ตลาดบ้านบูมเทรนด์ “หลังคาทำเงิน” บิ๊กอสังหาอัดโปร-แข่งติดโซลาร์รูฟ

หลังคาโซลาร์รูฟ

สงครามข้ามปีรัสเซีย-ยูเครน ปลุกตลาดโซลาร์รูฟเข้าสู่ยุคหลังคาทำเงินเต็มรูปแบบ อสังหาฯปี’66 แข่งสร้างจุดขาย “แสนสิริ” จุดพลุติดตั้ง 100% “เสนาฯ” ชูไฮไลต์ซื้อบ้านพ่วงสัญญาขายไฟ 10 ปี “เพอร์เฟค-คุณาลัย-เอสซีฯ-ศุภาลัย-แอสเซทไวส์-บริทาเนีย-แลนด์ฯ” ผนึกพันธมิตรผลิตไฟสะอาด เปิดโมเดลศึกษา 25 ปี ประหยัดค่าไฟบวกขายไฟคืนรัฐเฉลี่ย 4.7-7.7 แสน

สงครามข้ามปีระหว่างรัสเซีย-ยูเครน เป็นปัจจัยเร่งให้พลังงานทางเลือกเติบโตตั้งแต่ปี 2565 และเป็นเทรนด์บูมต่อเนื่องในปี 2566 โครงการอสังหาฯได้แข่งกันสร้างจุดขายติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปอย่างคึกคัก โดยเจ้าของที่อยู่อาศัยรับประโยชน์ 2 ต่อจากโซลาร์รูฟ เพราะ 1.เป็นตัวช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้าในครัวเรือน 2.ถ้าพลังงานไฟฟ้าเหลือสามารถขายคืนเข้าระบบได้อีกด้วย

กราฟฟิกโซลาร์รูฟ

เทคโนโลยีถูกลง+ขายไฟแพงขึ้น

ปัจจุบันการติดตั้งหลังคาทำเงิน (โซลาร์รูฟ) ในหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมมีต้นทุนถูกลงเมื่อเทียบกับ 10 ปีก่อน แบ่งการติดตั้ง 3 ระบบ คือ 1.ระบบออนกริด สามารถใช้งานได้ 2 ฝั่ง ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์และจากการไฟฟ้าโดยตรง 2.ระบบออฟกริด ใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์เพียงอย่างเดียว กักเก็บไว้ในแบตเตอรี่ 3.ระบบไฮบริด ใช้งานได้ 3 ทาง ทั้ง 3 ระบบมีต้นทุนค่าติดตั้งอยู่ที่ 169,000 บาท

จากผลการศึกษาของศูนย์วิจัย Krungthai Compass ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2556 ราคาแผงโซลาร์ในไทยลดลง 66% ประกอบกับราคารับซื้อไฟของภาครัฐเพิ่มขึ้นเป็น 2.2 บาท/หน่วย จากเดิม 1.68 บาท/หน่วย ทำให้ระยะเวลาคืนทุนโซลาร์รูฟท็อปเร็วขึ้นจาก 17-30.3 ปีในปี 2556 ร่นเหลือ 6.1-13.9 ปีในปี 2564 แนวโน้มอาจเหลือเพียง 5.3-12 ปีภายในเวลาไม่กี่ปีจากนี้ เนื่องจากราคาแผงโซลาร์มีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง

ขณะที่ “LWS-ลุมพินีวิสดอม” สำรวจพบว่า ปัจจุบันราคาแพ็กเกจติดตั้งโซลาร์รูฟต่ำสุดตั้งแต่ 1.6 Kw (กิโลวัตต์) ไปจนถึง 10 Kw มีต้นทุนติดตั้งเฉลี่ย 89,000-99,000 บาท/1.6 Kw (กิโลวัตต์) อายุการใช้งานเฉลี่ย 15-25 ปี คืนทุนใน 5 ปี ประหยัดค่าไฟฟ้า 1,500 บาท/เดือน

กรณีติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป 1.6 Kw สามารถผลิตไฟฟ้าสำหรับใช้งานอุปกรณ์พื้นฐานในบ้าน เช่น หลอดไฟ 10 หลอด ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และทีวีอย่างละ 1 เครื่อง ใช้พื้นที่ติดตั้ง 8-11 ตารางเมตร เหมาะกับบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์
กรณีติดตั้ง 3.2 Kw คืนทุน 5 ปี ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 945,295 บาทภายใน 25 ปี เฉลี่ยประหยัดค่าไฟฟ้าปีละ 37,811.8 บาท หรือ 3,150.98 บาท/เดือน จึงเป็นระบบที่ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ในระยะยาว

