สุพัฒนพงษ์ ถกคลัง-ธปท.-สภาพัฒน์ มาตรการแจกเงินรอบใหม่

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ (1)

สุพัฒนพงษ์ เผยเรียกกระทรวงการคลัง-ธปท.-สภาพัฒน์ คลอดมาตรการเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งต่อ 10 มาตรการด้านพลังงานเดิม แย้มกำลังดูอุ้มคนใช้เบนซินด้วย พิพัฒน์รายงาน ครม. นักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง เด้งรับเปิดประเทศ ผุดแพ็กเกจกระตุ้นนักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง-อินเดีย กระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่น เปิดตลาดใหม่แทนนักท่องเที่ยวจีน

วันที่ 24 พฤษภาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า 10 มาตรการช่วยค่าครองชีพด้านพลังงาน ซึ่งเป็นมาตรการระยะสั้นและจะครบในเดือน ก.ค. 65 ดังนั้น ต้องมาดูภาพรวมทั้งหมดให้ครบทุกมิติ เพื่อทบทวนใหม่ทั้งหมด โดยจะต้องฟังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะหลังจากเดือน มิ.ย. 65 เราต้องตัดสินใจแล้วว่า สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อแบบไหน คงยืดเยื้ออยู่แล้ว แต่ยืดเยื้อในระดับที่สูงมากน้อยขนาดไหน

“หลังเดือน มิ.ย. จะมีมาตรการออกมาเพิ่ม เพราะมาตรการเดิมจะสิ้นสุดครบในเดือน มิ.ย. ซึ่งตนจะกลับมาดูมาตรการพลังงานใกล้ชิดมากขึ้น เพราะสถานการณ์พลังงานเปลี่ยนแปลง ผันผวนรวดเร็วเหลือเกิน ซึ่งต้องเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย เพราะไล่ราคาขึ้น เราเองก็ไม่ต้องการให้มันต่างกันมากจนมีการลักลอบเอาของเราไปขายในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ดี ขณะเดียวกันระหว่างที่เราค่อย ๆ ฟื้นประเทศ เราจะรีบขึ้นเหมือนประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่ได้ ในเมื่อฐานรากเราพอจะมีระดับหนึ่งที่ดูแลได้ เราก็จะประคับประคอง อยู่ที่ว่าระดับไหนเท่านั้นเองที่จะเหมาะสม และต้องดูสถานะทางการคลังด้วย”

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ในช่วงต้นเดือน มิ.ย. จะหารือกับกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เพื่อประมาณการทางเศรษฐกิจจนถึงสิ้นปี เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ประมาณการรายได้จะเป็นอย่างไร ศักยภาพในการที่จะเราจะมีรูม หรือ ช่องว่าง มีปริมาณในการใช้ดูแลประคับประคองได้เท่าไหร่ ส่วนโครงการคนละครึ่งเฟส 5 กระทรวงการคลังและสภาพัฒน์กำลังดูอยู่

เมื่อถามว่า หลัง มิ.ย. นอกจากทบทวน 10 มาตรการเดิมแล้วจะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า อาจจะไม่ใช่ 10 มาตรการเดิมก็ได้ อาจจะเป็นมาตรการอื่น ต้องดูตามความเหมาะสม อาจจะเป็นมาตรการชุดใหม่ บางส่วนอันไหนดีอยู่แล้วก็อาจจะต่อ บางอันอาจจะเป็นมาตรการใหม่ขึ้น ต้องนั่งคุยกับกระทรวงการคลัง ธปท. และสภาพัฒน์ โดยจะประชุมกันโดยเร็วที่สุด เพียงแต่ว่าต้องแม่นยำ เพราะสถานการณ์ผันผวนมาก สังเกตได้ว่า น้ำมันมีแนวโน้มจะลดลง แต่ก็กลับเพิ่มขึ้นมาอีก เปลี่ยนแปลงเร็วมาก

เมื่อถามว่า จะมีมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้น้ำมันเบนซินหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า กำลังดูอยู่ ซึ่งกำลังหาสาเหตุอยู่ว่า ทำไมถึงขยับขึ้นขนาดนี้ และสาเหตุที่เกิดจากอะไร ส่วนจะให้เฉพาะกลุ่ม เช่น มอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือไม่นั้น ต้องดูในภาพภาพรวมก่อนว่าเหตุที่ราคาขึ้นมาเพราะอะไร

เมื่อถามว่า วงเงินที่เตรียมไว้สำหรับมาตรการใหม่จำนวนเท่าไหร่ นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ยังไม่รู้ ต้องไปดูมาตรการก่อน เวลายังพอมี ทั้งรายละเอียดของมาตรการและงบประมาณ ต้องดูหลายด้าน เพราะเศรษฐกิจเราค่อย ๆ เริ่มขยับขึ้น การประมาณการรายได้ การเก็บรายได้เป็นอย่างไรบ้าง สิ่งที่เราทำได้ คือ การประหยัดพลังงาน จะช่วยประเทศชาติได้เยอะ 1 แสนกว่าล้านต่อปี รัฐบาลก็ทำเต็มที่ ตอนนี้ตัวเลขยอดน้ำมันก็เห็นว่า ประหยัดกันมากขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดี จะผ่านไปได้ต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า มาตรการที่ออกมาใหม่จะเป็นมาตรการประคับประคอง ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็นอีกส่วนหนึ่ง ส่วนระยะเวลาของมาตรการจะนานเท่าไหร่ต้องดูว่าตัวเลขรายได้ดีมาตรการที่ออกมาจากจะมากกว่า 2-3 เดือน

“สถานการณ์ทางการคลังยังดีอยู่ เศรษฐกิจค่อย ๆ ไต่ขึ้นมา การส่งออกยังดี ซึ่งได้คุยกันที่ประชุม ครม. พยายามดูว่า การท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่นจะกระตุ้นอย่างไรได้อีก ซึ่งนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยว บอกว่า ได้เห็นโอกาสของนักท่องเที่ยวในตะวันออกกลาง ซึ่งท่านนายกฯได้ไปเยือนครั้งที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเข้ามามากทีเดียวในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา

โดยจะเป็นมาตรกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไปหาตลาดใหม่ ซึ่งตลาดตะวันออกกลางน่าสนใจ รวมถึงตลาดอินเดีย เพราะตลาดจีนยังไม่เปิด ซึ่งแต่การท่องเที่ยวโลว์ซีซั่นมาจากประเทศจีน ขณะที่นักท่องเที่ยวในประเทศ ครม.เพิ่งจะอนุมัติหลักการเพิ่มสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกันออกไปอีก”

เมื่อถามว่า ยังพอมีความหวังหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ต้องทำเต็มที่ ยังประมาทไม่ได้ เรายังอยู่ในวิกฤตโควิด-19 สงครามรัสเซีย-ยูเครน ก็ยังมีอยู่ ไม่จบ และกระทบต่อราคาสินค้า ราคาโลหะ ทุกอย่างขึ้นหมดเท่าตัว สูงขึ้นในรอบ 10 ปี สิ่งที่ดีที่สุด คือ หาสินค้าทดแทนในประเทศ ใช้ของในประเทศให้มากที่สุด