
เพื่อไทยปราศรัยใหญ่ แพทองธาร ย้ำเข้าคูหาพาเพื่อไทยเข้าทำเนียบ เผยความในใจทักษิณ ให้คำแนะนำผ่านคุก ด้าน เศรษฐา ฉายภาพ 11 ด้าน ถ้าเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ปิดประตูตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
วันที่ 12 พฤษภาคม 2566 ที่อิมแพ็คอารีนา เมืองทองธานี พรรคเพื่อไทย จัดงาน ปราศรัยใหญ่ เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากต่างเดินทางมาร่วมฟังปราศรัยของพรรคเพื่อไทย โดยต่างใส่เสื้อสีแดง มาจับจองพื้นที่กันเต็มทั้ง 3 ชั้นของฮอลล์ด้านใน ขณะที่ด้านนอก ได้มีป้าย และ สแตนดี้ ขนาดเท่าตัวจริงของแคนดิเดตให้ประชาชนได้ถ่ายภาพ
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 ตุลาคม ย้อนหลัง 10 ปี
- กรมอุตุฯ เปิดชื่อพายุลูกใหม่ โซนร้อน “โคอินุ” (KOINU) พายุลูกที่ 14
- กรมอุตุฯ จับตาพายุหมุนเขตร้อน มีหย่อมความกดอากาศก่อตัวใหม่อีก 1 ลูก
ต่อมาเวลา 18.00 น.นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยว่า การทำงานอย่างหนัก อย่างมุ่งมั่นในเขตพื้นที่ ตนเชื่อว่า จ.น่านจะแลนด์สไลด์เป็นจังหวัดที่ 1 ทั้งนี้ การปราศรัยเป็นโค้งสุดท้ายที่มุ่งหน้าสู่เส้นชัย ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งยิ่งต้องแลนด์สไลด์ เพราะ แลนด์สไลด์มีความสำคัญและยิ่งใหญ่มากสำหรับคนไทยทุกคน ถ้าเราไม่แลนด์สไลด์การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเรา จะสูญเสีย ขาดโอกาส
แต่ถ้าเราแลนด์สไลด์ให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลได้นั่นคือโอกาสของพวกเรา ต้องได้ ส.ส.250 คนขึ้นไป ถ้าเราไม่ได้ ส.ส.250 คน ตาอยู่ 2 คน ตาลุง 2 คนจะกลับมาเป็นรัฐมนตรี กลับมาเป็นนายกฯ ใหม่ ถ้าไม่เอา เอา 2 ลุงออกไป
“ผมมั่นใจถ้าเราแลนด์สไลด์ ส.ว.250 คน เขาจะมีใจเป็นธรรมมาเลือกนายกฯ ให้เรา เพราะเงื่อนไขนี้เกิดจากประชาชน มั่นใจครับ ส.ว.ส่วนหนึ่งจะตัดสินใจมาเข้าข้างฝ่ายประชาธิปไตย เลือกนายกฯ จากแคนดิเดตพรรคเพื่อไทย ดังนั้น เรามาส่งเสียงบอกกันไปว่าแลนด์สไลด์จำเป็นและสำคัญจริงๆ ขอให้เข้าคูหากาเพื่อไทยทั้งสองใบ” นพ.ชลน่าน กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรามั่นใจเราเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง และสำคัญที่สุดทุกสำนักโพล พรรคเพื่อไทยเราชนะทุกโพล ดังนั้น ตัดสินใจให้เด็ดขาดอย่าแบ่งใจ อย่าวอกแวกเอารัฐบาลที่มาจากพรรคประชาธิปไตยที่ชื่อว่าพรรคเพื่อไทย
“รัฐบาลเพื่อไทยเป็นรัฐบาลที่มีประสบการณ์ ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน มีประสบการณ์แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะยุคนี้วิกฤตเศรษฐกิจเป็นปัญหาของพี่น้องอย่างมาก ต้องอาศัยมืออาชีพ อาศัยผู้มีประสบการณ์เท่านั้นถึงเอาประเทศรอด ผมมั่นใจ ณ วินาทีนี้ ในวันที่ 14 พฤษภาคม ผมมั่นใจคะแนนที่ออกมา พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งถล่มทลาย 286 เสียงขึ้นไป งานนี้ล้อเล่นไม่ได้ เอาคนไม่มีประสบการณ์มาบริหารประเทศยามวิกฤตไม่ได้ 14 พฤษภาคม เจอกับของจริง เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที” นพ.ชลน่าน กล่าว
