ทักษิณอ่านสัมพันธ์ “ประยุทธ์-ประวิตร” ทั้งรักทั้งเกลียด ไม่กลัว “อุ๊งอิ๊ง” สายล่อฟ้า

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พิเศษกับหนังสือพิมพ์ข่าวสด

“ทักษิณ” วิเคราะห์ความสัมพันธ์พี่น้อง 2 ป. ประยุทธ์-ประวิตร กำลังเกิดภาวะ Love-Hate Relationship เผยไม่กลัว “อุ๊งอิ๊ง” เข้ามาเป็นสายล่อฟ้า “ผ่าลงอย่างไร ก็ลงดินหมด”

วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พิเศษกับหนังสือพิมพ์ข่าวสดถึงสถานการณ์การเมืองจากนี้ของประเทศไทย และการที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ดึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กเข้าเป็นผู้นำทัพพรรคเพื่อไทย

Q : ประเมินสถานการณ์การเมืองไทยหลังจากนี้

สนิมเกิดจากเนื้อในตนมากกว่า เพราะถ้าฝ่ายค้านเคาะเหล็กกล้าจะได้ยินแต่เสียง เหล็กกล้าไม่พัง แต่ถ้าเหล็กนั้นมีสนิมเกิดขึ้น เคาะเบา ๆ ก็ร่วง เชื่อว่ารัฐบาลมีปัญหาในตัวเอง วันนี้คงเป็นเรื่องของผลประโยชน์ที่ทุกคนอยากถือโอกาสช่วงที่ทุกคนรู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องง้อ ถือโอกาสทำรายได้

ดูถูกคิดว่าประชาชนที่ลำบากเอาเงินไปซื้อแล้วจะได้เป็น ส.ส. แต่ที่ผ่านมาจะเห็นได้ชัดเลยว่า คนที่ซื้อมาก ๆ จะถูกลงโทษอย่างหนัก เพราะประชาชนรู้แล้วว่าถ้าได้ เข้ามานอกจากไม่ได้แก้ปัญหาให้ ยังมาทำให้ประชาชนเดือดร้อนอีก

การเมืองเริ่มเข้มข้นอีกเพราะ 1.เรื่องชิงผลประโยชน์ และ 2.ความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถึงขนาดบอกว่าให้ไปอยู่ข้างนอกทีมหนึ่ง แต่ก็พยายามจับมือกันอยู่ เป็นการจับมือชนิดที่มีดาบอยู่ข้างหลัง ความไม่จริงใจเกิดขึ้นแล้ว กลายเป็นความจริงใจแบบชายชาติทหารการเมืองแทน สนิมเริ่มเกาะเนื้อในแล้ว ไม่รู้จะไปเมื่อไหร่ แต่เคานต์ดาวน์แล้ว

Q : ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่หลายคนมองว่าอาจมีการยุบสภาหนี

คิดว่ารัฐบาลโดยเฉพาะนายกฯต้องรู้ว่าเสียงเป็นอย่างไร ถ้าเสียงไม่ถึงก็ต้องรีบชิงยุบสภาก่อน ยื่นไปแล้วยังมีเวลาช่วงรอบรรจุวาระเข้าสภา ต้องดูว่ากล้วยในสวนลิงยังกินอยู่หรือเปล่า ถ้าลิงยังกินกล้วยอยู่ กล้วยมีเยอะพอหรือไม่

Q : หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่

อยู่ที่ภายในรัฐบาลว่าพร้อมจะแตกหักแล้วไปเลือกตั้งหรือยัง ถ้าพร้อมเมื่อไหร่เขาก็แปรพักตร์ได้ตลอดเวลา เหตุการณ์รอบนี้น่าจะแรง ตั้งแต่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ไปจนถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

สภาเปิด 23 พ.ค. จากนั้นวันที่ 1 มิ.ย.ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเข้าฝ่ายค้านสามารถอภิปรายรัฐบาลได้อย่างเต็มที่ สามารถเช็กเสียงฝั่งรัฐบาลได้จากการอภิปรายงบประมาณ ถ้างบประมาณพังก็มีค่าเท่ากัน คือ นายกฯยุบสภา หรือลาออก

