พิธา เปิดคุณสมบัติผู้ว่าฯ กทม.พรรคก้าวไกล วัยหนุ่ม เก่งครบเครื่อง

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

หัวหน้าพรรคก้าวไกล “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เผยคุณสมบัติผู้ว่า กทม. ลุยงานได้ทั้งบู๊และบุ๋น เคยผ่านงานบริษัท เข้าใจเอกชน – ภาครัฐ

วันที่ 23 ธันวาคม 2564 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงคุณสมบัติผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามพรรคว่า ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ของพรรคก้าวไกล ต้องมีความชำนาญที่หลากหลาย คอนเน็กชั่นที่หลากหลาย ในการบริหารเรื่องที่เกี่ยวกับเอกชน การบริหารคมนาคม การจัดการขยะ เทคโนโลยีดิจิทัล กล้อง cctv ที่ทำให้เกิดความปลอดภัยใน กทม.ต้องมีคนที่รู้วิธีคิดแบบภาคเอกชน

ขณะเดียวกันต้องเข้าใจถึงกระทรวง ทบวง กรม ทั้งหลาย ทั้ง public side และ private side ที่ทำให้เกิดการประสานงานและเกิดการเปลี่ยนแปลงใน กทม.ได้

“ว่าที่ผู้สมัครของผมเป็นแบบนี้ มีทั้งประสบการณ์ด้านภาคเอกชน และภาครัฐ เคยผ่านการทำงานด้านบริษัท พอที่จะเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ รู้เรื่องคอขวดระบบการศึกษา เป็นว่าที่ผู้สมัครที่ตอบโจทย์การบริหารเมืองหลวง เป็นวัยร่วมสมัย ไม่ได้อายุมากเกินไป น้อยเกินไป เข้าใจคนที่มาก่อนเขา และคนที่มาหลังเขา เชื่อมสอดประสานไม่ว่าคนรุ่นหลังหรือคนรุ่นก่อนเขาได้พอสมควร และไม่ใช่พี่สาวของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ที่คุณสมบัติ แต่เราต้องการคนที่ตอบโจทย์คนกรุงเทพ คลุกคลีคนกรุงเทพ มานาน และไม่ต้องการนำมาเปรียบเทียบว่าใครดีกว่าใคร แต่ต้องการคนที่ทำงานได้ทั้งบู๊ ทั้งบุ๋น disrupt กทม.ได้จริงๆ และเราต้องการทำงานไปเรื่อยๆ แม้ไม่ได้เปิดตัวก็ยังอยู่หนึ่งในสาม เราไม่ได้นำกระแสมาเป็นตัวตั้ง

Advertisment

ส่วนนโยบายต้องทำงานแบบไร้รอยต่อระหว่างพรรคการเมืองกับผู้สมัครผู้ว่า กทม.และจะเสนอแนวคิดที่ไม่ใช่เป็นแค่ กทม.ไม่ได้อยู่ในตัวของมันเอง การมองกรุงเทพและปริมณฑล BANGKOK กับ Greater Bangkok เป็นมุมมองใหม่ ที่จะสามารถปลดล็อกปัญหาที่ใครๆ ก็รู้ว่าปัญหาคืออะไรแต่แก้ไม่ได้ เพราะยังไม่มีใครลงไปลึกถึงชั้นที่ 2 ชั้นที่ 3 ทั้งทำอย่างไร ทำอะไรและต้องชนกับใคร เรื่องคมนาคมต่างๆ มีผลประโยชน์กับเอกชนที่เกี่ยวข้องไหม ถ้ามีใครจะพร้อมทั้งกฎหมายในนิติบัญญัติ และการต่อสู้ของผู้ว่าที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ

“และคงไม่ได้ใช้ความเป็นซุปเปอร์แมน ต้องมากันเป็นทีม และเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพรรคการเมือง ทุกคนต้องเป็นดาวกระจายที่มีพลังของตนเอง”นายพิธา กล่าว