ชลน่าน ลั่น เพื่อไทย พร้อมรับช่วงต่อยุคมืดมนจากระบอบประยุทธ์

เพื่อไทย ขอแลนด์สไลด์ แก้รัฐธรรมนูญ ก้าวแรกแก้ปัญหา ปากท้อง ปิดช่องโหว่เผด็จการ พร้อมรับช่วงต่อยุคมืดมนจากรัฐบาล ประยุทธ์

วันที่ 24 เมษายน 2562 ที่พรรคเพื่อไทย ได้จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทย 2565 ภายใต้ธีม “แลนด์สไลด์ เพื่อไทย เพื่อคนไทยทุกคน” นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตลอด 8 ปีภายใต้การปกครองและการบริหารของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้คนไทยต้องพบกับ 6 หลุมดำที่นำไปสู่ทางตันของประเทศและประชาชน ดังนี้

1. วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ คนจนล้นประเทศแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน หนี้ครัวเรือนสูงสุดในประวัติศาสตร์ ธุรกิจปิดตัวล้มตาย แรงงานตกงานสูงสุดทำลายสถิติ

2. วิกฤตสาธารณสุขครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ จากการรับมือที่ผิดพลาด ปล่อยประชาชนเผชิญกับภัยของโรคระบาดตามยถากรรม

3. วิกฤตผู้นำที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมโลก สร้างความอับอายให้ประเทศ และทำให้การต่อรองทางการทูต ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ ที่ประชาชนควรได้รับ กลับหายไป

4. วิกฤตการเมือง วิกฤตประชาธิปไตยที่เสื่อมโทรม รัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ การละเมิดสิทธิมนุษยชนทำลายผู้เห็นต่างโดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ ทำลายระบบรัฐสภาด้วยการทำลายพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ซื้อขายตัวนักการเมือง ทำลายมาตรฐานทางการเมืองที่ควรจะเป็นอย่างรุนแรงมากสุดเป็นประวัติการณ์

5. วิกฤตหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติงบประมาณที่ไม่ได้สร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ไม่สร้างรายได้ หนี้สาธารณะของประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ความเป็นอยู่ของประชาชนไม่ได้ดีขึ้นแถมยังดับฝันอนาคตลูกหลานด้วยหนี้ก้อนโตที่ฉุดรั้งการพัฒนาประเทศในระยะยาว 6. วิกฤตคอร์รัปชันที่รุนแรงมากที่สุดเท่าที่ประเทศเคยมีมา

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราไม่อาจยอมรับชะตากรรมเช่นนี้ได้อีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกจากวิกฤตนี้และทางออกเดียวที่เรามีวันนี้คือ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกไป พรรคเพื่อไทยต้องกลับมา วันนี้เรามั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยคือทางเลือกที่ดีที่สุด ที่จะพาพี่น้องชาวไทยออกจากหลุมดำแห่งความทุกข์ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาได้

จากประสบการณ์และความสำเร็จของพรรคเพื่อไทยตลอดเวลาที่ผ่านมา รวมไปถึงคำสัญญาที่ยึดมั่นและจุดยืนอุดมการณ์ แม้ที่ผ่านมา 8 ปีพรรคจะตกอยู่ในฐานะฝ่ายค้าน แต่ก็เป็นต้นไม้ต้นใหญ่ที่ได้ผลัดใบหลายครั้งเพื่อตอบสนองโลกยุคใหม่

กล้าพูดว่าพรรคที่มีส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างระหว่างผู้มีประสบการณ์ในการเป็นรัฐบาล กับ คนรุ่นใหม่ที่อยากใช้พลัง ความรู้ความสามารถเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ อีกทั้งยังมีส่วนผสมระหว่าง ส.ส. พื้นที่ ที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนกับผู้บริหารพรรค ที่ตอบสนองการมองภาพใหญ่เชิงนโยบายในการแก้ไขปัญหาของประเทศ

