
ศบค.ไฟเขียว มท.ถอดโควิด-19 ตัดโรคโควิด-19 ออกจากโรคต้องห้าม ที่ห้ามเข้าราชอาณาจักร จูงใจกลุ่มเสี่ยงป่วยรุนแรงฉีดวัคซีนเกินร้อยละ 60
วันที 8 กรกฏาคม 2565 รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ครั้งที่ 10/2565 รับทราบแนวคิดของกระทรวงสาธารณสุขในการรับมือการระบาดและเปลี่ยนผ่านสู่การ บริหารจัดการหลังการระบาด (Post-pandemic)
เห็นชอบหลักการ มาตรการ และมอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบดังนี้
- มอบคณะกรรมการโรคติดต่อชาติ กำหนดให้กรอบนโยบาย และแนวทางปฏิบัติในการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค ตามมาตรา 14 (1) ของ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558
- เห็นชอบหลักการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนมารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ได้เกินกว่าร้อย ละ 60 โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงป่วยรุนแรง
- มอบกระทรวงสาธารณสุขจัดระบบการเข้าถึงยาต้านไวรัสให้สะดวกและเข้าถึงง่าย
- มอบกรมประชาสัมพันธ์กระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการสวมหน้ากาก และการรับวัคซีน
- มอบกระทรวงมหาดไทย ตัดโรคโควิด-19 ออกจากโรคต้องห้ามเข้าราชอาณาจักร
ขณะที่แผน/มาตรการการบริหารจัดการสถานการณ์โรคโควิด 19 ในระยะต่อไป
ด้านสาธารณสุข
- เร่งการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ≥60%
- ปรับระบบการเฝ้าระวัง เน้นการระบาดเป็นกลุ่มก้อนและผู้ป่วยปอด อักเสบ
- ผ่อนคลายมาตรการสำหรับผู้เดินทางจากต่างประเทศ
- ปรับแนวทางแยกกักผู้ป่วย และกักกันผู้สัมผัส
ด้านการแพทย์
- ปรับแนวทางการดูแลรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD)
- ดูแลผู้ป่วยที่เสี่ยงอาการรุนแรง และมีอาการรุนแรงรวมทั้งภาวะ Long COVID
ด้านกฎหมายและสังคม
- บริหารจัดการด้านกฎหมายในทุกหน่วยงาน ให้สอดคล้องกับการปรับตัวเข้าสู่ Post pandemic
- ทุกภาคส่วนส่งเสริมมาตรการ UP, COVID Free Setting
ด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์
- ทุกภาคส่วนร่วมสร้างความรู้ความเข้าใจ และพฤติกรรม ให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตร่วมกับโควิด-19 อย่างปลอดภัย (Living with COVID-19)
- “โควิด” ระยะหลังระบาดใหญ่ 1 ก.ค. สรุปมาตรการ ทำอะไรได้บ้าง
- เด้งรับโควิด “โรคประจำถิ่น” ธุรกิจหนุนปลุกมู้ดจับจ่าย