แสนสิริจุดพลุติดตั้ง 100%

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในปี 2566 แสนสิริเดินหน้าติดตั้ง solar roof ในบ้านเดี่ยวทุกหลัง ทุกโครงการใหม่ ในทุกระดับราคา 100% รวมทั้งสิ้น 1,825 หลัง

แบ่งเซ็กเมนต์ ดังนี้ บ้านเดี่ยวราคาต่ำกว่า 8 ล้านบาทภายใต้แบรนด์สราญสิริ อณาสิริ คณาสิริ จะติดตั้งโซลาร์รูฟขนาด 1.38 Kwp (กิโลวัตต์สูงสุด) จำนวน 1,300 หลัง, บ้านเดี่ยวราคา 8 ล้านบาทขึ้นไปภายใต้แบรนด์เศรษฐสิริ บุราสิริ เดมี่ บูก้าน นาราสิริ ฯลฯ จะติดตั้งขนาด 1.84 Kwp จำนวน 525 หลัง

เป้าหมาย 3 ปี (2565-2567) มีการติดตั้งรวม 12,000 หลัง ประเมินอายุการใช้งานแผงโซลาร์รูฟ 25 ปี/หลัง ช่วยลูกบ้านประหยัดค่าไฟฟ้ารวมกันได้มากถึง 1,600 ล้านบาท ช่วยลดก๊าซคาร์บอน 8,000 ตันเทียบเท่าปลูกต้นไม้ 535,000 ต้น หรือปลูกป่า 2,673 ไร่

ล้ำหน้า “กระเบื้องลอนโซลาร์”

ทั้งนี้ แสนสิริตั้งเป้าติดตั้งโซลาร์รูฟเพื่อผลิตไฟฟ้าป้อนพื้นที่ส่วนกลางทุกโครงการใหม่ในปีนี้ ทั้งบ้านและคอนโดฯ รวม 46 โครงการ หลังนำร่องไฟส่องสว่างในสวนแล้ว 34 โครงการช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีผลทำให้พื้นที่ส่วนกลางทั้งปั๊มน้ำ, สระว่ายน้ำ, สำนักงานนิติบุคคล, ระบบแอร์ในคลับเฮาส์, เครื่องระบายอากาศในห้องน้ำ ประหยัดค่าไฟได้ปีละ 1-1.7 แสนบาท/โครงการ

ล่าสุด แสนสิริร่วมมือกับบริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ จำกัด (ION Energy) นำนวัตกรรมใหม่ 2-in-1 solar roof tile กระเบื้องลอนโซลาร์ ตั้งเป้าติดตั้งในคลับเฮาส์โครงการลักเซอรี่แบรนด์ “บ้านแสนสิริ บางนา” ในปี 2567 และร่วมกับพันธมิตรด้านพลังงาน ทำ R&D พัฒนาแบตเตอรี่เก็บไฟจากพลังงานสะอาดในบ้านภายในปี 2573 ในราคาที่เข้าถึงได้ จากปัจจุบันที่แบตเตอรี่ยังมีราคาสูงมาก

บ้านเสนา+สัญญาขายไฟ 10 ปี

ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า เสนาฯนับเป็นผู้บุกเบิกการติดตั้งโซลาร์รูฟในโครงการที่อยู่อาศัยตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน มีการติดตั้งทั้งหมด 47 โครงการ แบ่งเป็น คอนโดฯ 22 โครงการ บ้านแนวราบ 25 โครงการ รวมกว่า 700 หลังคาเรือน คิดเป็นการผลิตไฟฟ้า 2,000 กิโลวัตต์

