Co-Living @ เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ AWC เสริมแกร่งออฟฟิศบิลดิ้งเกรด A

THE EMPIRE TOWER

เปิดเกมบุกตลาดออฟฟิศบิลดิ้งเกรด A แบบสร้างแรงกระเพื่อมไปทั้งพื้นพิภพ

เพราะเป็นเกมบุกของยักษ์ธุรกิจค่าย AWC ที่ใช้เม็ดเงินรีโนเวตโครงการเดียว 1,000 ล้านบาท นำเสนอโมเดลใหม่ในการสร้างบ้านในโครงการออฟฟิศ ทำเลใจกลางเมือง

อาณาจักรออฟฟิศ AWC

ทั้งนี้ AWC หรือ แอสเสท เวิรด์ คอร์ป หนึ่งในธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ของ เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี มีอาณาจักรธุรกิจสำนักงานให้เช่า (Office Building) จำนวน 4 อาคารด้วยกัน ทั้งหมดกระจุกบนทำเลไพรมแอเรียของมหานครกรุงเทพ ประกอบด้วย

1.เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ (Empire Tower) พื้นที่ให้เช่าสำนักงาน 158,021 ตารางเมตร 2.แอทธินี ทาวเวอร์ (Athenee Tower) พื้นที่ให้เช่า 45,155 ตารางเมตร 208 ไวร์เลส (208 Wireless Road) พื้นที่ให้เช่า 12,668 ตารางเมตร และ 4.อินเตอร์ลิงก์ ทาวเวอร์ (Interlink Tower) พื้นที่ให้เช่า 54,750 ตารางเมตร

เบ็ดเสร็จรวม 4 อาคาร มีพื้นที่เช่ารวมกันมากกว่า 270,593 ตารางเมตร

จุดน่าสนใจอยู่ที่อัตราการเช่า (occupancy rate) ถือว่าสูงมากเพราะทำได้ตั้งแต่ 70-96% แบ่งเป็นเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ทำเลหัวมุมถนนสาทร ตัดกับถนนจันทน์ตัดใหม่ และอินเตอร์ลิงก์ ทาวเวอร์ บนทำเลย่านบางนา มีผู้เช่าแล้ว 70%

อีกสองโครงการใกล้กันคือ 208 ไวร์เลส มีผู้เช่า 92% และแอทธินี ทาวเวอร์ มีผู้เช่าเกือบเต็ม 96%

แต่ถึงกระนั้น ยุคหลังโควิด ทาง AWC ก็ยังต้องลุกขึ้นมาสร้างจุดขายใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจผู้เช่าเกรดเอ โดยเฉพาะกลุ่มผู้เช่าบริษัทข้ามชาติที่มีศักยภาพสูง

เท 1,000 ล้านสร้างจุดขายใหม่

“วัลลภา ไตรโสรัส” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ระบุว่า เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ เปิดบริการตั้งแต่ปี 2542 ออกแบบเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ สูง 58 ชั้น หรือความสูง 227 เมตร มีพื้นที่อาคารรวม 314,800 ตารางเมตร เป็นพื้นที่ให้เช่า 158,021 ตารางเมตร แบ่งเป็นสำนักงานให้เช่า 141,890 ตารางเมตร และพื้นที่ค้าปลีก 16,221 ตารางเมตร

ล่าสุด มีการเติมเม็ดเงินลงทุน 1,000 ล้านบาท นำเสนอจุดขายใหม่ภายใต้แนวคิด “Co-Living Collective: Empower Future” รวมพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร บนชั้น 53 สร้าง “The Residence at Empire Co-Living” พื้นที่ทำงานซึ่งเป็นบริการพิเศษสำหรับผู้เช่า

วัลลภา ไตรโสรัส AWC
วัลลภา ไตรโสรัส

New Benchmark ที่เอ็มไพร์

มีการออกแบบตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้มีบรรยากาศเหมือนบ้านอันอบอุ่นและผ่อนคลาย ด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น ห้องนั่งเล่น พื้นที่สันทนาการเพื่อการพักผ่อน เพลิดเพลินกับเกมคอนโซล โต๊ะพูล และโต๊ะปิงปอง ห้องครัวแบบเปิดส่วนกลาง และพื้นที่รับประทานอาหาร ห้องสำหรับเด็ก และพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง ห้องเปลี่ยนผ้าอ้อม

ควบคู่กับโซนพื้นที่ทำงานร่วมกัน ประกอบด้วยพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ทำงานส่วนตัว พื้นที่สำหรับสนทนากลุ่มและประชุม ตลอดจนโซนเพื่อการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ประกอบด้วย Nap Lounge สำหรับการพักผ่อนเติมพลัง ห้องอาบน้ำ และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

