ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 ม.ค.2563 อนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ วงเงินลงทุน 142,789 ล้านบาท ตามที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นำเสนอ โดยจะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน PPP net cost ระยะเวลา 30 ปี ในส่วนงานโยธาช่วงตะวันตก ระยะทาง 16.4 กม. และลงทุนงานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถ และการเดินรถตลอดสายจากบางขุนนนท์-มีนบุรี ระยะทาง 35.9 กม. จำนวน 28 สถานี วงเงินลงทุน 128,128 ล้านบาท (รวมค่าจ้างที่ปรึกษา)
ซึ่งเอกชนเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสารและรับความเสี่ยงด้านรายได้ค่าโดยสาร รายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งหมด โดยภาครัฐไม่มีภาระสนับสนุนทางการเงิน (Subsidy) แก่เอกชนในส่วนงานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถ งานเดินรถ และซ่อมบำรุงรักษาของโครงการฯ
โดยรัฐจะลงทุนค่าเวนคืน 14,661 ล้านบาท และอุดหนุนเงินลงทุนเอกชนไม่เกินค่างานโยธา วงเงิน 96,012 ล้านบาท จะผ่อนชำระคืนเป็นรายปีเป็นระยะเวลา 10 ปี พร้อมดอกเบี้ย นับจากเปิดเดินรถตลอดเส้นทางในปี 2569 แต่ระยะเวลาสัมปทานจะเริ่มนับหลังจากช่วงตะวันออกศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรีเปิดบริการในปี 2567
ทั้งนี้ รฟม.คาดว่าจะประกาศคัดเลือกเอกชนภายในเดือน มิ.ย.2563 และได้ผู้ชนะประมูลเดือน ก.พ.2564
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะของกรุงเทพมหานครระหว่างฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ซึ่งอยู่ภายใต้แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (M-MAP)
โดยที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีได้เคยมีอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาของส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ไปแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง ตามแผนคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 แต่จากความล่าช้างานประมูลของช่วงตะวันตก จะทำให้การเปิดบริการขยับไปเป็นในปี 2567