โบกี้ใหม่ BTS สไตล์ “ไอรอนแมน” ไซซ์เท่าเดิม เพิ่มที่ยืน-ราวจับ-กล้อง CCTV

กว่ารถไฟฟ้าบีทีเอสใหม่ขบวนแรก ที่ “บีทีเอสซี-บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ” สั่งซื้อจากซีเมนส์ จำนวน 22 ขบวน ที่ขนส่งมาทางเรือจากโรงงานประกอบ ณ กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี จะเดินทางมาถึงเมืองไทย ใช้เวลากว่า 1 เดือน

หลังจากนี้ “บีทีเอสซี” จะใช้เวลา 2 เดือนตรวจสอบรายการผลิตว่าถูกต้องตามสเป็กที่สั่งหรือไม่ หากไม่มีอะไรต้องปรับปรุง อีก 21 ขบวนที่เหลือจะทยอยตามมาจนครบในเดือน เม.ย. 2562 โดยบีทีเอสเตรียมจะนำรถของซีเมนส์มาวิ่งบริการในสายสุขุมวิทที่ปลายปีนี้จะเปิดหวูดไปถึงสมุทรปราการ

“สุรพงษ์ เลาหะอัญญา” ซีอีโอบีทีเอสซี กล่าวว่า สเป็กรถไฟฟ้าใหม่จะคล้ายกับของเดิม เพราะผลิตตามแพลตฟอร์มเดิม เช่น ขนาด ความกว้าง ความยาว เพียงแต่ปรับปรุงการดีไซน์ภายในให้ทันสมัย ด้วยอุปกรณ์รุ่นใหม่ให้มีความสวยงาม โปร่งโล่งสบาย เพิ่มสีแดงตรงพื้นที่ยืนให้สว่างและสดใสขึ้น

ที่สำคัญ ตัวถังรถทำจากสเตนเลสและเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนที่ล้ำสมัย ช่วยลดการใช้พลังงาน พร้อมไฟ LED ภายในและภายนอกตัวรถ ช่วยลดค่าบำรุงรักษาและใช้พลังงาน ขณะที่ระบบเบรกที่มีความสึกต่ำ และเป็นระบบเบรกแบบไดนามิกทำให้จอดได้แม่นยำสูง รวมทั้งเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยประหยัดพลังงานและมีพื้นที่จุคนได้มากขึ้น เช่น ป้ายสัญลักษณ์ที่จอดรถเข็น (wheel chair) ที่พื้น มีกล้อง CCTV จอ LCD บอกเส้นทาง เพิ่มราวจับเป็น 3 แถว ลดไซซ์ขนาดเก้าอี้ เพิ่มที่นั่งแบบ perch seat กึ่งนั่งกึ่งยืน บริเวณใกล้ประตูเข้าออก ตู้ละ 2 ตัว ซึ่งที่ต่างประเทศนิยมใช้ เช่น สิงคโปร์ จะทำให้เพิ่มพื้นที่ยืนและการเข้าออกประตูสะดวกยิ่งขึ้น ทำให้สามารถจุคนเพิ่มได้ขบวนละ 10%

ส่วนรูปโฉมภายนอกจะสวยขึ้น เนื่องจากออกแบบให้ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยมากขึ้นกว่ารถเดิม ที่รูปทรงจะมน ๆ และตาเป็นดวงกลม แต่รถใหม่เป็นตาแบบไอรอนแมน จะเฉี่ยวมากขึ้น นอกจากนี้ ตรงประตูและหน้าต่างจะดีไซน์ให้เป็นรอยหยัก จะไม่เป็นสี่เหลี่ยมเหมือนเดิม

“ทางซีเมนส์ดีไซน์เอง เดิมจะดีไซน์โดยปอร์เซ่ ส่วนรถที่สั่งจาก CRRC ของจีน รูปโฉมจะคล้ายกัน เพราะเราชอบแบบนี้ ซึ่งรถจีนจะมาถึงปลายปีนี้ และครบ 24 ขบวนปลายปี 2562 เพราะเราสั่งผลิตช้ากว่าซีเมนส์ จะนำมาวิ่งบริการในเส้นทางเดิมและส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต จะเปิดในปี 2563”

สำหรับรถขบวนแรกที่มาถึงท่าเรือแหลมฉบัง วันที่ 5 ส.ค.ผลิตโดยซีเมนส์ จะเริ่มทดสอบใน 2 อาทิตย์นี้ ที่ศูนย์ซ่อมบำรุงก่อน ถึงจะขยายไปทดสอบวิ่งที่เส้นทางอื่น ๆ มี 100 รายการที่ต้องทดสอบ ใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือน เป็นกระบวนการปกติ แม้สเป็กจะใกล้เคียงกับรถเดิม แต่เราออกแบบใหม่ ถ้าไม่มีอะไรต้องแก้ก็แจ้งไปยังโรงงาน อีก 2 เดือนจะทยอยนำขบวนที่เหลือตามมา จะขนทางเรือ ซึ่ง 1 ลำ ขนได้ไม่เกิน 2 ขบวน

ถึงจะได้รถใหม่มาเสริม เพิ่มความถี่การวิ่งให้บริการได้เร็วขึ้น แต่เรื่องระบบที่ล่มบ่อยครั้งและประตูที่เปิด-ปิดเองขณะรถวิ่ง ก็ยังเป็นสิ่งบั่นทอนความรู้สึกของคนใช้บริการ ต่อเรื่องนี้ “ซีอีโอบีทีเอส” ย้ำว่า ปัญหาระบบที่ถูกคลื่นมือถือรบกวน ปัจจุบันมีปัญหาน้อยมาก เนื่องจากบริษัทได้ติดตั้งเครื่องกรองคลื่น พร้อมขยับตำแหน่งคลื่นความถี่ จะดำเนินการให้เสร็จก่อนเดือน ธ.ค.นี้ อย่างน้อย 99.9%

ส่วนกรณีประตูเปิดและปิดเองไม่เกี่ยวกับระบบ เกิดจากรถขบวนนั้นประตูขัดข้อง ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดของ human error ได้กำชับให้ซีเมนส์ที่ดูแลซ่อมบำรุงให้ปรับแก้ไข ซึ่งซีเมนส์ก็รับไปปรับปรุงไม่ให้เกิดขึ้นอีก ขณะเดียวกันบีทีเอสจะเพิ่มการตรวจสอบอีกครั้งเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก

โดยจะทำเป็นมาตรการอย่างจริงจัง ซึ่งระบบรถไฟทั่วโลกจะมีกฎเหมือนกัน คือจะแนะนำไม่ให้ผู้โดยสารพิงประตู แม้ว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 0.001% ก็ตาม แต่หากหลีกเลี่ยงการพิงประตูได้ก็จะดีที่สุด