ช่อง 5 เซ็น MOU แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารรัสเซีย-ยูเครน

ททบ5 รัสเซีย ยูเครน

ผอ.ททบ.5 ยอมรับ เซ็น MOU แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารรัสเซีย-ยูเครน จีน-อิหร่าน ลั่น พร้อมเข้าสู่สงครามข่าวสาร เผย ปวดใจ สื่อไทยถูกตราหน้าเลือกข้าง-ซื้อได้

วันที่ 25 มีนาคม 2565 พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5 ให้สัมภาษณ์รายการ “เจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์” ถึงกรณีปรากฏภาพนั่งประชุมกับเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย จีน และอิหร่าน รวมถึงนายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

นอกจากนี้ ยังมีการเซ็น MOU ด้านข้อมูลข่าวสารระหว่างไทยกับรัสเซีย โดยก่อนหน้านี้ได้เซ็นความร่วมมือด้านข้อมูลข่าวสารกับจีนและอิหร่านมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ความเป็นมาของเรื่องนี้เกิดขึ้นจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน 1 เดือนที่ผ่านมา เป็นสงคราม 3 มิติ

มิติแรก คือ การใช้กำลังทางทหาร มิติที่สอง สงครามข่าวสาร ต่างฝ่ายต่างบอกว่า ฝ่ายหนึ่งเป็นข่าวปลอม fake news อีกฝ่ายเป็นโฆษณาชวนเชื่อ poppaganda และมิติที่สาม สงครามเศรษฐกิจ ซึ่งประเทศไทยได้รับผลกระทบเต็ม ๆ ทั้งด้านพลังงาน ราคาน้ำมัน การค้าลำบากขึ้น รวมถึงโควิด-19 ที่ไม่รู้จะจบลงเมื่อไหร่ โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว รายได้ลดลง รายจ่ายเพิ่มขึ้น เพราะอัตราเงินเฟ้อขึ้นสูง

พล.อ.รังษีกล่าวว่า การที่ตนไปเจรจากับจีนและรัสเซีย หรือ อิหร่าน ต้องบอกให้ทราบก่อนว่า ทางทูตเชิญตนไป ไม่ใช่ตนดิ้นรนไปเอง และการพูดคุยกับเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยเป็นไปอย่างเปิดเผย และเป็นสิทธิที่จะพูดคุยกันได้

“ผมเพิ่งมาเป็นสื่อ มาเป็น ผอ.ททบ.5 ประมาณปีครึ่ง ผมรู้สึกปวดใจมาก ที่มีคนบอกว่า สื่อไทยเลือกข้าง สื่อเมืองไทยซื้อได้ สิ่งที่ผมทำ คนชอบพูดว่า ททบ.5 เป็นสื่อกองทัพ ซึ่งปัจจุบัน ททบ.5 รับข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์สและต้องจ่ายค่าบริการปีละ 2 ล้านบาท วันนี้ ททบ.5 ต้องการทำให้เป็นสื่อที่ประชาชนพึ่งพิงได้ ซึ่งผู้บัญชาการทหารบก (พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้) ไม่เคยสั่งการอะไรผมเลยเป็นพิเศษ แต่มีอะไรผมต้องรายงานให้ท่านทราบเพราะท่านเป็นประธานบอร์ด และผมทำภายใต้กฎหมาย ภายใต้กติกา การที่เราได้ข้อมูลข่าวสารจากอีกด้านหนึ่ง ซึ่งปกติไม่เคยได้จากจีน อิหร่าน รัสเซียเลย ส่วนใหญ่ได้มาจากตะวันตก”

พล.อ.รังษีกล่าวว่า เมื่อวานนี้ (24 มี.ค. 65) อุปทูตยูเครนเชิญผมไป ผมก็คุยเหมือนรัสเซีย จีน อิหร่าน และจะมีการแลกเปลี่ยนข่าวสาร ข่าวสารใดที่รัสเซีย ยูเครน จีน อิหร่าน คิดว่าไม่ถูกต้อง และต้องการให้คนไทยรู้ว่า สิ่งที่ถูกต้อง คือ อะไร ก็ส่งมาที่ ททบ.5 ซึ่งผมสั่งนักข่าว ททบ.5 ไปแล้วว่า ห้ามบิดเบือนข่าว ให้ออกทุกอย่างเหมือนกับที่ทางการ 4 ประเทศส่งมา ซึ่งเป็นข่าวที่สถานทูตรับรอง และคนไทยสามารถฟังทั้งสองฝั่ง และไปพิจารณาเองว่า ใครเป็นข่าวเท็จ ข่าวจริง

พล.อ.รังษีได้กล่าวถึงนายไพศาลที่ปรากฏอยู่ในภาพดังกล่าวด้วยว่า เป็นคนที่ทางรัสเซียและอิหร่านมาประสานกับทางตนในการเข้าพบ นายไพศาลไม่ได้ออกความเห็น หรือพูดอะไรเลย เพราะตนไม่เคยรู้จักกับทูตรัสเซีย ส่วนทูตรัสเซียและทูตอิหร่านจะรู้จักนายไพศาลได้อย่างไร ตนไม่ทราบ แต่จีนตนติดต่อเอง ผ่านทาง China Media Group Asia Pacific (CMG) ซึ่งก่อนตนจะไปหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับทูตทั้ง 4 ประเทศ ได้รายงานให้ ผบ.ทบ.ทราบ ในฐานะประธานบอร์ด

“ช่อง 5 ควรจะเข้าไปอยู่ในสงครามข่าวสาร เพราะวันนี้เรายังสับสนว่าอะไรจริงอะไรเท็จ ซึ่งเป็นหน้าที่ของสื่อโดยตรง เป็นการยกระดับสื่อมวลชนไทยด้วย และทำให้ต่างชาติยอมรับเรา ว่าเราเปิดกว้าง ไม่เข้าข้างใดข้างหนึ่ง”