามาพูดต่อ”

ประสบการณ์การทำงานในตำแหน่ง (รอง) ผู้ว่าฯ กทม.เกือบ 4 ปีเต็ม ของ “สกลธี” ภายใต้ความรับผิดชอบ 6 สำนัก สนองนโยบายกทม. -นโยบายพล.อ.ประยุทธ์

1.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
2.สำนักเทศกิจ
3.สำนักพัฒนาสังคม
4.สำนักการจราจรและขนส่ง
5.สำนักงานกฎหมายและคดี สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร
6.สำนักงานเขตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายเทศกิจ และฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม

“ผมทำอยู่กทม.เดือนเมษายนก็จะเข้าปีที่ 4 ครบเทอมพอดี ยังสนุกกับการทำงาน ทุกวันไม่เหมือนกับการทำงาน เหมือนกับผมได้ไปเจออะไรใหม่ ๆ มีความสนใจการเมืองท้องถิ่นอยู่แล้ว เพราะผมอยู่ท้องถิ่นมา 4 ปีแล้ว”

“มีภารกิจหลายอย่างที่ผมทำค้างอยู่ หลายอย่างเป็นนโยบายของท่านนายกฯ ซึ่งยังไม่สำเร็จ จะจบภายในเดือน สองเดือนข้างหน้า”

“เมื่อสอง สามวันที่แล้ว ผมลงเรือไปตรวจการเดินเรือคลองแสนแสบ เป็นแผนของรัฐบาลในการพัฒนาคลองแสนแสบ เป็นนโยบายของท่านนายกฯ ที่ไว้ตั้งแต่ผมเป็นรองผู้ว่าฯ ใหม่ ๆ อยากให้มีการเดินเรือเชื่อมต่อ ล้อ ราง เรือ ใช้พลังงานสะอาด ซึ่งเกือบจะเสร็จทั้งหมดแล้ว รอประมาณเดือนมีนาคม”

มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 อนุมัติแผนพัฒนาคลองแสนแสบ 84 โครงการ 8.2 หมื่นล้านบาท จึงเป็น “นโยบายต่อเนื่อง” ต่อจากการเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษม ที่ “สกลธี” ในฐานะรับผิดชอบสำนักการจราจรและขนส่ง

เงื่อนไขการตัดสินใจลงผู้ว่าฯกทม. คือ การฟอร์มทีม-รวบรวมคนที่สนใจและมีแนวทางเดียวกันในการพัฒนากทม.แต่ “สกลธี” ไม่ผูกมัด-ปิดตายลงเล่นการเมืองในสนามเลือกตั้งระดับชาติ

“ผมต้องการทำภารกิจให้ลุล่วงไปก่อน ผมอาจจะเลิกไปเฉย ๆ และกลับไประดับชาติก็ได้ ยังไม่แน่นอน แต่ถามว่า ผมสนใจไหม ผมสนใจตั้งแต่วันแรกที่เดินเข้ามาศาลาว่าการ”

ก่อนเกิดอุบัติเหตุ “สองทหารเสือ กปปส.” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ – พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ แกนนำกปปส. และถูกศาลอาญาสั่งจำคุก 1 ในนั้น คือ “ทยา ทีปสุวรรณ” ผู้ที่ถูกวางตัวลงชิงผู้ว่าฯ กทม.

“จั้ม-สกลธี” คือ 1 ในการฟอร์มทีมผู้ว่ากทม. 4 + 1 ที่จะสนับสนุน “ทยา ทีปสุวรรณ” ภรรยาณัฏฐพล เป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคพลังประชารัฐ

“ที่ผ่านมาขายผู้ว่าฯ กทม.คนเดียว แต่ กทม.เป็นเมืองใหญ่ ต้องดูทั้งทีม 1+4 แต่ละด้าน ขายความเป็นทีมเวิร์ก มีตัวเลือกผู้ว่าฯ กทม.และรองผู้ว่าฯ ในใจจำนวนมาก มีรองผู้ว่าฯ กทม.ที่ครบเครื่อง ความเข้าใจปัญหาคน กทม. เป็นคนรุ่นใหม่” “บี-พุทธิพงษ์” ประธานยุทธศาสตร์ภาคกทม. พลังประชารัฐตำแหน่งขณะนั้น

“ช่วงนั้นมีการเตรียมการกันพอสมควร มีการจัดทีม วางตัว ส.ก.กันพอสมควร แต่พอเกิดอุบัติเหตุขึ้น ระส่ำระสาย ซ่านเซ็นไป ก็ไปอยู่กับทีมท่านจักรทิพย์บ้าง ไปอยู่กับทีมรักษ์กรุงเทพ แยกย้ายกันไปก็ไม่มีการคุยกันต่อ”

“แต่ก็ยังมีการพูดคุยกันตลอด เนื่องจากท่านณัฏฐพล ท่านพุทธิพงษ์ และผม เดิมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐใหม่ ๆ ก็ดูแลทีมกทม. คนที่แยกย้ายกันไปก็ยังพูดคุย ทานข้าวกันปกติ”

“ตั้งแต่ท่านณัฏฐพลและท่านพุทธิพงษ์โดนคดีไปเมื่อเดือนกุมภาฯ ปีที่ผ่านมา กลุ่มของพวกผม ใช้คำว่า ถอยห่างออกมาจากการบริหาร เนื่องด้วยเหตุผลหลายอย่างภายใน แทบจะไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับพลังประชารัฐเหลืออยู่เลย”

ต้นปีหน้า – ไม่เกินกุมภาพันธ์ 2565 “สกลธี” จะลงผู้ว่าฯกทม.สางงานเก่า-สานงานใหม่หรือไม่ จะมีความชัดเจน

“ถ้าผมจะลง (สมัครผู้ว่าฯ กทม.) ใครจะซับพอร์ตใคร ไม่เป็นประเด็น” สกลธีทิ้งท้าย