ขุนพลประชาธิปัตย์ หนียุคจุรินทร์ ส.ส.รอจังหวะ ย้ายเข้าพรรคคู่แข่ง

ประชาธิปัตย์

 

ปรากฏการณ์ “เลือดไหลออก” จากประชาธิปัตย์-พรรคเก่าแก่ 7 ทศวรรษ ยังไม่ถึงจุดต่ำสุด สวนทางกับเก้าอี้รัฐมนตรี-ผลงานในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เหนียวแน่น

แม้ประชาธิปัตย์จะไม่ได้แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ถึงความชัดเจน-อนาคตทางการเมืองของอดีต ส.ส.-อดีตรัฐมนตรี ที่ “สร้างความดีความชอบ” ให้กับพรรคถึงการไม่อยู่ในแผนทำพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า

มิหนำซ้ำยัง “เปิดตัว” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่-ชิงตัดหน้า อดีต ส.ส.เก่า ที่พลาดท่า-สังเวยยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง 2562 จนกลายเป็น “พรรคต่ำร้อย”

ขณะเดียวกับการ “บีบทางอ้อม” โดยการไม่ใช้งาน-ไม่ให้ตำแหน่งแห่งที่ในรัฐบาล กลับกันยังแต่งตั้งคนในกลุ่ม-แกนหัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรคข้ามหัว ไม่ให้เกียรติคนเก่า ที่เคยร่วมรบ

วัฒนธรรม “แถวยาว” ของพรรคประชาธิปัตย์จึงถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ด้วยวัฒนธรรมทางลัด-ลัดคิวของพรรค-พวกกลุ่มจุรินทร์-เฉลิมชัย และ “ส.ส.หน้าใหม่”

ที่ผ่านมาประชาธิปัตย์มีบิ๊กเนม-เลือดใหม่ที่ไหลออกจากพรรค-ไม่มีวันไหลกลับ จนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนตัว หัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรค หรือแม้กระทั่งนายอภิสิทธิ์-นายชวน หลีกภัยจะกลับมาเป็น “เสาหลัก” ให้กับพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง

“กษิต ภิรมย์” อดีต รมว.การต่างประเทศ หลังลาออก เขาเปรยถึงเส้นทางการเมืองใหม่-กลุ่มพลังที่ 3 ปัจจุบันเปิดช่องทางยูทูบวิพากษ์การเมืองใน-นอกประเทศ และ “กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ” อดีตรองนายกรัฐมนตรี-อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”

“บิ๊กตุ๋ย” พีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค อดีต รมว.ยุติธรรมรัฐบาลอภิสิทธิ์ อกหักจากเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกชวนเข้าทำเนียบรัฐบาล เป็นถึงที่ปรึกนายกฯ -ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

รวมกับ “อนุชา บูรพชัยศรี” อดีต ส.ส.กทม. ย้ายไปอยู่ตึกไทยคู่ฟ้า เคยทำหน้าที่ “โฆษกรัฐบาล” ปัจจุบันไปนั่งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

“กรณ์ จาติกวณิช” อดีตรองหัวหน้าพรรค-แม่ทัพเศรษฐกิจ ไปก่อร่างขึ้นโครงพรรคกล้า และ เอ๋-อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม. ที่ติดสอยห้อยตาม ไปนั่งเก้าอี้บิ๊ก-เลขาธิการพรรคกล้า

“หมอวงรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก ลาออกไปชูธงพรรคไทยภักดี และ “ถาวร เสนเนียม” อดีต ส.ส.สงขลา ไปเป็นผู้สนับสนุนพรรคไทยภักดี

“วิฑูรย์ นามบุตร” อดีต ส.ส.อุบลราชธานี หลายสมัย กำลังหาที่ลงทางการเมืองใน จ.อุบลราชธานี

“นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขอทำ “สงครามครั้งสุดท้าย” กับพรรคใหม่ 4 กุมาร-พรรคสร้างอนาคตไทย

“นาถยา แดงบุหงา-เบ็ญจศิริวรรณ” อดีต ส.ส.กทม. 2 สมัย ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ของ “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

ศิริศักดิ์ อ่อนละมัย อดีต ส.ส.ชุมพร ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ร่วมทำศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร แต่ต้องพ่ายแพ้ให้กับพรรคประชาธิปัตย์

สุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช 8 สมัยระบุถึงการลาออกว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บริหารพรรค โดยมีพรรคที่ทาบทามไปอยู่ด้วยถึง 7 พรรค