“วันนี้เราขอประกาศว่า ถึงเวลาแล้ว และเราพร้อมแล้ว ที่จะเข้ามารับช่วงต่อประเทศในยามมืดมนที่สุด ทุกข์ทรมานที่สุด เพื่อขจัดฝันร้ายให้พี่น้องประชาชน” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไปเราต้องไม่ใช่แค่ชนะ แต่ต้องชนะให้ขาด จะต้องเป็นการเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ ด้วยเก้าอี้ในสภาเกิน 250 ที่นั่ง เพื่อให้เสียงของเรา สามารถควบคุมสภาล่าง และการบริหารของรัฐบาล เพราะต่อให้ ส.ว. แต่งตั้ง จะเลือกนายกเผด็จการได้ แต่จะเป็นข้อการันตีว่า รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่ ไม่มีวันบริหารประเทศนี้ได้

“เราไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นฝ่ายค้าน เราเกิดมาเพื่อเป็นรัฐบาล เป็นเครื่องมือของประชาชน ทำงานให้ประชาชน ให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ผมขอโอกาสให้พรรคเพื่อไทย ได้แสดงศักยภาพอีกครั้ง ให้เพื่อไทย ได้พาประชาชนหลุดพ้น จากวิกฤตและหลุมดำสักที เลือกเพื่อไทย ให้ชนะพรรค ส.ว. ลากตั้ง เลือกเพื่อไทย ให้แลนด์สไลด์ เพื่อคนไทยทุกคน”นพ.ชลน่าน กล่าว

ด้านนายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอยืนยันข้อเรียกร้องเดิมที่ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ใน งานพรุ่งนี้เพื่อไทยที่จังหวัดขอนแก่นว่า ต้อง ‘ปล่อยนักโทษทางความคิด’ ที่มีความคิดเห็นต่างจากรัฐบาลทุกคน เพื่อฟื้นฟูหลักนิติรัฐ นิติธรรม หลักยุติธรรม กฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยกันอีกครั้งให้เป็นรูปธรรม

ก้าวแรกที่พรรคเพื่อไทยจะเดินต่อนับจากนี้คือ การแก้ปมแรกของปัญหา การแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชนทุกคนอีกครั้ง ดั่งที่รัฐธรรมนูญ 2540 เคยให้ความหวังแก่คนไทยทุกคน สร้างการเมืองที่ดี สร้างชีวิตที่ดี และสร้างเศรษฐกิจที่ดี แก้ไขที่มาของนายกรัฐมนตรี

แก้สิทธิของประชาชนที่เกี่ยวกับสิทธิบุคคลและชุมชน แก้ไขเพิ่มเติมเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชนในกระบวนการยุติธรรม คุ้มครองสิทธิในการแสดงความคิดเห็น สิทธิในการชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ และสิทธิในการประกันตัว

ได้เคยเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อป้องกันการปฏิวัติ โดยเสนอกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญให้ชัดเจนว่า การปฏิวัติมีความผิดฐานเป็นกบฏและไม่ก่อให้เกิดอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ และไม่มีกำหนดอายุความ แม้รัฐธรรมนูญจะถูกยกเลิกไป ก็ให้ถือเป็นประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

เพื่อให้หลักการดังกล่าวนั้นสามารถใช้บังคับได้ตลอดไป แต่พรรคเพื่อไทยมีเสียงข้างน้อยในสภาและไม่มี ส.ว. แต่งตั้งที่ไม่ได้มาจากประชาชนสนับสนุน ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับที่พรรคเพื่อไทยเสนอไม่ได้รับการพิจารณาจากรัฐสภา

นายชัยเกษม กล่าวว่า ก้าวแรกของชีวิต ปากท้อง โอกาส และความเชื่อมั่นของประชาชน ทั้งหมดอยู่ที่รัฐธรรมนูญ เพื่อไทยเราจำเป็นต้องคลายปมวิกฤตชาติดังกล่าว โดยใช้แลนด์สไลด์เป็นเครื่องมือสำคัญ ต่อจากนี้และอนาคตข้างหน้า รัฐธรรมนูญจะกลับไปรับใช้ประชาชน ทำงานเพื่อประชาชน และส่งเสริมการพัฒนาประเทศชาติอีกครั้ง


“พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วที่จะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้รัฐธรรมนูญเป็นประโยชน์ต่อการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ปิดทุกช่องโหว่ที่จะส่งเสริมรัฐเผด็จการและคณะรัฐประหารให้งอกเงย” นายชัยเกษม กล่าว