หัวหน้าพรรคก้าวไกล “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เผยคุณสมบัติผู้ว่า กทม. ลุยงานได้ทั้งบู๊และบุ๋น เคยผ่านงานบริษัท เข้าใจเอกชน – ภาครัฐ
วันที่ 23 ธันวาคม 2564 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงคุณสมบัติผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามพรรคว่า ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ของพรรคก้าวไกล ต้องมีความชำนาญที่หลากหลาย คอนเน็กชั่นที่หลากหลาย ในการบริหารเรื่องที่เกี่ยวกับเอกชน การบริหารคมนาคม การจัดการขยะ เทคโนโลยีดิจิทัล กล้อง cctv ที่ทำให้เกิดความปลอดภัยใน กทม.ต้องมีคนที่รู้วิธีคิดแบบภาคเอกชน
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 16 พ.ค. 2567
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ “ร้อยตรีหญิงจุฑารัตน์ เพชรโสม” เป็นร้อยโทหญิง
- เปิด 20 อันดับมหาวิทยาลัย ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ในปีนี้
ขณะเดียวกันต้องเข้าใจถึงกระทรวง ทบวง กรม ทั้งหลาย ทั้ง public side และ private side ที่ทำให้เกิดการประสานงานและเกิดการเปลี่ยนแปลงใน กทม.ได้
“ว่าที่ผู้สมัครของผมเป็นแบบนี้ มีทั้งประสบการณ์ด้านภาคเอกชน และภาครัฐ เคยผ่านการทำงานด้านบริษัท พอที่จะเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ รู้เรื่องคอขวดระบบการศึกษา เป็นว่าที่ผู้สมัครที่ตอบโจทย์การบริหารเมืองหลวง เป็นวัยร่วมสมัย ไม่ได้อายุมากเกินไป น้อยเกินไป เข้าใจคนที่มาก่อนเขา และคนที่มาหลังเขา เชื่อมสอดประสานไม่ว่าคนรุ่นหลังหรือคนรุ่นก่อนเขาได้พอสมควร และไม่ใช่พี่สาวของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ที่คุณสมบัติ แต่เราต้องการคนที่ตอบโจทย์คนกรุงเทพ คลุกคลีคนกรุงเทพ มานาน และไม่ต้องการนำมาเปรียบเทียบว่าใครดีกว่าใคร แต่ต้องการคนที่ทำงานได้ทั้งบู๊ ทั้งบุ๋น disrupt กทม.ได้จริงๆ และเราต้องการทำงานไปเรื่อยๆ แม้ไม่ได้เปิดตัวก็ยังอยู่หนึ่งในสาม เราไม่ได้นำกระแสมาเป็นตัวตั้ง
ส่วนนโยบายต้องทำงานแบบไร้รอยต่อระหว่างพรรคการเมืองกับผู้สมัครผู้ว่า กทม.และจะเสนอแนวคิดที่ไม่ใช่เป็นแค่ กทม.ไม่ได้อยู่ในตัวของมันเอง การมองกรุงเทพและปริมณฑล BANGKOK กับ Greater Bangkok เป็นมุมมองใหม่ ที่จะสามารถปลดล็อกปัญหาที่ใครๆ ก็รู้ว่าปัญหาคืออะไรแต่แก้ไม่ได้ เพราะยังไม่มีใครลงไปลึกถึงชั้นที่ 2 ชั้นที่ 3 ทั้งทำอย่างไร ทำอะไรและต้องชนกับใคร เรื่องคมนาคมต่างๆ มีผลประโยชน์กับเอกชนที่เกี่ยวข้องไหม ถ้ามีใครจะพร้อมทั้งกฎหมายในนิติบัญญัติ และการต่อสู้ของผู้ว่าที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ
“และคงไม่ได้ใช้ความเป็นซุปเปอร์แมน ต้องมากันเป็นทีม และเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพรรคการเมือง ทุกคนต้องเป็นดาวกระจายที่มีพลังของตนเอง”นายพิธา กล่าว