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า แคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คน เราอยู่ได้เพราะเราพูดแล้ว เราสามารถทำได้ทุกครั้งประชาชนจึงกลับมาเลือกเราอีกทุกครั้ง และเหตุการณ์ที่ผ่านมา ไม่ว่าเราเจอกับนักร้องต่างๆ หรือ เหตุการณ์การเลือกตั้งล่วงหน้า เราคิดถูกจริงๆ ที่มีแคนดิเดตนายกฯ ถึง 3 คน เพราะไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นเรายังมีแคนดิเดตนายกฯ ไปทำนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชนให้สำเร็จได้
ทำให้เราเรียนรู้ว่าเราจะต้องไม่ประมาททางการเมือง ไม่ทำให้การเมืองสั่นคลอน เคยได้ยินว่าพรรคที่เคยถูกทำรัฐประหารมาไม่สู้เคียงข้างประชาชน ถ้าไม่สู้เคียงข้างประชาชนดิฉันจะยืนอยู่ตรงนี้วันนี้เหรอคะ ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่สู้เคียงข้างประชาชน ยุบไปแล้ว 2 ครั้งจะกลับมาแบบนี้เหรอคะ
ถ้าประเทศของเราไม่มีพรรคไทยรักไทยในวั้นนั้น ที่ฟื้นฟูเศรษฐกิจให้พี่น้อง ปลดหนี้ไอเอ็มเอฟก่อนเวลา เป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเซีย ถ้าไม่มีพรรคเพื่อไทยในยุคยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปรับค่าแรง ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ประเทศไทยวันนี้จะเป็นอย่างไร ทุกครั้งที่เราเป็นรัฐบาลทำให้เศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนกลับมาอยู่ดีกินดีทุกครั้ง
“ดิฉันที่เข้ามาทำงานการเมืองแสวงหาโอกาสให้คนรุ่นใหม่ มีแนวทางหารายได้เพิ่มให้กับครอบครัว ให้กับตัวเอง ให้กับชีวิตของเขา ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเตรียมไว้เลยจะเพิ่มโอกาสให้ชีวิตตัวเองอย่างไร เพราะเราสร้างโอกาสให้คนทั้งประเทศแน่นอน” น.ส.แพทองธาร กล่าว
น.ส.แพทองธาร ยังปราศรัยตอนหนึ่งถึงความในใจว่า “ก่อนมาที่นี่ได้คุยกับคุณพ่อ (นายทักษิณ ชินวัตร) ท่านบอกว่าท่านอยากจะกลับมา ท่านพูดกับดิฉัน พูดอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าพ่อกลับมาติดคุก และระหว่างที่พ่ออยู่ในคุกถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะขอคำแนะนำ
หวังว่ามันสมองของท่านจะช่วยให้คนไทยผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจไปได้ ท่านก็ยังบอกกับดิฉันว่า ท่านรู้สึกซึ้งใจที่ตั้งแต่ทำพรรคการเมืองมา ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ท่านได้รับแรงสนับสนุนจากพี่น้องคนไทยอย่างถล่มทลายมาสม่ำเสมอ และท่านไม่เคยลืมบุญคุญพี่น้องคนไทยเลย”
น.ส.แพทองธาร กล่าวปิดท้ายว่า วันที่ 14 พฤษภาคม เข้าคูหากาเพื่อไทย ผ่านวิกฤตไปด้วยกัน พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลประเทศไทยเปลี่ยนทันที ปิดสวิตช์ ส.ว. ปิดสวิตช์ 3 ป. คนไทยมีกินมีใช้มีเกียรติมีศักดิ์ศรีไปพร้อมๆ กัน แลนด์สไลด์ พาเพื่อไทยเข้าทำเนียบรัฐบาล
จากนั้น นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย กล่าวว่า ประเทศไทยเคยยืนอย่างสง่างามบนเวทีโลก เรามีศักยภาพ มีคนเก่ง แต่มีผู้นำรัฐประหารสร้างวิกฤต เอารถถัง เอาปืนมาจ่อหัวพวกเรา ปล้นอำนาจอธิปไตยไปจากพวกเรา ทำลายศักดิ์ศรีของพวกเราในเวทีโลกที่มองว่ารัฐประหารเป็นเรื่องน่ารังเกียจ