นอกจากนั้นยังมี Swing Floor พื้นที่ทำงานชั่วคราวสำหรับผู้เช่าระหว่างการออกแบบตกแต่งสำนักงาน ที่มีการตกแต่งบางส่วนหรือทั้งหมดด้วยวัสดุและอุปกรณ์ที่สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการเฉพาะของผู้เช่า เช่น ฉากกั้นแบบยืดหยุ่น เฟอร์นิเจอร์โมดูลาร์ เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบให้สอดคล้องกับสรีระ ตลอดจนให้คำปรึกษาในการออกแบบและตกแต่งสำนักงาน

ตั้งเป้าให้โค-ลิฟวิ่ง สเปซ ที่เอ็มไพร์ ยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ในประเทศไทย

เฟสต่อไป ภายในปี 2566 นี้ เอ็มไพร์เตรียมเปิด “EA Rooftop” จุดหมายด้านอาหารและเครื่องดื่มบนยอดตึกแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยพื้นที่ 8,460 ตารางเมตร บนชั้น 55-58

ในอนาคตอันใกล้ ยอดตึกแห่งนี้จะเป็นสถานที่รวบรวมประสบการณ์การรับประทานอาหารเหนือระดับ จากหลากหลายแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกไว้ในที่เดียว ชูแนวคิดการออกแบบ “EA” (เอ-ยา) ซึ่งแปลว่า “เสรีภาพ อากาศ การเฉลิมฉลอง” เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับและชวนดื่มด่ำจากแบรนด์ภัตตาคารและร้านอาหารชื่อดังระดับโลกมากมาย ซึ่งหาไม่ได้จากที่อื่นในกรุงเทพฯ นำโดยภัตตาคารโนบุ และอื่น ๆ อีกมากมาย

THE EMPIRE TOWER

Q3/66 เปิดบริการชั้น 55

“ในฐานะอาคารสำนักงานแนวไลฟ์สไตล์แฟลกชิปของ AWC ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง Co-Living ในเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ เตรียมสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ โดยมีเป้าหมายหลักเชื่อมโยงทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกัน มุ่งส่งเสริมให้ผู้คนสามารถผสมผสานการทำงานและการใช้ชีวิตเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว และสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น”

ทั้งนี้ โมเดล “Co-Living Collective: Empower Future” เป็นครั้งแรกของการนำ Co-Living Space ในรูปแบบการใช้ชีวิตในบ้านมาอยู่เชื่อมต่อกับการทำงานให้ผู้เช่าโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ออกแบบโดยการเชื่อมโยงทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อส่งเสริมให้ผู้คนยุคปัจจุบันก้าวสู่อีกขั้นของความสำเร็จ ทั้งด้านการทำงานและการใช้ชีวิต โดยเอ็มไพร์ โฉมใหม่จะสร้างนิยามใหม่ของอาคารสำนักงานและศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ระดับโลกที่ล้ำสมัยด้วย Co-Living Space สร้างประสบการณ์ในการทำงานให้เหมือนอยู่บ้าน ด้วยบรรยากาศของห้องรับแขก ครัวส่วนกลางแบบเปิดพร้อมพื้นที่รับประทานอาหาร รวมทั้งห้องสำหรับเด็ก

ไทม์ไลน์ที่วางไว้ คาดว่าภายในต้นไตรมาส 3/66 จะได้ยลโฉมรูปลักษณ์ใหม่บนชั้น 55 ก่อน และทยอยเผยโฉมแต่ละชั้นภายในปี 2566

แอพพลาย LEED+WELL

AWC ยังมอบประสบการณ์การบริการจากโรงแรมผ่านแอปพลิเคชั่น AWC Infinite Lifestyle (AWI) สำหรับผู้เช่าสำนักงานเพื่อเข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้ง Business Center, Club Lounge และส่วนลดพิเศษของการบริการต่าง ๆ จากโรงแรมในเครือ AWC ทั้งหมด

พร้อมทั้งเดินหน้าสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน และขณะนี้อยู่ระหว่างการขอรับรองมาตรฐาน LEED ซึ่งเป็นมาตรฐานอาคารเขียวที่ยั่งยืน และมาตรฐาน WELL เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคารและผู้มาเยือน

“AWC มุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตที่ดีกว่า เราเชื่อว่า เอ็มไพร์ จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกสำหรับองค์กรและคนทำงาน และเมื่อองค์ประกอบใหม่ ๆ เหล่านี้เปิดตัวครบแล้ว เอ็มไพร์ จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งในใจของคนทำงานรุ่นใหม่ สถานที่รวมตัวพบปะขององค์กรและพนักงานผู้เช่าเพื่อสร้างพลังและคุณค่าร่วมกัน และเราจะสร้างอนาคตที่ดีกว่าไปด้วยกันกับ Co-Living Collective: Empower Future” คำกล่าวของ “วัลลภา”