เอฟเฟ็กต์ ปารีณารุกป่า ปชป. ลุ้น ถอนรากบ้านใหญ่ไกรคุปต์

ปารีณา

ผลของคำพิพากษาศาลฎีกาให้ “เอ๋-ปารีณา ไกรคุปต์” พ้นจากความเป็น ส.ส.-ประหารชีวิตทางการเมือง ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต-เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี คดีผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีบุกรุกป่า นำไปสู่การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ราชบุรี เขต 3 ที่ว่างลง

ภาพรวมการเลือกตั้ง ส.ส.ราชบุรี ทั้ง 5 เขต ในปี 2562 พรรคพลังประชารัฐ สามารถกวาดที่นั่งไปได้ 3 ที่นั่ง เป็น ส.ส.สามใบเถา จากบ้านใหญ่ ทั้ง 3 คน ได้แก่

เขตการเลือกตั้งที่ 1 ประกอบด้วย อำเภอเมืองราชบุรี (ยกเว้นตำบลน้ำพุ ตำบลห้วยไผ่ ตำบลดอนแร่ และตำบลอ่างทอง) “ส.ส.แคมป์” กุลวลี นพอมรบดี ทายาททางการเมืองของ “มานิต-กอบกุล” แห่งบ้านใหญ่ “นพอมรบดี”

เขตการเลือกตั้งที่ 2 อำเภอวัดเพลง อำเภอปากท่อ อำเภอบ้านคา อำเภอสวนผึ้ง และอำเภอเมืองราชบุรี (เฉพาะตำบลน้ำพุ ตำบลห้วยไผ่ ตำบลดอนแร่ และตำบลอ่างทอง) “บุญยิ่ง นิติกาญจนา” อดีตแกนนำกลุ่มมัชฌิมา-วังน้ำยม แห่งไทยรักไทยในตำนาน ที่มี “สมศักดิ์ เทพสุทิน” เป็นหัวหอก

เขตการเลือกตั้งที่ 3 อำเภอจอมบึงและอำเภอโพธาราม (ยกเว้นตำบลบ้านฆ้อง ตำบลบ้านสิงห์ และตำบลดอนทราย) คือ “เอ๋-ปารีณา” กลายเป็น ส.ส.ราชบุรี 4 สมัย ตั้งแต่เลือกตั้งปี 2548 ไม่นับเลือกตั้งโมฆะ 2 ครั้ง (2549 และ 2557)

เธอได้รับมรดกทางการเมืองจาก “ทวี ไกรคุปต์-ผู้พ่อ” ที่วางมือทางการเมือง-ปิดฉาก ส.ส.สมัยที่ 7 (สมัยแรกเลือกตั้งปี 2522) หลังจากแพ้การเลือกตั้งเมื่อปี 2544

ขณะที่เก้าอี้ ส.ส.ราชบุรี อีก 2 ที่นั่ง ตกเป็นของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ได้แก่ เขตการเลือกตั้งที่ 4 อำเภอบ้านโป่ง ที่ได้ “อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์” แหกด่านกระแส-กระสุน เป็น ส.ส.หนึ่งเดียวของพรรคเก่าแก่ที่รอดชีวิตเข้าสภามาได้

เขตการเลือกตั้งที่ 5 อำเภอดำเนินสะดวก อำเภอบางแพ และอำเภอโพธาราม (เฉพาะตำบลบ้านฆ้อง ตำบลบ้านสิงห์ และตำบลดอนทราย) เป็นของ “บุญลือ ประเสริฐโสภา” ที่ยังคงไว้ลายนักการเมืองรุ่นเก๋าในนามพรรคภูมิใจไทย

สถิติการเลือกตั้ง ส.ส.ราชบุรี ย้อนหลังปี 2554 ภายใต้การขีดเส้นแบ่งเขต-รัฐธรรมนูญฉบับปี 50 พรรคภูมิใจไทยร้อนแรง กวาดที่นั่ง ส.ส.ราชบุรี เกือบยกทั้งจังหวัด เนื่องจากได้ตระกูลการเมืองบ้านใหญ่มาร่วมทัพสีน้ำเงิน