ดังนั้น อยู่ที่ยุทธศาสตร์ว่าฝ่ายค้าน รัฐบาลอาจจะขอจับมือกันเพื่อเอางบประมาณให้ผ่านก่อน แล้วค่อยทางใครทางมัน ก็จะเริ่มหาคะแนนเพื่อไปเลือกตั้ง เวลาเรือใกล้จะถึงฝั่ง คนมักจะรีบโดดขึ้นฝั่งโดยถีบหัวเรือ

Q : มีความเป็นไปได้ที่จะโหวตล้มนายกฯ แล้วใช้สภาช่วงที่เหลือต่อไปได้หรือไม่

เป็นไปได้ แต่คนที่จะถูกเสนอชื่อมาเป็นนายกฯตามกฎหมายเลือกตั้งเหลืออยู่แค่ 2 คน ฝั่งรัฐบาลก็นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ฝั่งฝ่ายค้านนายชัยเกษม นิติสิริ ถ้าจะเป็นคนอื่นก็ได้ ต้องให้ ส.ว.มาโหวตใหม่ ผมไม่คิดว่าฝ่ายรัฐบาลจะเปลี่ยนตัวจาก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายอนุทินผมว่ายาก แต่ถ้าเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีโอกาส แต่ต้องใช้สภาโหวต ขณะที่ฝ่ายค้านคงไม่ยุ่ง

Q : 3 ป.โดยเฉพาะ “ประยุทธ์-ประวิตร” มีอาการแปลก ๆ

กำลังเกิดภาวะ Love-Hate Relationship พล.อ.ประวิตรวันนี้ พอเห็น พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ คงคิดว่าใคร ๆ ก็เป็นได้ แต่ผมไม่ค่อยมั่นใจ ผมเคยใช้คำว่า ไฮแจ็ก ซึ่งอาจจะเกิดการไฮแจ็กขึ้นได้ แต่ไม่รู้ว่าจะไฮแจ็กโดยใคร อาจจะโดยพรรคภูมิใจไทยก็ได้ ถ้าพรรคภูมิใจไทยไปตกลงกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้

แต่ไม่มีทางไฮแจ็กโดยพรรคประชาธิปัตย์ เพราะนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ไม่ได้อยู่ในรายชื่อนายกฯในบัญชีพรรคการเมือง ครั้นจะไปเสนอแล้วใช้ ส.ว.โหวตก็ยาก พรรคภูมิใจไทยมีโอกาสกว่า แต่ผมไม่เชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐจะยอม

Q : พล.อ.ประยุทธ์มั่นใจว่าจะได้อยู่จนถึงไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปกเดือน พ.ย.

วันนี้ท่านอาจจะมั่นใจของท่าน แต่ไม่มีใครกล้าพูดความจริงกับท่าน เพราะท่านมีอำนาจมาก และอยู่นานจนไม่มีใครกล้าพูดความจริง ดังนั้น ท่านจะไม่รู้ความจริง ภาษานักรัฐศาสตร์บอกว่า ถ้ายิ่งคุณมีอำนาจมากเท่าไหร่ คุณกำลังอยู่ห่างความจริงมากเท่านั้น

Q : อยากเป็นที่ปรึกษารัฐบาล เลยถูกมองว่าเกี้ยเซียะกันหรือเปล่า

ไม่เลย ไม่ได้เกี้ยเซียะอะไรกับใครเลย ผมเป็นคนจริงใจ คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น คิดว่าอยากจะมีส่วน ช่วยประเทศไทย ผมร้องเพลงใหม่ของผม ชื่อเพลง คนแดนไกล ถ้าฟังแล้วจะรู้เพราะผมอยู่ไกลใช่มั้ย ถึงแม้จะมีส่วนน้อยนิด ช่วยเธอคิดเพื่อพ้นผ่านภัย นี่เป็นเนื้อเพลงซึ่งออกเมื่อวันที่ 10 พ.ค. พร้อมมิวสิกใหม่ ออกสองเพลงพอ ไม่ได้คิดจะเอาจริงเอาจังทางนี้ เพียงแต่อยากเอาความในใจออกไปก่อน ไม่ได้คิดปล่อยซิงเกิลแข่งกับ พล.อ.ประยุทธ์ อันนั้นออกซีดี ของผมให้ดาวน์โหลด ของผมไม่มีซีดีเพราะที่บ้านไม่มีเครื่อง

