“ศักดิ์สยาม” เคลียร์ใจ “คลัง” ส่ง “ปลัด-ผอ.สนข.” นั่งบอร์ดติดตามฟื้นฟูการบินไทย

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าแผนฟื้นฟู บมจ.การบินไทย ขณะนี้กระทรวงคมนาคมไม่มีอำนาจกำกับดูแล เพราะได้พ้นจากการเป็นรัฐวิสาหกิจไปแล้ว หลังจากที่กระทรวงการคลังลดสัดส่วนถือหุ้นลง เหลือ 47.86% 

ดังนั้น การบินไทยในฐานะบริษัทมหาชนจึงต้องดำเนินการต่อในรูปแบบของบริษัทจำกัดมหาชนต่อไป โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งสามารถใช้อำนาจในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ในการอนุมัติหรือการกระทำการใดๆก็ได้ ถ้าสามารถคุยกับผู้ถือหุ้นรายอื่นได้ก็ยิ่งดี

ส่วนมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ให้อำนาจกระทรวงคมนาคมดำเนินการ ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร และถือว่ากระทรวงได้ปฏิบัติตามมติครม.ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เพราะในช่วงที่กระทรวงการคลังยังไม่ลดสัดส่วนหุ้นลง กระทรวงคมนาคมได้สั่งการการบินไทยในประเด็นต่างๆไปแล้ว 5 ข้อ

ประกอบด้วย 1.จัดทำบัญชีทรัพย์สิน และบัญชีหนี้สิน 2.จัดทำร่างทีโออาร์จัดจ้างที่ปรึกษาด้านการเงินและด้านกฎหมาย โดยเน้นย้ำว่าต้องมีธรรมาภิบาล   3.จัดทำแผนการบริหารสภาพคล่องของบริษัท 4. ให้ฝ่ายบริหารการบินไทยให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลต่อคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในการบริหารงานกิจการ และปัญหาการทุจริต ที่นายถาวร เสนเนียมรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม แต่งตั้งขึ้น และ 5. เสนอบัญชีรายชื่อคณะผู้จัดทำแผนและผู้บริหารแผน

“ส่วนจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ และขั้นตอนการยื่นแผนฟื้นฟูรวมไปถึงการเสนอผู้จัดทำแผนก็เป็นเรื่องที่การบินไทยจะพิจารณานำไปทำต่อเอง“

ขณะที่การจัดตั้งคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 143/2563 ก็มีเจตนารมณ์ที่จะฟื้นการบินไทยให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้งเท่านั้น และท่านนายกเป็นผู้จัดตั้งเองทั้งหมด ซึ่งท่านเองยังพูดเองเลยว่า ถ้าวันใดที่การบินไทยฟื้นตัวแล้ว อาจจะกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจอีกครั้งก็ได้ 

กรณีที่มีผู้แทนของกระทรวงคมนาคมเข้าไปร่วมด้วย 2 คน คือ นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) เกิดจากการหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีและนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) ซึ่งกระทรวงการคลังเป็นผู้สอบถามว่า ทางคมนาคมจะเสนอใครเป็นบอร์ด จึงเรียนตอบไปว่า กระทรวงคมนาคมคงไม่มีสิทธิ์ไปเสนออะไร เพราะไม่ได้กำกับดูแลการบินไทยแล้ว เป็นเรื่องของกระทรวงการคลัง 

“ท่านรองวิษณุจึงเสนอให้มีตัวแทนจากกระทรวงคมนาคมเข้ามาร่วมด้วยในฐานะที่เคยกำกับการบินไทย เพื่อประสานงานและเสนอแนะข้อมูลต่างๆ ตนจึงเห็นว่าควรเสนอชื่อปลัดกระทรวงคมนาคมและผอ.สนข.เข้าไป ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งอะไรกับกระทรวงการคลังและไม่มี Walk-Out ตามที่สื่อนำเสนอข่าวแต่อย่างใด แต่ที่รีบกลับเพราะหารือจบแล้วและมีประชุมคณะกรรมการร่วมรถไฟไทย-จีนต่อ”