เราคนไทยทุกคนล้วนเป็นผู้เสียหาย เราสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ทางการค้า เราเคยเป็นประเทศที่เป็นไข่แดงของการลงทุนในอาเซียน แต่วันนี้ประเทศไทยกลายเป็นไข่ขาวรอบอินโดนีเซียและเวียดนาม มองกลับมาในประเทศไทย ความเหลื่อมล้ำได้ขยายตัวมากขึ้นโดยฝีมือของรัฐบาลที่ประกาศคืนความสุข
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังการยึดอำนาจคือความทุกข์ ทั้งการคอรัปชั่น ใช้กฎหมายเป็นอาวุธ บริหารวัคซีนผิดพลาด รวมถึงเรื่องที่ตนเจ็บปวดที่สุดคือการยัดข้อหาที่ไร้หัวใจกล่าวหาเยาวชนไทยว่าชังชาติ รัฐบาลนี้ได้สร้างคุกขนาดใหญ่ขังประชาชนทั้งประเทศ ไว้กับความเหลื่อมล้ำ ความยากจน ความยากลำบาก ความไม่เป็นธรรม ใช้กฎหมายทำร้ายคนเห็นต่าง ขังไว้กฎหมายทำร้ายคนเห็นต่าง ขังไว้กับอำนาจทรยศต่อประชาชน ทั้งหมดนี้เป็นผลไม้พิษที่มาจากการรัฐประหาร 2557
“ผมเข้ามาในพรรคเพื่อไทยวันนี้ผมมาตัวเปล่า ปราศจากคำสัญญาใดๆ จากนายทุน ผู้มีอำนาจ หรือ ผู้มีอิทธิพล คำสัญญาหนึ่งเดียวที่ผมมีคือคำสัญญากับพี่น้องประชาชนว่าผมจะตั้งใจจะทุ่มเท ทำงานหนัก ยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องสู้เพื่ออนาคตของลูกหลาน ผมเป็นคนตรงๆ พร้อมนำประสบการณ์ 30 ปีในภาคธุรกิจ สร้างอนาคตให้กับคนไทยทุกคน” นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล 1.จะเห็นรัฐบาลที่เข้ามาบริหารอย่างจริงจัง ไม่ใช่บริหาร แบบธุรการอย่างที่ผ่านมา มีเป้าหมายที่ชัดเจนจะพาประเทศและชีวิตประชาชนไปทางไหน จะทำงานอย่างขยันขันแข็งวางระบบให้คนรุ่นหลังเดินต่อไปได้ จะไม่บอกว่าถ้าประเทศไม่มีตนแล้วประเทศจะอยู่อย่างไร หรือ ไม่มาบอกว่าถ้าตนไม่ทำใครจะทำ
เรากำหนดเป้าหมายชัดเจน ปี 2567 เราจะทำจีดีพีประเทศโตไม่น้อยกว่า 5% ให้คนทั้งประเทศมีงานทำมุ่งไปที่เป้าหมายค่าแรง 600 บาท ต่อวัน และปริญญาตรี 2.5 หมื่นบาทต่อเดือน ทุกคนจะเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในโลกผ่านกระเป๋าตังค์ดิจิทัล 1 หมื่นบาท
หลายประเทศจะขอมาเรียนรู้จากเราเหมือนโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เราจะรักษาวินัยการเงินการคลัง เป็นอย่างดี จะเห็นบริษัทของไทยเติบโตบนเวทีโลกจากการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นักลงทุนจะกลับมาให้ความสนใจกับประเทศไทยไม่แพ้เพื่อนบ้านของเรา
2.ตั๋วจำนำหมดไป แทนที่ด้วยแบงก์ในกระเป๋าที่มากขึ้น หนี้สินจะน้อยลง เพราะระบบเศรษฐกิจของเราจะทำให้ทุกคนทำงานหาเลี้ยงชีพได้สบายๆ เหมือนยุคพรรคไทยรักไทย ด้วยนโยบายซอฟต์เพาเวอร์ เติมเงินให้ครอบครัว 2 หมื่นบาท ใช้ตลาดนำนวัตกรรมเสริมทางการเกษตรและเทคโนโลยีบล็อกเชน 3. คน กทม.จะขึ้นรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทางด่วนจะเชื่อมโยงเสียค่าทางด่วนให้น้อยลง เพื่อการจราจรติดขัดน้อยลง คนต่างจังหวัดจะมีรถไฟความเร็วสูงในราคาที่ไม่แพงเกินไป 4.จะเห็นยาเสพติดลดลงอย่างรวดเร็ว จะนำนโยบายและวิธีการสมัยไทยรักไทยมาใช้