ประชาธิปัตย์ยังสูญเสียบุคลากรที่จะต่อกรกับบ้านใหญ่ “ลิกค์” อย่าง “นพ.ปรีชา มุสิกุล” อดีต ส.ส.กำแพงเพชร 11 สมัย ล่าสุด พรรคยังต้องเสีย “กระบี่มือ 1 ฝ่ายกฎหมาย” อย่าง “ถวิล ไพรสณฑ์” อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ย้ายฟ้าฝ่า-สลับขั้ว ไปอยู่กับพรรคก้าวไกล

ยังมี “เลือดใหม่” ที่ไปหาความท้าทายใหม่ อย่างกลุ่มนิวเด็ม ที่มี “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ หลานแท้ ๆ ของนายอภิสิทธิ์ และ พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ลูกนายพนิต วิกิตเศรษฐ์ เป็นแกนกลุ่ม

ขณะที่พลพรรคนิวเด็มคนอื่น ๆ ที่ทยอยออกมา ได้แก่ “สุชาดา แทนทรัพย์” ลูกสาวสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ ที่ออกไปเป็นโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มี “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” แกนนำสามมิตร เป็นเจ้ากระทรวง ตำแหน่งล่าสุดเป็น ผู้ช่วยเลขานุการ รมช.ศึกษาธิการ (กนกวรรณ วิลาวัลย์ พรรคภูมิใจไทย)

รวมถึง นายพายุ เนื่องจำนงค์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี แม้จะมีตำแหน่งแห่งหนในคณะทำงาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค คณะที่ปรึกษา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค

นอกจากนี้ยังต้องจับตา “เลือดไหลออก” อาทิ “เสี่ยโต” อภิชัย เตชะอุบล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประชาธิปัตย์ ที่มีข่าวเดินเข้า-เดินออก “บ้านป่ารอยต่อ” หันหัวเข้าสู่พรรคพลังประชารัฐ จากที่เคยคิดหักเหจะไปพรรคเศรษฐกิจไทย

ล่าสุดวันที่ 16 มีนาคม 2565 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำกปปส. แจ้งข่าวการลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า “ได้ยื่นขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขออนุญาตกราบลาจากพรรคฯ แม้จะเป็นการตัดสินใจที่ยาก แต่ผมขอคงไว้ซึ่งความเคารพ ความรักและผูกพันธ์ เต็มไปด้วยความทรงจำดี ๆ ตลอดไป”

“ขอกราบขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้โอกาสผมได้แจ้งเกิดทางการเมืองกับการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบเขตในกรุงเทพมหานคร กว่าสิบปีที่ผมได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ และได้มีโอกาสเรียนรู้ ฝึกฝน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทางการเมือง…

…ขอบคุณท่านชวน หลีกภัย ที่คอยให้คำแนะนำดีๆ คอยสั่งสอน ส.ส. ทุกคนให้เป็นนักการเมืองที่ดี
ขอบคุณท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เป็นทั้งรุ่นพี่ที่ออกซ์ฟอร์ด เป็นหัวหน้าที่ชักชวนผมเข้าพรรคฯ เป็นนักการเมืองไอดอลที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผมจนตัดสินใจเดินเข้าสู่เส้นทางการเมือง

ขอบคุณลุงกำนัน ที่คอยสนับสนุนผมมาโดยตลอด แม้วันนี้ทางการเมืองจะเดินกันไปคนละเส้นทาง แต่ต่างก็มั่นใจในอุดมการณ์ของกันและกัน

ขอบคุณพี่ ๆ ส.ส. เพื่อนสมาชิกพรรคฯ และผู้สนับสนุนทุกท่าน ที่คอยให้กำลังใจ ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น แม้เวลาจะผ่านไปสิบกว่าปี แต่ยังคงทำให้ผมมีไฟ มีกำลังใจ มีแรงบันดาลใจ ที่จะทำงานการเมืองต่อไป

“แหล่งข่าวในประชาธิปัตย์” ที่รู้ตื้น-ลึก-หนา-บางในพรรค เปิดเผยว่า คนที่อยู่กับพรรคตอนนี้ที่วางตัวไว้ให้เป็นตัวจริงในการเลือกตั้ง อาจจะไม่ใช่ตัวจริง รอจังหวะลาออกจากพรรคไปอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นพรรคคู่แข่งในการเลือกตั้งครั้งหน้าในช่วงนาทีสุดท้าย จนพรรคหาตัวผู้ลงรับสมัครไม่ทัน หรือไม่ก็เอาคนติดตาม เอาคนขับรถของตัวเองมาลงสมัครเลือกตั้งในนามพรรค และมาแข่งกับตัวเองที่ลาออกไปอยู่กับพรรคคู่แข่ง

ม่แน่ว่า ยังมีอดีต ส.ส.-อดีต ส.ส.สอบตก อีก “บิ๊กลอต” ที่จะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ในช่วงใกล้เลือกตั้ง !!!