เขตการเลือกตั้งที่ 1 อำเภอเมืองราชบุรี (ยกเว้นตำบลน้ำพุ ตำบลห้วยไผ่ ตำบลดอนแร่ และตำบลอ่างทอง) ตกเป็นของพ่อบ้าน “บ้านใหญ่” มานิต นพอมรบดี ซึ่งขณะนั้นสังกัดพรรคภูมิใจไทย

เขตการเลือกตั้งที่ 2 ประกอบไปด้วยอำเภอวัดเพลง อำเภอปากท่อ อำเภอบ้านคา อำเภอสวนผึ้ง และอำเภอเมืองราชบุรี (เฉพาะตำบลน้ำพุ ตำบลห้วยไผ่ ตำบลดอนแร่ และตำบลอ่างทอง) เช่นเดียวกันกับ “บุญยิ่ง นิติกาญจนา” ที่สวมเสื้อสีน้ำเงิน-ภูมิใจไทย

เขตการเลือกตั้งที่ 3 อำเภอจอมบึง และอำเภอโพธาราม (ยกเว้นตำบลบ้านฆ้อง ตำบลบ้านสิงห์ และตำบลดอนทราย) ยังผูกขาดอยู่กับ “บ้านใหญ่ไกรคุปต์” ซึ่งขณะนั้น “เอ๋-ปารีณา” ร่วมชายคาพรรคชาติไทยพัฒนา

เขตการเลือกตั้งที่ 4 อำเภอบ้านโป่ง ตกเป็นของ “ชะวรลัทธิ์ ชินธรรมมิตร” แห่งภูมิใจไทย และเขต 5 เขตการเลือกตั้งที่ 5 อำเภอดำเนินสะดวก อำเภอบางแพ และอำเภอโพธาราม (เฉพาะตำบลบ้านฆ้อง ตำบลบ้านสิงห์ และตำบลดอนทราย) “บุญดำรง ประเสริฐโสภา” ลูกพรรคภูมิใจไทย

การเลือกตั้งปี 2550 มีเก้าอี้ ส.ส.ราชบุรีให้ช่วงชิงกันแค่ 2 เขต เขตการเลือกตั้งที่ 1 อำเภอบ้านโป่ง อำเภอโพธาราม อำเภอจอมบึง อำเภอบางแพ และอำเภอดำเนินสะดวก พรรคพลังประชาชนของสมัคร สุนทรเวช คือ “บุญลือ ประเสริฐโสภา”

เขตการเลือกตั้งที่ 2 อำเภอเมืองราชบุรี อำเภอวัดเพลง อำเภอปากท่อ อำเภอบ้านคา และอำเภอสวนผึ้ง ตกเป็นของพรรคมัชฌิมาธิปไตย ที่มี “มานิต นพอมรบดี” นอนมา

สำหรับการขับเคี่ยวในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ซึ่งคาดว่า กกต.จะกาปฏิทินในวันที่ 15 พฤษภาคม 2565 พรรคพลังประชารัฐ ที่เสีย “องครักษ์พิทักษ์ลุงตู่-ลุงป้อม” อย่าง “เอ๋-ปารีณา” อยู่ระหว่างรอการตอบกลับจาก “บ้านใหญ่ไกรคุปต์” ว่าจะส่ง “ทายาททางการเมือง” มา “รับไม้ต่อ” หรือไม่

โดยมีชื่อ “พี่ชายเอ๋” สีหเดช ไกรคุปต์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บางโตนด เป็นตัวเลือกแรก

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ แม้จะอยู่ในระหว่างชั่งใจระหว่าง “รักษามารยาท” ของพรรคร่วมรัฐบาล-ดีดลูกคิดอายุขัยของสภาที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 ปี อาจ “ได้ไม่คุ้มเสีย”

“ผู้บริหารค่ายสีฟ้า” กำลังนั่งคิด โดยวางตัว “ชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์” หรือ “ส.จ.เส็ง” อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ราชบุรี ซึ่ง “สอบตก” ได้คะแนนเป็น “อันดับที่สอง” เมื่อการเลือกตั้งใหญ่ครั้งที่ผ่านมาให้ลงมา “แก้มือ”

ประชาธิปัตย์ลุ้นชนะ “สองเด้ง” ถอนรากถอนโคน 43 ปี ที่ผูกขาดโดยบ้านใหญ่ไกรคุปต์ เป็น “สปริงบอร์ด” ในการเลือกตั้งครั้งหน้า