5.จะเห็นนักท่องเที่ยวเข้ามามาก และกระจายไปทั้งประเทศ เพิ่มสนามบินนานาชาติให้มีมาตรฐานและปรับปรุงสนามบินสุวรรณภูมิไม่ให้วุ่นวายเหมือนทุกวันนี้ และบำรุงรักษาแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม ให้กลับมามีชีวิตชีวา จะจัดแข่งกีฬาและคอนเสิร์ตระดับโลกดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งปี
6.จะคืนอากาศสะอาด กำจัด PM2.5 ที่ต้นตอ การจราจรใน กทม.และเมืองใหญ่จะต้องได้รับการดูแล 7.จะลดการเกณฑ์ทหารมาเป็นสมัครใจในที่สุด คืนสิทธิการรักชาติโดยไม่จำเป็นต้องการเกณฑ์ทหาร รัฐบาลจะพูดคุยกับกองทัพถึงความจำเป็นถึงการฝึกอาชีพหลังการเกณฑ์ทหารเหมือนในหลายๆ ประเทศที่พัฒนาแล้ว
8.จะไม่มีใครอวดครวญกับค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน ค่าแก๊สอีกต่อไป เราจะปรับโครงสร้างราคาใหม่ให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย เร่งพัฒนาแหล่งพลังงานใหม่มาเสริม และจะควบคุมการผลิตไฟฟ้าให้เหมาะสม 9.จะจัดการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นภาระประชาชน เช่น ทำตัวเป็นนายประชาชน รีดไถประชาชน เราจะทำทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง จะไม่ยอมให้ซื้อขายตำแหน่งข้าราชการเด็ดขาด ไม่ว่าจะโดยนักการเมืองหรือผู้บังคับบัญชาชั้นสูง
เราจะมีรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน เป็นกฎหมายสูงสุดในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราจะไม่มีการโค่นล้มรัฐธรรมนูญหรือก่อการรัฐประหารอีก เพราะเป็นเรื่องน่ารังเกียจ มีการบังคับใช้กฎหมายที่ชัดเจนและเป็นธรรม ใครหน้าไหนที่ล้มรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจะถูกตราหน้าว่าเป็นอาชญากรของชาติ
10.เราจะขอเชิญทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ที่อยู่ในบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่ตนไม่ถนัดให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง และเราจะให้ผู้มีความรู้ประสบการณ์เข้าไปช่วย ทำให้รัฐวิสาหกิจประสบความสำเร็จ จะเห็นรัฐบาลเพื่อไทยลดการผูกขาดทุกรูปแบบ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดได้รับบริการที่เป็นธรรม
11.เราจะไม่เห็นความอยุติธรรมจากตำรวจ หรือหน่วยงานรัฐภายใต้อำนาจบริหารอีกต่อไป หรือ จะไม่เห็นการใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 เพื่อกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะเราไม่ให้คนตัวเล็กโดนกลั่นแกล้ง เราจะยกเลิกการตั้งด่านเก็บส่วยของตำรวจ กรมการขนส่งโดยไม่จำเป็นอีกต่อไป
“อนาคตที่กล่าวไปทั้งหมด เป็นไปได้จริงด้วยความสามารถของพรรคเพื่อไทย ผมมีความฝันที่จะเห็นประชาชนอยู่ดีกินดีมีความภาคภูมิใจ ฝันว่าเศรษฐกิจจะเติบโตพร้อมกับความเจริญทางจิตใจ ฝันว่าประเทศไทยมีบทบาทในเวทีโลก ฝันที่ประชาธิปไตยจะกลับคืนสู่พวกเราทุกคน”
“และฝันว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับใช้ประชาชนอีกครั้งหนึ่งผมและพรรคเพื่อไทยจะต่อสู้ไม่ให้พวกเราตื่นขึ้นมาพบประเทศที่เต็มไปด้วยความแตกแยกไม่ยอมรับความแตกต่าง ตื่นขึ้นมาเจอผู้นำเป็นคนเดิมที่ไร้หัวใจ ตื่นขึ้นมาเห็นคนไทยไร้ที่ยืนบนเวทีโลก” นายเศรษฐา กล่าว .
