ส.ก.ขั้วรัฐบาล ผนึกกำลัง สกัดแลนด์สไลด์ ก้าวไกล-เพื่อไทย

อุ๊งอิ๊ง

 

เห็นศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยิ่งเดือดแล้ว แต่การชิงชัยที่นั่งในสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) 50 ที่นั่ง ก็ระอุไม่แพ้กัน

ขั้วใหญ่แบ่งฝ่ายเหมือนกับการชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. ที่มีทั้งฝ่ายก้าวหน้า คือผู้สมัคร ส.ก.อนาคตใหม่ กับผู้สมัคร ส.ก.พรรคเพื่อไทย อาจรวมถึง ผู้สมัคร ส.ก.ของไทยสร้างไทย

กับฝ่ายอนุรักษนิยม ที่มีกันหลายเฉด ทั้งทีมพลังกรุงเทพ ของพรรคพลังประชารัฐ รักษ์กรุงเทพ อันเป็นกลุ่มของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคประชาธิปัตย์ ผู้สมัคร ส.ก.พรรคกล้า

แต่แล้วก็เกิดปรากฏการณ์พิเศษขึ้นมา เมื่อ 17 ส.ก. พรรคพลังประชารัฐ เสียงแตก-ย้ายข้างไปอยู่ฝั่ง “สกลธี ภัททิยกุล” ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.อิสระ

ทว่า เมื่อถอดรหัสการแตกตัวของ 17 ส.ก.พลังประชารัฐ แหล่งข่าวที่คลุกวงใน ส.ก.รายหนึ่งบอกว่า 17 ส.ก. อยากเกาะแขนฐานคะแนน กปปส. แม้จะเป็นการหักประกาศิต 3 ป. ที่ส่งสัญญาณหนุน “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง”

อย่างไรก็ตาม “เสี่ยโต” อภิชัย เตชะอุบล ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ส.ก.พรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงกรณีนี้ว่า “17 ส.ก. เด็กพวกนี้ยังใส่เสื้อพลังประชารัฐอยู่ เป็นคนของเราอยู่แล้ว การพาไปขึ้นเป็นสิทธิของเขา แต่อยู่กับเราทั้งหมดไม่หนีไปไหน เชียร์นู่นเชียร์นี่นิดหน่อย แต่อยู่กับเราอยู่แล้ว ไม่เป็นปัญหา ส.ก.ของเราคัดเลือกมาอย่างดี มีความรู้ความสามารถ คนในพื้นที่ก็รักใคร่ คนในพื้นที่ก็อยากจะได้ไป”

ขณะที่พรรคเก่าแก่อย่างค่ายประชาธิปัตย์ แม้ส่งทั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.ครบ 50 เขต แต่ด้วยภาวะ “ขาลง” จึงขอแชร์เก้าอี้สภา กทม.แค่ระดับ 10-11 ที่นั่ง เท่านั้น

ไม่แปลกที่มีข่าวแว่วว่า ส.ก.ฝ่ายอนุรักษนิยม แม้จะตัดคะแนนกัน แต่สุดท้ายอาจมารวมกัน โดยใช้แผน “เลือกตั้งแบบยุทธศาสตร์” แยกกันเดิน-รวมกันตีในสนาม ส.ก. เพื่อยึดสภา กทม.ให้กลายเป็นเสียงข้างมาก เบียด ส.ก.ก้าวไกล ที่มาแรง เพราะหวั่นเกรงว่า หากสภา กทม.มี ส.ก.ก้าวไกล เป็นเสียงข้างมาก จะพูดคุย-ประนีประนอมกันยาก

ข้ามมาที่ ส.ก.พรรคเพื่อไทย ที่ยอมให้ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ลงมาเล่นการเมืองท้องถิ่นด้วยตัวเอง เรียกเรตติ้ง ชนิดไม่ง้อกระแส “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์”

พรรคเพื่อไทย ตั้งเป้าจองตั๋วเก้าอี้ในสภา กทม.หลังฉาก 17-18 ที่นั่ง ตรงข้ามกับ “หน้าฉาก” ที่ประกาศขอมวลชนไว้ เพื่อเป็นบันไดแลนด์สไลด์ขั้นที่ 1 คือ 25 เสียง งัดแผนเด็ด ตัดคะแนนก้าวไกล เพื่อนร่วมอุดมการณ์ ด้วยการชูแคมเปญโหวตเชิงยุทธศาสตร์ ภายใต้ธีม “อยากใช้เพื่อไทย เลือกเพื่อไทยให้ชนะขาด”

จึงดัน “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ประธานด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงเรียกเรตติ้ง ฟื้นกระแส “ทักษิณ” เศรษฐกิจแย่-คนแก้ต้องเพื่อไทย

“ได้ช่วย ส.ก.หาเสียง การลงพื้นที่ไม่ได้ง่าย เพราะต้องใช้แรงกาย แรงใจ แก้ปัญหาให้ประชาชน เราต้องเลือกเพื่อไทยให้เยอะ ๆ เพื่อให้ ส.ก.พรรคเพื่อไทยมาทำงานให้ประชาชน รับใช้ประชาชนชาว กทม. เลือกให้ได้มากกว่าครึ่ง กว่า 9 ปี ที่ข้าวของแพง ตัวของคนทำมาค้าขาย ไม่ขึ้นราคาของก็คงไม่ได้ ถ้าเขาไม่ขึ้นราคาของก็ขายของขาดทุน แต่เราในฐานะคนซื้อ ก็รู้สึกว่าข้าวของแพงขึ้น เศรษฐกิจก็แย่ลงทุกที ต้องเลือกเพื่อไทยเข้าไปแก้ปัญหา”

ส่วนพรรคก้าวไกล มีลุ้นหัวใจพองโตขึ้นมา เมื่อการสำรวจภายใน ส.ก.ก้าวไกลมีคะแนนเป็นบวกในหลายเขต ถึงตัวชูโรงอย่าง “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคก้าวไกล เป็นตัวเต็ง แต่คะแนนยังไล่ตาม “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้สมัครอิสระ

เพราะฐานคะแนนก้าวไกลในสนามเลือกตั้งปี 2562 จำนวน 8 แสนเสียง กลับมีจำนวนไม่น้อยที่หันไปเลือก “ชัชชาติ” เป็นผู้ว่าฯ

แต่ส่วน ส.ก.นั้น จากการสำรวจในพรรค แฟนคลับยังคงเหนียวแน่นที่จะเลือก ส.ก.ก้าวไกล แม้จะมีเสียว ๆ ว่า คะแนนพ็อปพูลาร์ดังกล่าวจะมีแรงส่งแค่ชนะอันดับ 2 เพราะกระแส ไม่มีกระสุน ทำให้ไม่ถึงเข้าป้ายเป็น ส.ก.

ช่วงโค้งสุดท้ายในเกมชิงคะแนนท้องถิ่น จึงเห็น “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า วิ่งรอกระหว่างเวทีปราศรัยใหญ่ในกรุงเทพฯ กับเวทีนายกเมืองพัทยา เพื่อปลุกกระแส-ย้ำให้คนมาเลือกก้าวไกล-คณะก้าวหน้า

แต่นั่นก็ทำให้บรรดา ส.ก.คู่แข่งกับ ส.ก.ก้าวไกล หวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย

สภาพ สภา ส.ก.อาจจะไม่มีฝ่ายใดเสียงข้างมากเด็ดขาด แม้พรรคเพื่อไทยประกาศ “ขอแลนด์สไลด์”