ฮาบิแททผนึกกลุ่มเฮงตระกูลผุด “เวเคชัน พูลวิลล่า” บูมอสังหาพัทยา

ฮาบิแททผนึกกลุ่มเฮงตระกูล

“ฮาบิแทท กรุ๊ป” เปิดเกมรุกครั้งสำคัญ ปรับแผนธุรกิจใหม่ในรอบ 10 ปี บุกตลาดแนวราบครั้งแรก นำร่องในพัทยา ผุดโมเดลร่วมทุนแลนด์ลอร์ดรายใหญ่ “ชลบุรี-พัทยา” พร้อมเปิดโครงการแบรนด์ใหม่ “ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา” โชว์คอนเซ็ปต์ “เวเคชัน พูลวิลล่า” (Vacation Pool Villa) มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท เจาะกลุ่มเรียลดีมานด์ไทย-ต่างชาติ เพื่อซื้อบ้านหลังที่ 2 แทนการเช่า เปิดขาย VVIP พ.ย. 65 นี้

วันที่ 18 ตุลาคม 2565 นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน เปิดเผยว่า ฮาบิแททปรับกลยุทธ์ธุรกิจครั้งสำคัญในรอบ 10 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท จากเดิมเน้นโปรดักต์กลุ่มไลฟ์สไตล์ อินเวสเมนต์ มาสู่แผนสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในตลาดแนวราบเป็นครั้งแรก เจาะลูกค้าเรียลดีมานด์ที่มีขนาดใหญ่ และมีความต้องการซื้ออย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ฮาบิแททกรุ๊ปได้ร่วมทุนกับแลนด์ลอร์ดรายใหญ่ในพื้นที่ “ชลบุรี-พัทยา” จัดตั้ง “บริษัท ฮาบิแทท วิลล่า จำกัด” เพื่อพัฒนาโครงการ “ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา” ร่วมกัน มีสัดส่วน ฮาบิแทท กรุ๊ป ถือหุ้น 70% อีก 30% เป็นของนายรัฐกิจ เฮงตระกูล เจ้าของที่ดิน

“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์โควิดส่งผลให้ผู้บริโภคและนักลงทุนมีมุมมองต่อการซื้อที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป โดยคาดหวังที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่กว้างมากขึ้น รองรับกิจกรรมครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ซึ่งเป็นรูปแบบการอยู่อาศัยพร้อมท่องเที่ยวและพักผ่อนที่เป็นเทรนด์การใช้ชีวิตและทำงานของคนยุคใหม่ “ทำงานจากที่ไหนก็ได้” หรือ Work from Anywhere นำมาสู่การปรับแผนธุรกิจในครั้งนี้ และเชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว

“จากเดิมที่เราโฟกัสการพัฒนาโครงการอสังหาฯ เพื่อลงทุน แต่วิกฤตโควิดที่ผ่านมา ทำให้บริษัทหันมาสนใจตลาดแนวราบ และหวังสร้างบาลานซ์ พอร์ต เพื่อจัดการบริหารความเสี่ยงอีกด้วย”

ก่อนหน้านี้ ฮาบิแททกรุ๊ปสั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการทำตลาดโครงการพูล วิลล่า มาแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ เดอะ วิลล์ จอมเทียน และ ครอสทู พัทยา โอเชียนเฟียร์ จึงมีความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างดี และพร้อมจะนำความแข็งแกร่งในจุดนี้ไปต่อยอดกับตลาดแนวราบต่อไป

รายละเอียด “ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า” (Highland Park Pool Villas) ออกแบบสไตล์โมเดิร์น มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท บนเนื้อที่ 51 ไร่ เริ่มพัฒนาเฟสแรก 65 หลัง ประกอบด้วยบ้าน 2 แบบ ได้แก่ แบบบ้านโรสวูด แกรนด์ วิลล่า (Rosewood Grand Villa) ความสูง 2 ชั้น ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน พื้นที่จอดรถ 3 คัน ที่ดินเริ่มต้น 76-152 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 375 ตารางเมตร พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวในบ้านทุกหลัง ราคา 13-15 ล้านบาท

และแบบบ้านแคสเซีย พูล วิลล่า (Cassia Pool Villa) ความสูง 2 ชั้น ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ พื้นที่จอดรถ 2 คัน ที่ดินเริ่มต้น 61-122 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 282 ตารางเมตร พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวในบ้านทุกหลัง ราคาขาย 8-12 ล้านบาท

โดยโครงการ “ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา” มีจุดเด่นทำเลระดับพรีเมี่ยมบริเวณห้วยใหญ่ สามารถมองเห็นวิวภูเขาที่สวยงาม มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางให้ความเป็นส่วนตัวสูง พร้อมด้วยคลับเฮาส์ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ เลานจ์ สระว่ายน้ำ ห้องคิดส์ คลับ สำหรับเด็ก ๆ และห้องอเนกประสงค์ เพื่อรองรับการทำกิจกรรมสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว

“ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา เริ่มเปิดขาย VVIP ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 นี้ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนกรุงเทพฯ 70% ช่วงอายุ 30-55 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มครอบครัว อีก 30% เป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย และวัยเริ่มเกษียณ โดยผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อทั้งเพื่ออยู่เองและปล่อยเช่าในระยะยาว จากนั้นจะรอดูผลตอบรับจากกลุ่มลูกค้า ก่อนจะเปิดในส่วนของเฟสสองต่อไป” นายชนินทร์กล่าว

นายรัฐกิจ เฮงตระกูล ผู้ร่วมทุนโครงการ “ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา” กล่าวเพิ่มเติมว่า ความต้องการซื้ออสังหาฯ ในพื้นที่พัทยาเกิดขึ้นในหลายเซ็กเมนต์ และวิลล่าซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่มีดีมานด์สูง สำหรับทั้งการท่องเที่ยวและพักผ่อน รวมทั้งซื้อไว้เพื่อการลงทุนในระยะยาว โดยมีความสนใจจากผู้ซื้อทั้งนักธุรกิจในพื้นที่ ชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมโซนอีอีซี เป็นระดับผู้บริหารที่ต้องการซื้อแทนเช่า และชาวไทยที่อยู่กรุงเทพฯ เพราะการเดินทางที่สะดวกและใช้เวลาในช่วงสั้น ๆ จากกรุงเทพฯ มาพัทยา

และสุดท้ายกลุ่มต่างชาติ ที่นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พบว่าแนวโน้มเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ จึงมองว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาและเปิดขายโครงการบนทำเลศักยภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ในช่วงจังหวะนี้

ขณะที่ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย วิเคราะห์ถึงตลาดพูลวิลล่าในพื้นที่พัทยา ระดับราคาขาย 8-15 ล้านบาทเป็นตลาดที่เติบโตและมีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง สถิติ 6 เดือนแรกของปี 2565 มีพูลวิลล่าเปิดขาย 13 โครงการ รวม 404 ยูนิต ขายไปแล้ว 295 ยูนิต คิดเป็น 73% ของจำนวนยูนิตที่เปิดขายทั้งหมด ส่วนใหญ่พัฒนาโดยผู้พัฒนารายใหญ่ในพื้นที่ และเป็นโครงการขนาดเล็กที่มีจำนวนยูนิตขายน้อย

“การปรับแผนธุรกิจใหม่ จากโครงการคอนโดฯมาสู่แนวราบ เป็นอีกก้าวที่สำคัญในการยกระดับการทำงานและบาลานซ์ธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ และบริหารจัดการความเสี่ยงที่นำไปสู่การเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน” นายชนินทร์กล่าว