ประยุทธ์ถกชัชชาติ เชื่อม 2 สวน อารมณ์เสีย ถูกถามอยู่ทันเจ้าภาพเอเปค?

ประยุทธ์ ถก ชัชชาติ ติดตามความก้าวหน้าเชื่อมสวนเบญจกิติ-สวนลุมพินี ปลื้ม สวนสาธารณะแห่งชาติมีคนเข้าใช้แล้วกว่า 6 แสนคน อารมณ์ไม่ดี ปัดตอบ อยู่ทันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคหรือไม่ “ใครจะทำก็ทำ”

วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการเชื่อมสวนสาธารณะ “เบญจกิติ” กับ “สวนลุมพินี” ว่า เป็นการประชุมติดตามความก้าวหน้าในการปรับปรุงแผนการดำเนินการในระยะ 2-3 ที่

มีอีกหลายอย่างที่ยังต้องดำเนินการต่อบางส่วนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ให้ทันในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ซึ่งการประชุมวันนี้ได้มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง เช่น การเชื่อมต่อกับสวนลุมพินี การปรับปรุงเส้นทางเดิน เส้นทางรถยนต์ การจัดหาที่จอดรถในที่ต่าง ๆ ซึ่งพื้นที่ที่เสร็จแล้วได้ส่งมอบต่อให้กับกรุงเทพฯดำเนินการบริหารอยู่แล้วในขณะนี้ เช่นเดียวกันในบางส่วนที่ยังทำไม่เสร็จก็จะต้องร่วมมือทำให้เสร็จเสียก่อน และท้ายที่สุดจะอยู่ในความรับผิดชอบของกรมธนารักษ์และกรุงเทพมหานคร

“วันนี้ท่านผู้ว่าฯ กทม. ให้ความร่วมมือมาประชุมด้วยตนเอง ผมก็ขอบคุณและชื่นชม ซึ่งท่านก็ได้เสนอแนวคิดต่าง ๆ หลายอย่างด้วยกันที่จะต้องร่วมมือกันปรับปรุงแผนงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และคาดว่าเมื่อสำเร็จเรียบร้อยแล้วก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชนหลาย ๆ คน และในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่เปิดเริ่มมีคนเข้ามา 6 แสนกว่าคน ที่ทำบันทึกไว้แล้ว

เฉลี่ยวันละหลายพันคน ในวันธรรมดาประมาณ 3,000 กว่าคน วันเสาร์-อาทิตย์ประมาณ 5,000-6,000 คน ถือว่าเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกที่มีคนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราจะมีการอำนวยความสะดวกให้มีการเชื่อมต่อกับสวนลุมพินีด้วย สามารถเดินทางได้ทั้งทางรถยนต์และรถไฟฟ้าในระยะต่อไป

สวนดังกล่าวจะเป็นมุมมองใหม่ในการประชุมจากศูนย์การประชุมสิริกิติ์ จะมองภาพข้างหน้าผ่านกระจกมาจะเห็นสวนเบญจฯทั้งสวน ถือเป็นการสร้างสีสันให้กับกรุงเทพมหานครของเราในการเป็นสถานที่จัดการประชุมใหญ่ ๆ ต่อไปในอนาคต ซึ่งเรามองอนาคตไว้ตรงนั้นด้วย นอกจากทำตรงนี้ก็ต้องมีผลประโยชน์ทางอ้อมถือเป็นหลักคิดและนโยบายของรัฐบาล” นายกฯกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าในการเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคของไทย มีความเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขณะนี้มีการประชุมไปหลายส่วนแล้ว การจัดการประชุมก็มีการเดินกันเป็นขั้น ๆ เริ่มจากคณะทำงาน การประชุมเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโส ระดับรัฐมนตรี มี 180 กว่าการประชุมกว่าจะถึงการประชุมใหญ่ วันนี้ก็มีการเดินหน้าในหลายกระทรวง โดยการนำร่องของกระทรวงการต่างประเทศไม่ใช่อยู่ ๆ ก็จะมาประชุม เรียกมาวันนี้พรุ่งนี้เสียเมื่อไหร่ มันไม่ใช่ จะต้องมีสารัตถะในการที่จะมาพูดกันในห้องประชุมเพื่อให้เกิดการลงนามและแถลงการณ์ร่วม การทำงานไม่ใช่สักแต่ว่าจะประชุมอย่างเดียว

เมื่อถามว่าจะอยู่จนถึงเป็นเจ้าภาพจัดเอเปคใช่หรือไม่ เพราะมีการมองว่าอาจจะมีประเด็นเรื่องการดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี จังหวะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เดินออกจากโพเดียมให้สัมภาษณ์ พร้อมกล่าวสั้นๆโดยไม่มองหน้าผู้สื่อข่าวว่า “ก็แล้วแต่ ใครจะทำก็ทำเถอะ”