ครม.ไฟเขียว “ภาษีลาภลอย” อสังหาฯเชิงพาณิชย์ เกิน 50 ล้าน รอบรัศมีไฮสปีด-ทางคู่

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม.มีมติอนุมัติในหลักการร่างพระราชบัญญัติภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ พ.ศ… หรือ ภาษีลาภลอย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งจุดประสงค์ของการจัดทำกฎหมายฉบับนี้เนื่องจากที่ผ่านมามีการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม แต่ผู้ที่มีที่ดินอยู่ดีดีมีโครงการรถไฟฟ้าผ่าน ทำให้ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น อยู่ดีดีได้รับประโยชน์จากการไม่ลงทุนอะไรเลย แต่รัฐไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดิน ดังนั้นร่างพ.ร.บ.นี้ต้องการสร้างความเป็นธรรมระหว่างผู้ได้รับประโยชน์กับรัฐที่ต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และรายได้จากภาษีตรงนี้ทำให้รัฐสามารถนำไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมได้

ส่วนสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ. โครงการที่อยู่ในข่ายจัดเก็บภาษี อาทิ รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน รถไฟทางคู่ สนามบิน ท่าเรือ ทางด่วน และโครงการที่กำหนดในกฎกระทรวง ส่วนผู้ที่เสียเสียภาษีเป็นบุคคลคนธรรมดาและนิติบุคคลที่ครอบครองที่ดิน มีห้องชุดมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท แบ่งช่วงเวลาเก็บภาษี 2 ช่วง 1.วันที่รัฐเริ่มโครงการจนแล้วเสร็จ จะเก็บภาษีตามรัศมี 5 กม. รอบโครงการ 2.เมื่อโครงการเสร็จจะเก็บจากที่มูลค่าที่ห้องชุดมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ ส่วนที่ดินที่เป็นที่พักอาศัยและเกษตรกรรมจะได้รับการยกเว้น รวมถึงอาคารชุดที่ยังไม่ได้จำหน่าย ทั้งนี้หากเป็นช่วงที่โครงการยังไม่เสร็จกรมที่ดินจะเป็นผู้เก็บภาษี เมื่อโครงการเสร็จแล้วองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)จะเป็นผู้ทำหน้าที่เก็บแล้วส่งรายได้ให้กับแผ่นดิน

ส่วนการกำหนดเพดานการจัดเก็บจะไม่เกิน 5% ของฐานภาษี หรือส่วนต่างของมูลค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้นนับจากวันที่รัฐเริ่มก่อสร้างหรือนับจากวันที่พ.ร.บ.บังคับใช้ จากการประเมินราคาของโดยกรมธนารักษ์ ส่วนขั้นตอนของกฎหมายหลังครม.ให้ความเห็นชอบจะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจรายละเอียด และส่งเข้าพิจารณาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ต่อไป โดยยังไม่สามารถระบุได้ว่ากฎหมายจะออกมาบังคับใช้ได้เมื่อใด