ที่เสนอไปหมายความว่า ผมดูแล้วรัฐบาลไม่มียุทธศาสตร์ในการฟื้นฟูประเทศ โดยเฉพาะภาวะสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนอาจยืดเยื้อก็ได้ อาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ก็ได้ เราจะอยู่ด้วยเงินกู้ต่อไปอย่างนี้หรือ เราไม่คิดหรือว่าต่อไปการดิสรัปต์ทางการขนส่งที่เกิดขึ้นเมื่อเกิดสงคราม เราจะมีความสามารถในการพึ่งพาตัวเองได้แค่ไหน ตรงนี้สำคัญ เป็นเรื่องที่เราต้องแก้ให้ได้ ต้องเตรียมการล่วงหน้า ตรงนี้เป็นสิ่งที่ผมห่วง

Q : มองเลือกตั้งสมัยหน้า 253 ส.ส. เพื่อไทยตั้งเป้าไว้จะทำได้หรือไม่

เหตุการณ์วันนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน และการซื้อเสียงหนักและหนักแน่นอนคราวหน้า บางที่อาจจะถึงหัวละพันบาท การแข่งขันสูงแน่นอน ไม่ว่าพรรคใดก็แล้วแต่ พรรคเพื่อไทยก็ต้องเตรียมตัว ถ้าจะไม่เป็นพรรคซื้อเสียงแข่งกับเขา ก็ต้องคิดว่าจะมีอะไรไปขาย ที่ประชาชนต้องชั่งใจระหว่างเอาเสียงละ 500-1,000 บาท กับนโยบาย ถ้าคิดตรงนี้แตกก็ไม่ต้องไปสนใจการซื้อเสียง คนอื่น ปาเงิน เราปราศรัย ผมไม่ได้พูดในนามพรรคเพื่อไทย แต่กำลังสอนพรรคเพื่อไทย

ถ้าพรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน เกิดจากอะไร เชื่อว่าจุดแข็งของพรรคเพื่อไทย คือ เป็นพรรคที่มีแนวทางแก้ปัญหาประเทศ แล้วทำกันมาหลายรอบแล้ว ดังนั้น โอกาสที่ประชาชนซึ่งหมดหวังวันนี้ ความหวังของเขาจะอยู่กับใคร จะเชื่อถือใคร และจะอยู่ที่พรรคอะไร วันนี้คนไทยห่วงภาวะปัจจุบันและอนาคต ปัจจุบันสำคัญแต่อนาคตสำคัญกว่า เอาเงินไปซื้อเสียงพันนึงอยู่ไม่ถึงอาทิตย์ แล้วอีกเดือน อีกปี เขาจะอยู่อย่างไร

Q : มองอย่างไรกับเสียงของคนรุ่นใหม่ คะแนนของนิวโหวตเตอร์ที่เกิดขึ้นใหม่

เสียงของคนรุ่นใหม่ ผมดูแล้วน่าจะอยู่กับ 2 พรรค คือ พรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เด็กรุ่นใหม่ที่หัวแรงก็อาจจะไปกับพรรคก้าวไกล เพราะพรรคก้าวไกลเขาแรง

คนรุ่นใหม่เป็นคนคิดเป็น แล้วค้นหาความจริงเป็น เขาก็ต้องเลือกแนวทางที่ให้อนาคตเขา สไตล์ของพรรคเพื่อไทยที่สร้างมานานแล้ว คือ พยายามใช้ปัญญาให้มากที่สุด เพื่อไปสร้างโอกาสให้กับประชาชน สร้างอนาคตให้กับเยาวชน ถ้าพรรคเพื่อไทยยืนจุดแข็งของตัวเองแบบนี้ต่อไปเชื่อว่าพรรคยังแข็งแรงและเป็นที่หนึ่งอยู่

