AREA เผยสิงคโปร์ขึ้นภาษีซื้อบ้านของคนต่างชาติเป็น 60% มีผล 27 เม.ย. 66

สิงคโปร์
Photo : Pixabay

AREA เผยสิงคโปร์ขึ้นภาษีซื้อบ้านของคนต่างชาติเป็น 60% มีผล 27 เม.ย. 2566 เป็นต้นไป

วันที่ 27 เมษายน 2566 ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA เปิดเผยว่าจากรายงานข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง รายงานตรงกันว่า สิงคโปร์กำหนดภาษีซื้อของชาวต่างชาติใหม่ จากเดิม 30% เป็น 60% แล้ว เพื่อป้องกันการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่อาจเป็นการผูกขาดโดยชาวต่างชาติ เริ่มบังคับใช้วันที่ 27 เมษายน 2566 เป็นต้นไป

ในกรณีของบริษัทต่างชาติซึ่งเป็นนิติบุคคล มีภาระเสียภาษีตอนซื้อคือ 65% รวมทั้งกองทุน TRUSTEE ก็ต้องเสียภาษีจากเดิม 35% อัตราภาษีใหม่ปรับขึ้นเป็น 65% เช่นกัน

มีข้อสังเกตด้วยว่า ชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักถาวรในสิงคโปร์ ไม่ต้องเสียภาษีเท่าคนต่างชาติที่ไม่มีถิ่นพำนักถาวร โดยชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักถาวรในสิงคโปร์ เสียภาษีเพียง 5% สำหรับบ้านหลังแรก ส่วนบ้านหลังที่ 2 และ 3 ขึ้นไปเสียภาษีหนัก เช่นเดียวกับชาวสิงคโปร์เอง แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสิงคโปร์ไม่ส่งเสริมการเก็งกำไร

ดร.โสภณกล่าวว่า การปรับขึ้นภาษีซื้อบ้านของชาวต่างชาติในอัตราสูงเช่นนี้ เม็ดเงินภาษีของคนต่างชาติที่จะซื้อที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์ ทำให้รัฐบาลสิงคโปร์มีรายได้ภาษีนำมาใช้พัฒนาประเทศโดยตรง

เปรียบเทียบกับรัฐบาลไทยเก็บภาษีซื้อที่อยู่อาศัยต่ำกว่ามาก และเก็บภาษีโดยอ้างอิงราคาประเมินของทางราชการ ซึ่งอาจต่ำกว่าราคาตลาดที่เป็นราคาซื้อขายจริงสัดส่วนตั้งแต่ 10-60%

ยิ่งกว่านั้นในแต่ละปีไทยก็แทบไม่เก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ต้องราคา 50 ล้านบาทตามราคาประเมินราชการจึงจะเก็บ) หรือแทบไม่เก็บภาษีกำไรจากการขายต่อ (CAPITAL GAIN TAX) ซึ่งเก็บตามราคาประเมินราชการที่ต่ำมาก ยิ่งกว่านั้นไทยยังแทบไม่เก็บภาษีมรดก (เก็บเฉพาะกองมรดกที่มีมูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไปตามราคาประเมินราชการ)

การที่รัฐบาลสิงคโปร์ขึ้นภาษีซื้อที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์ของคนต่างชาติเป็น 65% เพื่อป้องกันการเก็งกำไร เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรการของรัฐบาลไทย จึงถือว่าไทยไม่มีมาตรการป้องกันการเก็งกำไรเท่าที่ควร