นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า วันนี้ (20 ก.ค.) เป็นวันแรกที่ระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสามารถเชื่อมต่อกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ ขณะนี้มีผู้ที่ถือบัตรในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม จำนวนทั้งสิ้น 1.3 ล้านคน โดยได้เปิดลงทะเบียนเพื่ออัพเกรดบัตรไปตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับผู้ที่ยังไม่นำบัตรมาอัพเกรด ยังสามารถนำมาอัพเกรดได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ ที่สถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วงทุกสถานี แต่สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบพิเศษที่จะปิดลงทะเบียนในวันที่ 31 ก.ค.นี้ ซึ่งจะได้รับบัตรในเดือน ต.ค.นี้นั้น ไม่ต้องนำบัตรมาอัพเกรดภายหลัง เพราะว่าบัตรได้รับการอัพเกรดเรียบร้อยแล้ว
โดยบัตรที่จะได้ไปจะเป็นแบบ Hybrid 2 Chips จะมีแถบแม่เหล็ก Contactless Chip ที่จะมีสัญลักษณ์แมงมุมอยู่ด้านหลังบัตร ซึ่งในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนี้จะมีวงเงินสำหรับลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางรวม 1,500 บาทต่อเดือน แบ่งเป็นวงเงินสำหรับรถไฟฟ้า-ขสมก. 500 บาทต่อเดือน วงเงินสำหรับรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน และวงเงินสำหรับรถไฟอีก 500 บาทต่อเดือน โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งในการใช้สิทธิ์
และเมื่อถึงรอบตามที่กำหนดคือ วันที่ 1 ของทุกเดือน วงเงินที่อยู่ในบัตรจะถูกปรับเป็นวงเงินเริ่มต้นที่ 500 บาทในแต่ละประเภทรถโดยสารเสมอ หากมีการใช้เหลือจะไม่นำไปทบกับเดือนต่อไป และหากมีการใช้เกินวงเงิน ก็จะนำส่วนที่เกินไปหักในวงรอบต่อไป
สำหรับการเชื่อมต่อกับระบบรถเมล์ขสมก. และระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์นั้น คาดว่าในเดือน ต.ค.นี้ จะสามารถเชื่อมต่อได้ ส่วนการเจรจากับบีทีเอส เพื่อเชื่อมต่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้นยังอยู่ในระหว่างการเจรจากัน เบื้องต้นทางบีทีเอสขอรอจนกว่าระบบบัตรต่างๆ จะอัพเกรดเป็น EMV ก่อน แต่ถ้ามาร่วมเร็วก็ยิ่งดี เพราะคนต้องการใช้มาก ถ้าบีทีเอสไม่สนใจก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร
ขณะที่การเชื่อมต่อกับเรือโดยสารนั้นกำลังศึกษาอยู่และมีการคุยกับผู้ประกอบการแล้ว โดยอาจจะเชื่อมต่อได้ในสิ้นปีนี้ เพราะต้องสั่งซื้ออุปกรณ์สำหรับติดตั้งใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ในส่วนของรถทัวร์ ทางนครชัยแอร์ก็ให้ความสนใจที่จะเข้ามาร่วมในบัตรสวัสดิการฯ และบัตรแมงมุมเช่นกัน แต่อยู่ในระหว่างคุยกันอยู่