คราวที่แล้วพรรคเพื่อไทยไม่ได้เสนอนโยบาย เพราะรู้ว่าถึงอย่างไรก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล เก็บไว้ใช้คราวนี้ ผมเชื่อว่าคราวนี้พรรคเพื่อไทยคือแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

Q : เหตุใดเพื่อไทยดึง “อุ๊งอิ๊ง” เป็นผู้นำทัพ

เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยอยากเห็นว่าอย่างน้อย ๆ มีอะไรยังปรึกษาผมได้อยู่ ถ้าเอาน้องอิ๊งมาอยู่ตรงนั้นสามารถปรึกษาผมได้ ซึ่งผมไม่ได้ไปครอบงำอะไร เพราะคำว่าที่ปรึกษาคืออยากปรึกษาก็ปรึกษา ถ้าไม่อยากปรึกษาก็ไม่ต้องปรึกษา

Q : หลายคนกลัวว่า “อุ๊งอิ๊ง” เข้ามา จะกลายเป็นสายล่อฟ้า

ดี แต่เรามีกราวนด์ ผ่าลงอย่างไรก็ลงดินหมด การเข้ามาของน้องไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นนายกฯ วันนี้เป็นประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม เป็นเรื่องที่เขาถนัดและไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ยังไม่ได้เป็นนักการเมือง แต่ช่วยพรรคในเรื่องความคิด การหาเสียงและการพบปะผู้คน เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นพรรคที่จะปรึกษาผมได้ตลอด ประชาชนอยากได้ความมั่นใจในการแก้ปัญหา

Q : ไม่ปิดช่องเป็นนายกฯ “อุ๊งอิ๊ง”

อันนี้แล้วแต่เหตุการณ์ แล้วแต่น้องอิ๊งเลือก ลูกโตแล้ว ไปปกครอง ไปสั่งเขาไม่ได้ ผมไม่ชอบปกครอง ชอบให้คนรุ่นใหม่ปล่อยศักยภาพตัวเอง ถ้าเราปกครองปุ๊บ เราครอบหัวแล้วเขาทำอะไรไม่ได้

Q : การจะได้กลับบ้าน

มันถึงเวลาที่ต้องไปเลี้ยงหลาน ไม่มีปัจจัยอย่างอื่นเลย ปัจจัยที่สำคัญคือ อยากไปเลี้ยงหลาน ผมกำลังจะทำอวตารตัวเอง วันนี้ผมเป็นเบบี้บูมเมอร์ ผมจะสมมุติตัวเองว่าเป็นเจเนอเรชั่นเอ็กซ์ เจเนอเรชั่นวาย เจเนอเรชั่นแซด และเจเนอเรชั่นอัลฟ่า

แล้วผมจะพูดกับเพียร์ของแต่ละเจเนอเรชั่นว่า วันนี้โลกเป็นแบบนี้ เราจะทำตัวอย่างไร สรุปแล้วว่าผมรู้ปัญหาของทุกเจเนอเรชั่น รู้อนาคตของทุกเจเนอเรชั่นเพราะอยู่มานานพอ

อยากไปสอนหลาน คือ เจนอัลฟ่า อยากไปอยู่ใกล้หลาน เป็นที่ปรึกษาให้ลูก แค่นั้นเอง เลยต้องแข็งแรงเพื่อซ่อมเวลาที่หายไปสิบกว่าปี นี่คือแรงจูงใจที่ทำให้ผมต้องแข็งแรง

Q : ยืนยันว่าจะได้กลับบ้านภายในปีนี้

เป็นความตั้งใจ เป็นความฝันที่อยากกลับไป แต่จะสำเร็จหรือไม่ค่อยคิดอีกที คนเราต้องมีเป้าหมายไว้ก่อน บางทีก็สำเร็จ บางทีก็ไม่สำเร็จ แต่พยายามจะทำให้เป้าหมายนั้นไปสู่จุดหมายให้ได้ ผมไม่ได้ถอย แต่แก่แล้ว ถึงเวลาต้องไปเลี้ยงหลานแล้ว