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ เราจะต้องชนะให้มากกว่าทุกครั้งที่เราเคย ให้มากพอที่จะทำให้ ส.ว.ทำตามฉันทามติของประชาชน โดยไม่มีข้ออ้างอีกต่อไป เราจะไม่ทรยศต่อคนที่ร่วมอุดมการณ์กับพวกเรา เราจะรับฟังทุกเสียงของประชาชน จะทำงานหนัก จัดตั้งรัฐบาลที่โปร่งใส เราจะใช้ทุกวินาทีอย่างมีค่า ใช้จ่ายภาษีทุกบาททุกสตางค์อย่างมีจุดมุ่งหมาย
เพื่อประโยชน์สูงสุดของคนไทยทุกคน ภาพฝัน ความหวัง และนโยบายที่ได้กล่าวไปในตลอด 75 วันที่ลงพื้นที่เป็นไปได้จริง
เวลานี้ประเทศต้องการรัฐบาลที่มีประสบการณ์ มีความสามารถ เข้าใจกลไกทั้งการเมือง กฏหมาย ราชการ และความร่วมมือจากภาคเอกชนจำนวนมากทั้งในไทยและต่างประเทศ มาเปลี่ยนประเทศไทยให้พ้นจากวิกฤต สถานะทางการเงินการคลังของประเทศอยู่ที่ปากเหว หนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เรารอไม่ได้แล้ว
ประเทศไทยไม่มีโอกาสให้เสี่ยงอีกแล้ว ทั้งเสี่ยงที่จะเปิดช่องว่างให้รัฐบาลเผด็จการกุมอำนาจ ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ค้านมติของประชาชน เสี่ยงที่เสียงของฝ่ายประชาธิปไตยจะถูกบั่นทอน จากการบังคับใช้กฏหมายอย่างไม่เป็นธรรม เสี่ยงที่การลงคะแนนแบบไม่มียุทธศาสตร์ จะทำให้ฝ่ายเผด็จการกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้ง
เรามีบทเรียนจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ที่พรรคเพื่อไทยพลาดไปเพียง 17 ที่นั่ง เราต้องไม่ปล่อยให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกแบบไร้ยุทธศาสตร์อีกครั้ง ไม่เช่นนั้นเราจะต้องทนกับ รัฐบาลที่สืบทอดเผด็จการ ขั้วอำนาจเดิมต่อไป
“ผมขอวิงวอนจากใจ อย่าเลือกเพราะความกลัว แต่ให้เลือกเพราะความชัวร์ ชัวร์ว่าพรรคเพื่อไทยทำได้จริง เราจะทำให้เสียงของประชาชนเป็นใหญ่ ให้ประชาธิปไตยเป็นใหญ่ ให้นักการเมืองฟังเสียงของประชาชน และผม นายเศรษฐา ทวีสิน ขอเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ทำให้ประชาชนหลุดพ้นจากความมืดมน สู่ความเป็นจริงที่มีความหวัง”
“ผมขอให้ทุกคนลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทย ทั้ง ส.ส.เขต และพรรคเบอร์ 29 ให้แลนด์สไลด์ทั้งประเทศ เพื่อให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างมีเสถียรภาพ ให้พวกเราไปรับใช้ประชาชน ไปทำความหวังของทุกคน เปลี่ยนประเทศให้ได้จริง และส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลาน” นายเศรษฐากล่าวปิดท้าย