ในปี 2565 บริษัทลงทุนด้านพลังงานมากขึ้นอีก 600 ล้านบาท และเตรียมความพร้อมยื่นขอสิทธิให้กับลูกบ้านผ่านโครงการโซลาร์ภาคประชาชน โฟกัสกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อระดับกลาง พนักงานประจำ ที่ซื้อทาวน์เฮาส์ราคาไม่แพง โดยล่าสุดเพิ่งเปิดขายทาวน์เฮาส์แบรนด์เสนาวีว่า ฉลองกรุง-ลาดกระบัง บนเนื้อที่ 15 ไร่เศษ ราคาเริ่มต้น 2.6 ล้านบาท นำเสนอออปชั่นติดตั้งโซลาร์รูฟ เป็นโครงการร่วมทุนกับกลุ่มฮันคิว ฮันชิน ประเทศญี่ปุ่น

รายละเอียด “Sena solar house บ้านพร้อมสัญญาขายไฟ 10 ปี” ผ่านโครงการโซลาร์ภาคประชาชน มีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ ราคาเริ่ม 2.5-12 ล้าน แบ่งเป็น ติดตั้งในทาวน์โฮมเริ่มต้น 1.28 กิโลวัตต์, บ้านเดี่ยวเริ่มต้น 2 กิโลวัตต์, อาคารพาณิชย์/ร้านค้าเริ่มต้น 3.5 กิโลวัตต์

25 ปีคำนวณคุ้มค่า 4-7 แสน

ดร.เกษรากล่าวว่า เสนาฯจัดทำโมเดลกรณีศึกษาความคุ้มค่าการติดตั้งโซลาร์รูฟ 3 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานการใช้งานทั่วไป แบ่งผู้ใช้ 3 กลุ่ม ดังนี้

1.กลุ่มทำงานที่บ้านหรือ work from home มีอัตราเฉลี่ยใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ 3.5 ชั่วโมง/วัน หรือ 116.5 ชั่วโมง/เดือน อายุการใช้งานแผงโซลาร์ 25 ปี มีสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า 10 ปี คำนวณจากค่าไฟฟ้าปัจจุบันที่ 4.40 บาท/หน่วย คาดการณ์อัตราเพิ่มขึ้นค่าไฟปีละ 2% ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 742,036 บาท ทั้งยังขายไฟฟ้าส่วนที่เหลือเป็นเวลา 10 ปี ที่ราคา 2.20 บาท/หน่วย สร้างผลตอบแทน 30,492 บาท ทำให้ประหยัด และมีรายได้จากการขายไฟฟ้าทั้งสิ้น 772,528 บาท

2.กลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก คนทำงานนอกบ้าน เฉลี่ยใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ 2.5 ชั่วโมง/วัน หรือ 97.5 ชั่วโมง/เดือน สามารถประหยัดค่าไฟฟ้า 621,018 บาท ขายไฟฟ้าส่วนที่เหลือเป็นเวลา 10 ปี สร้างผลตอบแทน 45,540 บาท ทำให้เกิดความคุ้มค่าโดยรวมจากการประหยัดและรายได้ขายไฟทั้งสิ้น 666,558 บาท

3.กลุ่มคนทำงานนอกบ้าน เฉลี่ยใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ 1 ชั่วโมง/วัน หรือ 63 ชั่วโมง/เดือน สามารถประหยัดค่าไฟ 401,273 บาท พร้อมทั้งขายไฟฟ้าส่วนที่เหลือเป็นเวลา 10 ปี สร้างผลตอบแทน 72,864 บาท จะทำให้เกิดความคุ้มค่าโดยรวมทั้งสิ้น 474,137 บาท

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” สำรวจการลงทุนติดต้้งโซลาร์รูฟให้เป็นจุดขาย พบว่า บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จํากัด (มหาชน) ติดตั้งโซลาร์รูฟให้กับบ้านรุ่นใหม่ในโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ 3 โครงการ ขนาด 3.21 Kwp (กิโลวัตต์สูงสุด) ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าปีแรก 20,700 บาท และเพอร์เฟค เพลส 8 โครงการ ขนาด 1.6 Kwp ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าปีแรก 10,300 บาท

บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (green loan) จากธนาคารยูโอบี ติดตั้งแผงโซลาร์รูฟ 4 โครงการ มีพื้นที่ติดตั้งรวม 2,711 ตารางเมตร ผลิตไฟฟ้า 511 กิโลวัตต์ อาทิ ติดตั้งในคอนโดฯ เคฟ ทียู (Kave TU) พื้นที่ 864 ตารางเมตร แล้วเสร็จเมื่อเดือนเมษายน 2565 ผลิตไฟฟ้า 178 กิโลวัตต์, คอนโดฯ เคฟ ทาวน์ ชิฟท์ (Kave Town Shift) ติดตั้งแผงพื้นที่ 969 ตารางเมตร แล้วเสร็จเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ผลิตไฟฟ้า 150 กิโลวัตต์

บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) วางแผน 3 ปี (2565-2567) ลงทุนหมู่บ้านพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์ วิลเลจ โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวแบรนด์ “แกรนด์ บริทาเนีย” เน้นติดตั้งโซลาร์รูฟพื้นที่โครงการ 30-50 ไร่ รวม 100-200 หลัง ในทำเลกรุงเทพฯ-ปริมณฑล โดยดีไซน์มีความเหมาะสมติดตั้งโซลาร์รูฟเนื่องจากเป็นบ้านเดี่ยว มีหลังคารูปทรงปั้นหยา สามารถนำแผงโซลาร์เซลหันหน้ารับแสงอาทิตย์ในทิศทางที่เหมาะสมได้อย่างเต็มที่

โดยติดตั้งระบบ on-grid ผลิตไฟฟ้าส่งเข้าสู่บ้านโดยตรง เลือกสลับการใช้ไฟโซลาร์หรือใช้ไฟจากการไฟฟ้าก็ได้ มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 5 Kw รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวัน ได้แก่ หลอดไฟ 10 วัตต์ 10 ดวง, ตู้เย็น 10 คิว 1 เครื่อง, ทีวี 50 นิ้ว 3 เครื่อง และเครื่องปรับอากาศ 12,000 บีทียู 4 เครื่อง

บริษัท วิลล่า คุณาลัย จํากัด (มหาชน) ติดตั้งโซลาร์รูฟโครงการคุณาลัย พรีม บางบัวทอง จำนวน 40 หลัง ช่วยลดค่าไฟให้ลูกค้าเฉลี่ย 1,500 บาท/เดือน ตั้งเป้าปี 2564-2566 เดินหน้าติดตั้งเพิ่มไม่ต่ำกว่า 50-60% ของโครงการบ้านทั้งหมด

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ 4 พันธมิตร ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม สมาร์ท โซลูชั่น จำกัด และบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ติดตั้งโซลาร์รูฟนำร่องโครงการ “ศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ รังสิต คลอง 2” โดยคัดเลือกลูกค้าจากความสมัครใจและปริมาณการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 4,000 บาท/เดือน ใช้งบฯลงทุนติดตั้งเฉลี่ย 200,000 บาท ตั้งเป้า
ติดตั้งโซลาร์รูฟ 500,000 หลังทั่วประเทศ
ภายใน 5 ปี โดยธนาคารกสิกรไทยสนับสนุนสินเชื่อ 50,000 ล้านบาท คาดว่าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 2.3 ล้านตัน

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ติดตั้งที่บ้านตัวอย่างโครงการ เวนิว โฟลว์ แจ้งวัฒนะ และมีแผนจะขยายสู่พื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงโครงการบ้านเดี่ยวระดับบนในอนาคต ภายใต้โครงการ ERC Sandbox : ENGY Energy is Yours มุ่งบริหารจัดการพลังงานในบ้านแต่ละหลังให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

บริษัท เดอะ แบ็กยาร์ด จำกัด ผู้พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ “Le Parc Next ทวีวัฒนา” ติดตั้งโซลาร์รูฟขนาด 5 กิโลวัตต์ เป็นบ้านหลังใหญ่ 100 ตารางวาขึ้นไป พร้อมเทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะช่วยลดอุณภูมิในบ้าน ประหยัดการใช้พลังงาน

บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ลงนาม MOU ร่วมกับบริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE ติดตั้งบนหลังคาคลับเฮาส์ 5 โครงการ ได้แก่ VIVE เอกมัย-รามอินทรา, NANTAWAN ปิ่นเกล้า-กาญจนา, NANTAWAN พระราม 9 กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่, Villaggio รังสิต-คลอง 4 และ MANTANA Bangna Km 15 โดยใช้ 157 แผง ขนาดติดตั้งรวม 74.63 Kwp ประหยัดไฟ 97,019 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/ปี คิดเป็นเงิน 436,585 บาท/ปี ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 49.6 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่าปลูกต้นไม้ 6,467 ต้น/ปี